แคนนอน (CANON) แบรนด์ผู้นำด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพ พร้อมนำคุณสู่โลก 3 มิติที่สมจริงกับการบันทึกภาพแบบ VIRTUAL REALITY (VR) ด้วยเลนส์ฟิชอายรุ่นใหม่
“RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye” ที่มาพร้อมคุณสมบัติขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา และการออโต้โฟกัสที่แม่นยำ โดยเลนส์ฟิชอายรุ่น 2 ของแคนนอนนี้ออกแบบมาสำหรับกล้อง APS-C โดยเฉพาะสามารถใช้งานร่วมกับกล้อง EOS R7 ได้ทันที และยังมีฟีเจอร์เด่นเช่นเดียวกับรุ่น RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye ที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน เพื่อสนับสนุนขั้นตอนการทำงานทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ VR แบบ 3 มิติบนความละเอียดสูงให้ง่ายดายยิ่งขึ้น ช่วยให้คุณสร้างสรรค์คอนเทนต์ VR ได้อย่างสวยงามราวกับมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
คอนเทนต์ VR มอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำและน่าประทับใจยิ่งกว่าให้กับผู้ชม เพราะทำให้เราสามารถสำรวจฉากได้แบบรอบด้าน ครอบคลุมขอบเขตการมองเห็นมากกว่าภาพนิ่งหรือวิดีโอ 2D ทั่วไปในรูปแบบเดิม ๆ ทั้งยังสามารถเลือกได้เองว่าจะมองขึ้น ลง ซ้าย หรือขวา มอบศักยภาพใหม่ ๆ มากมายที่สามารถนำไปใช้ได้ทั้งกับการเล่าเรื่อง การแสดงข้อมูลเสริมในเนื้อหา และการนำเสนอผลงานสร้างสรรค์ต่าง ๆ อย่างไร้ข้อจำกัด
นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “แคนนอนเปิดตัวเลนส์ RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye เพื่อช่วยลดปัญหาของบรรดาครีเอเตอร์ในการเริ่มต้นสร้างคอนเทนต์ VR และเปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไปได้ทดลองสร้างเนื้อหาแบบ VR ได้ง่ายขึ้น เราเชื่อว่าเลนส์รุ่นนี้จะเปิดโลกแห่งโอกาสได้อีกมากมาย เพราะในปัจจุบันผู้คนต่างแสวงหาแนวทางในการทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนใครเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสำหรับกลุ่มคอนเทนต์ครีเอเตอร์นั้น เลนส์ RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye จะเปิดโอกาสให้พวกเขาสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ไม่ซ้ำใครด้วยมุมมองที่สดใหม่ เพื่อสร้างความโดดเด่นในการแข่งขันและสามารถเข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ราคาวางจำหน่าย Canon RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye อย่างเป็นทางการในประเทศไทย 45,990 บาท เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 เป็นต้นไป
สร้างสรรค์ภาพยนตร์ VR ระดับ 4K อย่างง่ายดาย
เลนส์ RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye ประกอบด้วยเลนส์ฟิชอายสองตัวซึ่งติดตั้งเว้นระยะห่างกัน เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye เพื่อให้สามารถถ่ายภาพพร้อมกันสองภาพที่ซ้อนเหลื่อมกันบนเซนเซอร์ภาพตัวเดียว โดยข้อมูลภาพที่ได้จะมีมุมมอง 144° ซึ่งสามารถแปลงเป็นภาพยนตร์ 3 มิติแบบ VR ที่กว้าง 180° ได้ด้วยซอฟต์แวร์ EOS VR Utility หรือ EOS VR Plug-in สำหรับโปรแกรม Adobe Premiere Pro และด้วยการทำงานที่ง่ายดายโดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าเพิ่มเติม ซิงค์ข้อมูลภาพ หรือต่อภาพจากกล้องหลายตัว ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ VR ความละเอียดสูงได้อย่างง่ายดายในราคาที่ไม่แพง
เลนส์ RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye ยังเป็นเลนส์ฟิชอายคู่รุ่นแรกของแคนนอนที่มีออโต้โฟกัส (AF) จึงสามารถจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พร้อมการใช้งานที่ง่ายดายเหมือนเลนส์ RF ทั่วไป ซึ่งเกิดจากกลไกมอเตอร์ STM บนเลนส์คู่ที่ขับเคลื่อนทั้งเลนส์ซ้ายและขวาไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งหากจำเป็น ผู้ใช้ยังสามารถปรับความแตกต่างของโฟกัสซ้าย-ขวาแบบละเอียดได้อย่างง่ายดาย ด้วยวงแหวนควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์และสวิตช์โหมดสำหรับปรับระยะโฟกัสให้แตกต่างกัน
ผู้ใช้ยังสามารถควบคุมตำแหน่งของกรอบ AF ด้วยแอปพลิเคชัน EOS Utility หรือ Camera Connect ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานเมื่อต้องถ่ายภาพในมุมมองที่แปลกตา หรือในสถานที่ที่มีความยากลำบากสำหรับผู้ทำงานหลังกล้อง
มอบคอนเทนต์คุณภาพสูงแม้ถ่ายย้อนแสง
RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye ยังเป็นเลนส์นอกกลุ่ม L รุ่นแรกที่มีการเคลือบผิวเลนส์ป้องกันแสงสะท้อนแบบ ASC (Air Sphere Coating) เพื่อภาพที่ใสสะอาดและคมชัด โดยมีแสงโกสต์และแสงแฟลร์เกิดน้อยที่สุดแม้จะมีแหล่งกำเนิดแสงจ้าอยู่ในกรอบภาพก็ตาม เมื่อใช้งานร่วมกับกล้อง EOS R7 จะช่วยให้เลนส์มีความหนาแน่นของพิกเซลภาพสูง (จำนวนพิกเซลต่อมุมรับภาพ 1°) เทียบเท่าเลนส์รุ่น RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye ในกล้อง EOS R5 เมื่อบันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ให้ภาพความละเอียดสูงทั่วกรอบภาพแบบมุมต่อมุม
ฟีเจอร์ขั้นสูงอื่น ๆ เพื่อการทำงานที่ง่ายขึ้น
เลนส์ RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye มีขนาดเกือบเท่ากับรุ่น RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye แต่น้ำหนักเบากว่าเล็กน้อย (ประมาณ 290 กรัม ไม่รวมตัวยึดฟิลเตอร์ด้านหลัง) การออกแบบที่กะทัดรัดยังช่วยให้พกพาได้สะดวก เลนส์ยังมาพร้อมกับตัวยึดฟิลเตอร์ด้านหลังที่สามารถติดตั้งฟิลเตอร์แผ่น (ฟิลเตอร์เจลาติน) ที่มีจำหน่ายทั่วไป รวมถึงฟิลเตอร์แบบเกลียวขนาด 30.5 มม.