ข้าวแช่ คือ อาหารชนิดหนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยข้าวสุกขัดแช่น้ำเย็น (น้ำลอยดอกไม้) กินคู่กับเครื่องเคียงต่าง ๆ อย่างเช่น ลูกกะปิ พริกหยวกสอดไส้ ผักกาดเค็มผัดหวาน ปลาแห้ง และเครื่องผัดหวานต่าง ๆ โดยเชื่อกันว่า ข้าวแช่นั้นเดิมทีเป็นอาหารพื้นบ้านของชาวมอญ นิยมทำสังเวยเทวดาในช่วงตรุษสงกรานต์ ต่อมาชาววังรับไปปรับปรุงจึงทำให้ได้ชื่อว่า "ข้าวแช่เสวย" หรือ "ข้าวแช่ชาววัง" ในปัจจุบันข้าวแช่นับว่าหากินง่ายขึ้น ส่วนเจ้าไหนจะถูกหรือจะผิดเพี้ยนไปจากเดิมอันนี้เราไม่ทราบ แต่อย่างไรก็หวังว่าอยากจะให้ขั้นตอนของการทำตัวข้าวแช่นั้นถูกต้องตามแบบฉบับที่เคยมีมา ส่วนเครื่องเคียงต่าง ๆ ก็ปรับเปลี่ยนส่วนผสมได้เล็กน้อยตามสมัย เพราะบางส่วนผสมก็หาซื้อได้ยากแล้ว ครั้งนี้แม่บ้านเลยขอนำเสนอสูตร "ข้าวแช่ชาววัง อาหารไทยเย็นชื่นใจคลายร้อน" มาฝากเพื่อน ๆ ให้ลองทำตามกันดูในช่วงหน้าร้อนนี้
การเตรียมน้ำข้าวแช่
1.เทียนอบ ๆ หม้อดินปิดฝาสนิท 1 คืนแล้ว ใส่น้ำต้มสุก ทิ้งไว้ให้เย็น
2.ดอกกระดังงา 3-5 ดอก ลนด้วยเปลวไฟเทียนอบ แล้วฉีกใส่หม้อน้ำ
3.ดอกมะลิ เลือกดอกใกล้จะบาน ปลิดก้านออกล้างน้ำให้สะอาด ตอนค่ำพอแย้มหยิบลงลอยทีละดอกอย่าให้แน่นนัก ปิดฝาทิ้งไว้ รุ่งเช้าค่อย ๆ ช้อนขึ้นจากน้ำเบา ๆ มือ กรองน้ำปิดฝาให้สนิท
การหุงข้าว
ส่วนผสม
ข้าวจ้าวเก่า |
1 ถ้วยตวง |
น้ำลอยดอกมะลิ |
5 ถ้วยตวง |
น้ำมะนาว |
1 ช้อนชา |
วิธีทำ
1.ซาวข้าวให้สะอาด
2.เทน้ำใส่หม้อ ใสน้ำมะนาว ตั้งไฟพอเดือด ใส่ข้าว ลดไฟลง พอข้าวสุกเป็นตากบเทใส่ตะแกรง ยกตะแกรงวางบนปากชามอ่าง ใส่น้ำเย็นจนท่วมข้าวนิดหน่อย ปล่อยไว้จนข้าวเย็น
3.ขัดข้าวโดยใช้มือสีข้าวไปมากับตะแกรงเบา ๆ มือ ระวังอย่าให้แรงมากเม็ดข้าวจะหัก ขัดพอให้ข้าวหมดเมือกขึ้นเป็นเงาและเม็ดข้าวใส
4.ปูผ้าขาวบางในอ่างลังถึง เทข้าวลงบนผ้านึ่งในน้ำเดือดประมาณ 4-5 นาที พอข้าวไม่เป็นไตสุกระอุดียกลงปล่อยไว้ให้เย็น
5.ห่อ ด้วยผ้าขาวบาง วางบนน้ำแข็งก่อนใหญ่ หรือเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา
6.เวลาจะรับประทาน ตักข้าวใส่ถ้วย ใส่น้ำข้าวแช่พอท่วมข้าวใส่น้ำแข็งทุบ รับประทานกับเครื่องชนิดต่าง ๆ
เครื่องที่รับประทานกับข้าวแช่
กะปิทอด พริกหยวกสอดไส้ หัวหอมสอดไส้ ปลาช่อนผัดหวาน หัวผักกาดเค็มผัดหวาน
ผักที่ใช้รับประทานคู่กับข้าวแช่
แตงกวา มะม่วงดิบ กระชาย ต้นหอม ทุกชนิดจัดและแกะให้เป็นดอกสวยงาม ใช้ตกแต่งทำให้อาหารน่ารับประทานยิ่งขึ้น
ลูกกะปิทอด
ส่วนผสม
ปลาดุกย่างแกะเอาแต่เนื้อ |
150 กรัม |
กระชายหั่นแว่นบาง |
30 กรัม |
ตะไคร้ซอย |
3 ช้อนโต๊ะ |
หอมแดงซอยหยาบ |
1 / 2 ถ้วยตวง |
กะปิอย่างดี |
50 กรัม |
น้ำตาลปี๊บ |
160 กรัม |
กะทิ |
3 / 4 ถ้วยตวง |
ไข่เป็ด |
1 ฟอง |
แป้งข้าวเจ้า |
6 ช้อนโต๊ะ |
น้ำปูนใส |
3 - 4 ช้อนโต๊ะ |
น้ำมันพืชสำหรับทอด |
3 ถ้วยตวง |
วิธีทำ
1.โขลกตะไคร้ กระชาย หอมแดง ให้ละเอียด ใส่กะปิ เนื้อปลาดุก โขลกต่อจนเป็นเนื้อเดียวกัน
2.ใส่กะทิลงในกระทะตั้งไฟให้เดือด ตักส่วนผสมข้อที่ 1 ลงผัด ใส่น้ำตาลปี๊บ ผัดให้แห้ง ตักขึ้นพักไว้ให้เย็นปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ
3.นำแป้งข้าวจ้าวใส่ภาชนะ ใส่ไข่เป็ด คนให้เข้ากัน ค่อย ๆ ใส่น้ำปูนใส ให้มีลักษณะข้นปานกลาง
4.ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะตั้งไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อนน้ำกะปิที่ปั้นไว้ลงชุบในน้ำแป้งใส่ลงถาดพอเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
ปลาหวาน
ส่วนผสม
ปลาช่อนนึ่งสุกแกะเอาแต่เนื้อ |
450 กรัม |
น้ำตาลปี๊บ |
350 กรัม |
แบะแซ |
60 กรัม |
น้ำเปล่า |
50 กรัม |
เกลือป่นหยาบ |
3 ช้อนชา |
น้ำมันเจียวหอม |
3 ช้อนโต๊ะ |
วิธีทำ
1.นำเนื้อปลาโขลกให้เป็นปุย
2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันเจียวหอมเล็กน้อย นำเนื้อปลาลงคั่วพัดพอแห้ง ตักใสภาชนะ
3.ใส่น้ำมันเจียวหอมที่เหลือ น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น แบะแซ น้ำเปล่า คนให้เข้ากัน ใส่เนื้อปลา ผัดต่อจนแห้ง มีลักษณะเหนียว ตักขึ้นพักไว้
หัวผักกาดผัดหวาน
ส่วนผสม
หัวผักกาดเค็มหั่นเส้นยาว |
200 กรัม |
น้ำตาลปี๊บ |
70 กรัม |
น้ำเปล่า |
1 / 4 ถ้วยตวง |
กระเทียมสับ |
1 ช้อนชา |
น้ำมันพืช |
2 ช้อนโต๊ะ |
วิธีทำ
1.ล้างหัวผักกาดเค็มหลายๆน้ำ จนคลายความเค็ม ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวพอเหลืองหอม ใส่หัวผักกาด ผัดจนหอม ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำเปล่า ผัดไฟอ่อนจนกระทั่งแห้งและเหนียวจะมีลักษณะเงาใสตักขึ้น
หอมทอด/พริกหยวกยัดไส้
ส่วนผสม
หอมแดงคว้าน |
10-20 เม็ด |
พริกหยวก |
10-15 เม็ด |
หมูสับ |
200 กรัม |
เนื้อกุ้ง |
200 กรัม |
ไข่ไก่ |
2 ฟอง |
กระเทียม |
2 ช้อนโต๊ะ |
รากผักชี |
2 ช้อนชา |
พริกไทยป่น |
1 ½ ช้อนชา |
น้ำปลา |
1 ช้อนชา |
เกลือป่นไทย |
1 / 2 ช้อนชา |
น้ำตาลปี๊บ |
1 ช้อนชา |
วิธีทำ
1.ล้างพริกหยวก คว้านไส้ออก เก็บขั้วพริกไว้
2.โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย ให้ละเอียด ผสมกับหมูสับ เนื้อกุ้ง เติมน้ำปลา คนให้เข้ากันและจนเหนียว บรรจุลงในพริกหยวกและหอมแดง ปิดขั้วพริกที่เก็บไว้ นำไปนึ่งให้สุก 10 นาที ทิ้งไว้ให้เย็น
3.ต่อยไข่ คนพอเข้ากัน โรยเป็นตาข่ายในกระทะแบน เมื่อเย็นแล้วนำมาห่อพริกข้อ 2 ให้สวยงาม