3 พระเอกหลัก... ในหม้อซุป

หน้าแรก      สาระน่ารู้
ถูกใจ
0    5,567    0    28 ก.ค. 2559 : น.   
แบ่งปัน

น้ำซุปที่เราคุ้นตากันอยู่นั้นมีหลายชนิด... คนไทยนิยมรับประทานซุปแบบใสกันมากกว่าซุปแบบข้น เนื่องจากบ้านเราเป็นเมืองร้อน เวลาจะซดน้ำซุปก็อยากให้สดชื่นแบบใส ๆ มากกว่าข้นเข้มแบบยุโรป ดังนั้นการทำน้ำซุปจึงมีอยู่หลายวิธี ไม่ว่าจะนำผักหลายชนิดมาต้มด้วยไฟอ่อนจนเดือดกลายเป็นน้ำซุปผัก หรือจะนำกระดูกหมูมาต้มจนเปื่อยได้น้ำซุปรสหวานอร่อย แต่ทุกครั้งที่ทำน้ำซุปมักมีเครื่องเทศหรือสมุนไพรเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ เพราะนอกจากช่วยเพิ่มรสเพิ่มกลิ่นแล้ว สมุนไพรหรือเครื่องเทศเหล่านี้ยังมีหน้าที่คล้ายยาเพิ่มคุณค่าให้กับจานอาหารด้วยเช่นกัน...

เครื่องเทศและสมุนไพรที่เห็นเป็นประจำคือ กระเทียม รากผักชี พริกไทย...ทุกอย่างจะถูกบุบพอแหลกแล้วจับมัดรวมในถุงผ้าสีขาวก่อนนำไปต้มรวมกับผักหรือกระดูกสัตว์ คุณสมบัติหลักที่ทำให้ทั้งสามอย่างนี้กลายเป็นพระเอกในหม้อซุปก็คือ “กลิ่นหอม” ส่วนสรรพคุณนั้นมีต่างกันไป เริ่มจาก กระเทียม ที่อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี ธาตุซีลีเนียม ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี นอกจากนี้ยังมีสารอะดิโนซีน ซึ่งเป็นกรดนิวคลีอิกที่เป็นตัวสร้างDNA และ RNA ของเซลล์ในร่างกายอีกด้วย แม้ว่าประโยชน์ของกระเทียมจะมีมากมาย แต่ก็ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน และก่อนที่คุณจะรับประทานกระเทียมแต่ละครั้ง ควรปอกเปลือกและนำมาล้างน้ำก่อนนำไปปรุงอาหาร เนื่องจากกระเทียมที่ถูกเก็บไว้เป็นเวลานานอาจทำให้เกิดเชื้อราได้...

พริกไทย รสเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอม... พริกไทยที่เรานำมาปรงุ อาหารมอี ยู่ 3 ชนดิ คอื พรกิ ไทยสด พริกไทยดำ และพริกไทยขาว พริกไทยสดสีเขียวมีลักษณะเป็นช่อยาว นำมาปรุงอาหารได้หลายประเภท ส่วนพริกไทยดำ และพริกไทยขาวจะมาในรูปแบบแห้ง มักนำมาบดให้ละเอียดแล้วใช้ปรุงรสเพิ่มความหอม หรือไม่ก็นำมาบุบพอแตกแล้วใส่ลงในต้มจืดได้เช่นกัน สรรพคุณของพริกไทยมีมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะช่วยเรื่องอาการท้องอืด แน่นจุกเสียดแล้ว ยังช่วยขับเสมหะ บำรุงธาตุ ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ แก้มุตกิด (ระดูขาว) แก้ลม อัมพฤกษ์ ในเมล็ดพริกไทยมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันมะเร็ง และมีฤทธิ์กระตุ้นประสาทได้ดี ก่อนนำพริกไทยมาปรุงอาหารควรล้างให้สะอาดสำหรับพริกไทยสด ส่วนพริกไทยดำและพริกไทยขาวก็ควรเลือกเม็ดที่ไม่ลีบมาปรุง เพราะจะทำให้มีกลิ่นหอมมากกว่าปกติ ที่สำคัญคือควรเก็บไว้ในที่แห้งสะอาด และอับแสง...

รากผักชี ของดีจากใต้ดิน... ปกติเมื่อเราซื้อผักชีมาใช้ปรุงอาหาร ส่วนที่เราต้องตัดทิ้งไปคือรากของมัน และจะนำรากมาห่อให้ดีก่อนเก็บไว้ในตู้เย็น เมื่อทำซุปหรือแกงจืดก็แค่นำมาล้างอีกครั้ง บุบพอแตกแล้วนำใส่ในหม้อ รากผักชีมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับเมนูอาหาร  มีฤทธิ์ในการขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อและขับปัสสาวะ บางบ้านจะนำผักชีทั้งต้นมาล้างให้สะอาดแล้วนำไปต้ม คั้นเฉพาะน้ำออกมาดื่มใช้เป็นยาระบาย แก้หัดหรือผื่นได้ดี ในส่วนของรากที่นิยมนำมาใช้ทำน้ำซุปนั้นควรตัดให้เหลือโคนไว้ประมาณ 1เซนติเมตร เพราะส่วนที่หอมที่สุดก็คือบริเวณโคนนั่นเอง...
สาระน่ารู้อื่นๆ