ผลไม้รสเปรี้ยว ลดโรค

หน้าแรก      สาระน่ารู้
ถูกใจ
0    18,098    1    13 ก.พ. 2560 17:30 น.   
แบ่งปัน
ผลไม้รสเปรี้ยว ลดโรค

รสเปรี้ยวถือเป็นอีกหนึ่งรสชาติที่ได้รับความนิยมไม่แพ้รสเค็ม เผ็ด หรือหวานเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะช่วยเสริมความอร่อยและกลมกล่อมที่มากขึ้นแล้ว รสเปรี้ยวยังช่วยดับความกระหายและกระตุ้นความอยากอาหารได้อีกด้วย โดยรสเปรี้ยวมักพบมากในผักผลไม้ทั่วไป อย่าง ระกำ มะยม มะม่วง ที่นอกจากจะหารับประทานได้ง่ายแล้ว ยังเป็นผลไม้ที่นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารที่ต้องการรสเปรี้ยวอยู่หลายชนิดด้วยกัน โดยเฉพาะในอาหารไทย ที่ไม่ว่าจะนำไปทำของหวาน ของคาว เครื่องเคียง ผักแนม หรือของดองต่าง ๆ ก็เรียกได้ว่าอร่อยกันแบบไม่รู้ลืมเลยทีเดียว

ระกำ กับรสเปรี้ยวช่วยเสริมอาหารไทย...ผลดิบของระกำจะมีรสฝาดและรสเปรี้ยว ส่วนผลสุกนั้นจะมีรสเปรี้ยวอมหวาน เนื้อของระกำจะออกสีเหลืองส้ม ในระกำยังมีคาร์โบไฮเดรตจากน้ำตาลผลไม้ให้พลังงานแก่ร่างกายและยังมีวิตามินแร่ธาตุอีกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น สารต้านอนุมูลอิสระ อย่างวิตามิน C รวมถึงมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่สำคัญต่อกระดูกและฟัน อีกทั้งมีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร เป็นยาระบายอ่อน ๆ ขับเสมหะ และแก้อาการไอได้เป็นอย่างดี ซึ่งผลระกำที่ยังไม่สุกสามารถใช้ปรุงอาหารคาว เพื่อเพิ่มรสชาติได้หลากหลายเมนู
 
มะยม ผลเล็ก เปรี้ยวจี๊ดกินกี่ทีก็ไม่เบื่อ...มะยมจัดเป็นผลไม้พื้นบ้านที่หารับประทานได้ง่ายมาก ๆ โดยการนำผลมะยมมาจิ้มกับพริกเกลือ แต่ถ้าใช้ประกอบอาหารมักจะนำมาทำเป็นลาบ ส้มตำ ส่วนยอดนิยมใช้เป็นผักสดที่รับประทานคู่กับลาบ ขนมจีน และส้มตำ หรือจะนำมาทำเป็นของหวาน รวมทั้งทำเป็นเครื่องปรุงอย่างน้ำส้มสายชูนั่นเอง ซึ่งสรรพคุณของมะยมก็มีอยู่มาก เพราะมีทั้งวิตามิน E และ C สูง ที่ช่วยซ่อมแซมผนังเซลล์ผิวหนังและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย นอกจากนี้ทุกส่วนของมะยมยังมีสรรพคุณที่ช่วยเรื่องอาการท้องเสีย เป็นยาระบายอ่อน ๆ และยังมีน้ำตาลที่เป็นตัวช่วยเสริมให้แก่ร่างกายได้เช่นกัน

มะม่วง กับความเปรี้ยว รสชาติที่เราคุ้นเคย...เป็นผลไม้ที่หารับประทานได้ง่ายมาก ๆ  สามารถรับประทานได้ทั้งดิบและสุก หรือจะนำไปประกอบอาหาร ยอดอ่อน ๆ สามารถนำมาเป็นผักเคียงน้ำพริก หรือยำกับปลากระป๋องก็อร่อยไม่น้อย หรือจะนำมาทำเป็นของหวาน ส่วนสารอาหารที่มีอยู่ในมะม่วง ได้แก่ วิตามิน C ซึ่งมีมากกว่ามะนาวถึง 3 เท่า และดูดซึมธาตุเหล็กได้เป็นอย่างดี โดยจะมีมากในมะม่วงดิบมากกว่ามะม่วงสุก นอกจากนี้มะม่วงดิบยังมีสารตั้งต้นของวิตามิน A ที่ช่วยบำรุงสายตา รวมทั้งคาร์โบไฮเดรตที่มาในรูปแบบของแป้ง แต่เมื่อกลายเป็นมะม่วงสุกแป้งก็จะกลายเป็นน้ำตาล พวกกลูโคส ฟรักโทส และซูโครสแทน ซึ่งน้ำตาลเหล่านี้ที่มีอยู่ในมะม่วงสุกไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้
สาระน่ารู้อื่นๆ