ส.ค.ส. พระราชทาน เป็นบัตรส่งความสุขซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงประดิษฐ์ขึ้นด้วยพระองค์เอง เพื่อพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2530 |
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2531 |
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2532 |
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2533 |
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2534 |
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2535 |
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2536 |
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2537 |
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2538 |
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2539 |
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2540 |
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2541 |
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2542 |
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2543 |
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2544 |
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2545 |
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2546 |
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2547 |
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2549 |
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2550 |
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2551 |
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2552 |
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2553 |
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2554 |
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2555 |
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2556 |
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2557 |
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2558 |
|
|
|
|
|
|
ส.ค.ส. พระราชทาน ปีพ.ศ. 2559 |
|
|
|
|
|
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะพระราชทานพรปีใหม่ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีโทรทัศน์ทุกสถานี นอกจากนี้ ยังทรงปลีกเวลาจากพระราชกรณียกิจมาปรุแถบโทรพิมพ์ (เทเล็กซ์) พระราชทานพรปีใหม่แก่เจ้าหน้าที่ผู้ถวายงานโดยทรงใช้รหัสแทนพระองค์ว่า "กส. 9" เช่นเดียวกับที่ทรงใช้ติดต่อทางวิทยุสื่อสาร ดังที่ทรงระบุท้ายโทรพิมพ์ว่า "กส. 9 ปรุ" ส.ค.ส. พระราชทานที่เป็นโทรพิมพ์เหล่านี้เริ่มเผยแพร่สู่สาธารณชน เมื่อปี 2530
เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น จึงทรงเริ่มต้นประดิษฐ์ ส.ค.ส. พระราชทานด้วยคอมพิวเตอร์ส่วนพระองค์เมื่อปี 2531 โดยทรงพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ขาวดำ และโปรดให้โทรสาร (แฟกซ์) ไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ข้อความใน ส.ค.ส. พระราชทานแต่ละปีจะประมวลขึ้นจากเหตุการณ์บ้านเมือง เพื่อสะท้อนปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ประเทศไทยต้องประสบในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ในภายหลัง หนังสือพิมพ์รายวันจึงนิยมนำ ส.ค.ส. พระราชทาน ลงตีพิมพ์ในฉบับเช้าวันที่ 1 มกราคม
นับแต่ทรงใช้คอมพิวเตอร์ประดิษฐ์ ส.ค.ส. พระราชทาน ทรงเปลี่ยนแปลงคำลงท้ายของ ส.ค.ส. พระราชทาน เป็น "ก.ส. 9 ปรุง" เนื่องจากทรงเปลี่ยนจากการ "ปรุ" ด้วยโทรพิมพ์ เป็นการ "ปรุง" ด้วยคอมพิวเตอร์ ถัดจากนั้น จะทรงระบุวันและเวลาที่ทรงประดิษฐ์ขึ้น เป็นรูปแบบเฉพาะ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะพระราชทาน ส.ค.ส. ในวันสิ้นปี (31 ธันวาคม) ของทุกปี แต่มิได้พระราชทานสำหรับปี 2548 เพราะเกิดแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงใช้วันที่ขนาดย่อดังนี้
- ว เป็น วันที่
- ช เป็น เวลาเป็นชั่วโมง
- น เป็น เวลาเป็นนาที
- ด เป็นเดือน
- ป เป็น ปี
โดยทรงนำมาวางดังนี้ วว ชช นน ด.ด. ปปปป
ภายหลังพระองค์ทรงปรับปรุงเรียงใหม่อีกครั้งโดยเรียงเป็น ววชชนน ด.ด. ปป ใช้ใน ส.ค.ส. พระราชทานปี 2549 เป็นต้นมา
อนึ่ง ส.ค.ส. พระราชทานตั้งแต่ พ.ศ. 2549 เป็นต้นมาเป็นภาพสี และคำลงท้ายของมีข้อความ "พิมพ์ที่โรงพิมพ์สุวรรณชาด ท.พรหมบุตร, ผู้พิมพ์โฆษณา"(ใน ส.ค.ส. ปี 2549-2557)"Printed at the Suvarnnachad, D.Brahmaputra, Publisher"(ใน ส.ค.ส. ปี 2549, 2551-2557)"Printed at the Suvarnnachad Publishing, C.Brahmaputra, Publisher"(ใน ส.ค.ส. ปี 2550) และ "มหาวิทยาลัยปูทะเลย์ มิถิลา"(ใน ส.ค.ส. ปี 2558-ปัจจุบัน) เช่นเดียวกับ กรอบของ ส.ค.ส. เป็นภาพใบหน้าคนเล็ก ๆ เรียงกัน ด้านซ้ายและด้านขวาเรียงกันด้านละ 3 แถว ส่วนด้านบนและด้านล่าง เรียงกันด้านละ 2 แถว ทุกหน้า มีแต่รอยยิ้ม
การเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์
วันที่ 2 มกราคม 2553 สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำสาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ตั้งกระทู้ในเว็บบอร์ด โดยมีเนื้อหาเชิงตั้งข้อสังเกตว่า ส.ค.ส. ประจำปี พ.ศ. 2553 มิได้ใช้รูปแบบเฉพาะของการระบุวันเดือนปีและเวลา ที่ตามหลังข้อความ ก.ส. 9 ปรุง ดังที่ทรงใช้มาทุกปี
รูปแบบที่เปลี่ยนใหม่ เริ่มจากเวลาเป็นชั่วโมง เวลาเป็นนาที แล้วจึงเป็น วัน เดือน และปี ตามลำดับ นอกจากนี้ ตัวเลขที่ประทับอยู่มุมขวาตอนล่างของพระบรมฉายาลักษณ์ที่เป็น ส.ค.ส. ในปีดังกล่าว ซึ่งเป็นเวลาฉายภาพคือ 15 นาฬิกา 25 นาทีนั้น เป็นเวลาเดียวกับที่ตามหลังข้อความ ก.ส. 9 ปรุง อันเป็นเวลาที่นำภาพมาประดิษฐ์เป็น ส.ค.ส. ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในเชิงเหตุผล ที่เวลาทั้งสองส่วนดังกล่าว จะเป็นเวลาเดียวกันพอดี
ขอบคุณข้อมูลจาก th.wikipedia.org
http://bit.ly/2ecfj9w
ขอบคุณภาพจาก ohm.go.th
http://bit.ly/2dqUF2y