คุกกี้ เป็นหนึ่งในบรรดาขนมอบที่หลายคนชื่นชอบ เนื่องจากเป็นขนมชิ้นเล็ก ๆ ที่รับประทานได้ง่าย มีหลากหลายรสชาติ จึงทำให้กลายเป็นขนมอบยอดนิยมทั่วทั้งโลก คำว่าคุกกี้มาจากคำในภาษาดัตช์ koekje ซึ่งหมายถึง “เค้กชิ้นเล็ก ๆ” แรกเริ่มเดิมทีนั้นคุกกี้ทำโดยการแบ่งแป้งขนมเค้กที่ผสมแล้วออกมาส่วนหนึ่ง จากนั้นแบ่งออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำเข้าเตาอบ เพื่อทดสอบอุณหภูมิที่จะใช้อบขนมเค้ก คำว่า “คุกกี้” (Cookie) ใช้กันในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ในขณะที่สหราชอาณาจักร จะเรียกขนมแบบเดียวกันนี้ว่า “บิสกิต” (Biscuit)

ตามประวัติศาสตร์ก็ปรากฏเอาไว้ว่า ชนชาติดัชต์เป็นที่แรก ๆ ที่รู้จักคุกกี้ จนเมื่อศตวรรษที่19ความหอมอร่อยของคุกกี้ก็ดังไกลไปถึงประเทศอังกฤษ     ต่อมาก็ไปโด่งดังอยู่ในประเทศสกอตแลนด์ เรื่อยไปยังรัฐแมสซา-ชูเซตส์ของประเทศสหรัฐอเมริกา และยังมีข้อมูลระบุไว้ด้วยว่าที่นี่เองเป็นที่ที่เริ่มดัดแปลงเติมถั่วเข้าไปในคุกกี้เป็นที่แรก และนับแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ก็ได้มีสูตรคุกกี้เกิดขึ้นอีกมากมาย

แต่จะแบ่งเป็น 6 ประเภท ได้แก่   

1. คุกกี้หยอด (Dropped Cookies) เป็นคุกกี้ประเภทซอฟท์คุกกี้ หรือคุกกี้นิ่ม โดยมักจะใช้ช้อนหรือสคูปไอศกรีมตักหยอดลงบนถาดที่ทาเนยขาวบาง ๆ เมื่อสุกแล้วจะกลมและนูนตรงกลาง หรืออาจจะมีรูปร่างอื่นไม่ตายตัว

2. คุกกี้ตัด หรือคุกกี้แช่เย็น ลักษณะคุกกี้จะเป็นแบบแช่แข็งจากนั้นนำมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ การขึ้นรูปของคุกกี้จะนำแป้งที่ได้มารีดเป็นก้อนยาว ๆ  แล้วห่อด้วยพลาสติกหรือกระดาษไขนำไปแช่ตู้เย็น เมื่อคุกกี้อยู่ตัวแล้วจึงนำมาตัด เรียงใส่ถาดแล้วนำเข้าอบจนสุก ลักษณะเนื้อคุกกี้ที่ได้จะกรอบ แข็ง   
          
3. คุกกี้ปั้น (Molded Cookies) เป็นคุกกี้ที่มีส่วนผสมของของแห้ง และมักจะอยู่ตัว จึงสามารถนำมาปั้นเป็นรูปร่างได้ ลักษณะคล้ายกับคุกกี้หยอดแต่มีความอยู่ตัวมากกว่า

4. คุกกี้กด (Pressed Cookies) เป็นคุกกี้ที่ใช้พิมพ์กดเป็นรูปต่าง ๆ หรือใช้พวกหัวบีบทองเหลืองบีบเป็นรูปร่างต่าง ๆ            

5. คุกกี้คลึง (Rolled Cookies) ลักษณะคล้ายคุกกี้แช่เย็น เนื้อคุกกี้ค่อนข้างแห้งและแข็งกว่าชนิดอื่น ๆ เพราะหากแป้งนิ่มจะคลึงยาก แต่มีลักษณะเด่นคือสามารถนำมาทำรูปร่างต่าง ๆ ได้       

6. คุกกี้บาร์(Bar Cookies) ลักษณะของคุกกี้จะมี 2 อย่างผสมกัน  คือ มีลักษณะของเค้กและคุกกี้อยู่ในตัวเดียวกัน คุกกี้แบบนี้จะต่างกับแบบอื่นคือ จะเอาแป้งที่ผสมแล้วใส่ถาดแล้วเกลี่ยหน้าให้เรียบ จะอบขนมทั้งถาดแบบเดียวกับเค้ก แต่ถาดจะมีความตื้นกว่า เมื่อขนมสุกจะนำมาตัดเป็นแท่งหรือรูปร่างตามชอบ แล้วจึงนำออกจากถาด