มหกรรมกีฬาระดับโลกปีนี้มีให้รับชมกันอย่างแพร่หลาย นับจากบอลยูโร ตามมาด้วยโอลิมปิกที่กลายเป็นประเด็นสนทนาของคนทั่วโลก ไม่ว่า พิธีเปิดและปิดแสนอลังการ ไปจนผลการแข่งขันพลิกล็อกอีกมากมาย อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ คือ การที่แบรนด์ต่างๆ ใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งในการชิงโอกาสเพิ่มการรับรู้ในแบรนด์และสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคผ่านมหกรรมกีฬาเหล่านี้

ข้อมูลจากการสำรวจของนีลเส็น ผู้ให้บริการสื่อและข้อมูลการตลาดระดับโลกที่เผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้ ชี้ว่า การรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ก่อนการแข่งขันโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีสเพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อปี 2021 ที่กรุงโตเกียว (https://www.nielsen.com/insights/2024/olympics-prove-value-long-term-brand-building/) สะท้อนประสิทธิภาพของกลยุทธ์การตลาดที่ใช้กีฬาเข้ามาเป็นตัวเชื่อมระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกีฬาเป็นกิจกรรมที่คนทุกเพศทุกวัยเข้าถึงได้ง่าย กีฬาแต่ละประเภท แต่ละทีม และนักกีฬาแต่ละคนมีแฟนคลับที่เหนียวแน่น ในขณะเดียวกัน ยังมีมิติด้านอารมณ์ความรู้สึก คือการเชื่อมโยงบุคลิก หรือจุดยืนของแบรนด์ที่เหมือนกับกีฬาหรือนักกีฬานั้น การนำแบรนด์เข้าไปผูกหรือทำกิจกรรมกับกีฬาหรือนักกีฬาเหล่านี้จึงเพิ่มโอกาสที่จะสร้างความคุ้นเคยและชื่นชมในแบรนด์นั้นๆ  มากยิ่งขึ้น

ค่ายรถยนต์ระดับโลกอย่างนิสสัน นับเป็นหนึ่งในแบรนด์ยานยนต์ชั้นนำที่ใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยแบรนด์ยึดมั่นในการ “Enriching People’s Lives”  หรือการสร้างสีสันให้กับชีวิตผู้คนผ่านนวัตกรรมต่างๆ ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ หรือ “Innovation of Excitement” หนึ่งในนั้นคือการสนับสนุนการแข่งขันกีฬาระดับโลกและระดับประเทศมากมายทั้งมอเตอร์สปอร์ตอย่างฟอร์มูล่าอี และกีฬาอื่นๆ เช่น ฟุตบอลลีกระดับประเทศและระดับโลก อาทิ ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก รวมทั้งการเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลชั้นนำของเจลีกอย่าง โยโกฮามา เอฟ มารินอส เป็นต้น

ล่าสุด นิสสันได้จับมือร่วมเป็นพันธมิตรกับ วัน แชมเปียนชิพ (ONE Championship) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคอนเทนท์ระดับโลกด้านศิลปะป้องกันตัวแบบผสมผสานและศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยสร้างสีสันความตื่นเต้นครั้งใหม่กับการดึงเอานักมวยดาวรุ่ง  “ตะวันฉาย พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม” เจ้าของแชมป์โลกมวยไทยรุ่นเฟเธอร์เวต มาเป็นตัวแทนช่วยสื่อสารดีเอ็นเอ “ทน พร้อม ลุย” ของนิสสัน นาวารา ในแคมเปญการตลาดล่าสุด เพื่อสนับสนุนการเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ที่มาพร้อมการดีไซน์ภายในใหม่สปอร์ต พรีเมียมมากยิ่งขึ้น

อัจจิมา วรรณพินทุ รองประธานสายงานการตลาด นิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า การเป็นพันธมิตรกับวัน แชมเปียนชิพ เป็นอีกก้าวสำคัญของนิสสันที่จะนำแบรนด์เข้าไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยอาศัยคอนเทนต์แพลตฟอร์มระดับโลกของวัน แชมเปียนชิพ เพื่อสร้างความตื่นเต้น เร้าใจ และมีสีสัน  สร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าได้มากขึ้น  โดยเฉพาะมวยไทยซึ่งเป็นศิลปะป้องกันตัวประจำชาติไทยที่ได้รับความนิยมทั่วโลก

“สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ถือเป็นนวัตกรรมด้านการตลาดที่สำคัญ เพราะกีฬาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต สร้างความสุข ความตื่นเต้น ส่งเสริมสุขภาพ และสร้างมิตรภาพระหว่างแฟนๆ กีฬา สามารถเชื่อมโยงลูกค้ากับแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสะท้อนจุดยืนหรือบุคลิกของแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ได้ชัดเจนผ่านกิจกรรมกีฬา ศิลปะป้องกันตัวแบบผสมผสาน เช่น มวยไทย เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่นิสสันให้ความสำคัญ รวมทั้งยังมีเอกลักษณ์ มีคุณสมบัติเดียวกับนิสสัน คือ ความแข็งแกร่งทนทาน สะท้อนการต่อสู้อย่างทรหดอดทน การสนับสนุนกิจกรรมกีฬานี้จึงจะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าของเรา และเพื่อให้ลูกค้าต่างมั่นใจและพูดเป็นเสียงเดียวกันเช่นเดียวกับสโลแกนในปัจจุบันของนิสสัน ประเทศไทย ที่ว่า YES! NISSAN” อัจจิมากล่าว

นอกจากการมี ตะวันฉาย พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม มาร่วมสะท้อนดีเอ็นเอความแข็งแกร่งทนทานของนิสสัน นาวาราแล้ว แคมเปญการตลาดในครั้งนี้ยังประยุกต์ใช้กลยุทธ์ Music Marketing โดยร่วมงานกับ “สงกรานต์ รังสรรค์” หรือ สงกรานต์ The Voice นักร้องเสียงทรงพลัง สร้างสรรค์ผลงานเพลงโปรโมทสุดมันส์อย่างเพลง “ทน พร้อม ลุย” ที่มีท่วงทำนองและความหมายที่สร้างความฮึกเหิม ให้กำลังใจกับทุกคนเพื่อลุกขึ้นมาต่อสู้กับชีวิต พร้อมกันกับได้ดึงตะวันฉายมาเป็นพระเอกมิวสิควิดีโอ สร้างสีสันพร้อมกับตอกย้ำคาแรกเตอร์ ทน พร้อม ลุย ที่สอดคล้องกับนิสสัน นาวารา และกลุ่มลูกค้าของนาวาราได้เป็นอย่างดี 

การเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับวัน แชมเปียนชิพ ผ่านกิจกรรมสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งในครั้งนี้ จึงไม่ได้เป็นเพียงเสริมสร้างการรับรู้ของนิสสัน นาวารา ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของกีฬามวยไทยที่น่าภูมิใจของประเทศ พร้อมสร้างสีสันอันน่าตื่นเต้นให้กับกลุ่มลูกค้าและแฟนๆ กีฬา ผ่านภาพลักษณ์ “ทน พร้อม ลุย” ของมวยไทยได้อย่างน่าภาคภูมิ