จากความสำเร็จของแคมเปญ ‘The Story from the North’ ในปี 2565 Seafood from Norway ได้เปิดตัวแคมเปญใหม่
‘Norwegian Thai Taste วัตถุดิบอันล้ำค่า...สู่อาหารไทย 4 ภาค
’ เพื่อขยายตลาดและความร่วมมือกับร้านอาหารท้องถิ่น และร้านค้าพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศ ผ่านการผสมผสานอาหารทะเลนอร์เวย์มาสู่มื้ออาหารไทยท้องถิ่น โดยแคมเปญดังกล่าวได้เปิดตัวในกรุงเทพฯ และทำการเดินสายประชาสัมพันธ์ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต และขอนแก่น อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือนสิงหาคม พร้อมกับ ญาญ่า - อุรัสยา เสปอร์บันด์ ที่กลับมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ Seafood from Norway ประเทศไทยอีกครั้ง
นางสาวโอซฮิลด์ นัคเค่น ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้ลิ้มรสความหลากหลายของอาหารไทยอันยอดเยี่ยมจากสี่ภูมิภาค ทั้ง ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยใช้วัตถุดิบอาหารทะเลนอร์เวย์คุณภาพสูงของเรา ภายใต้แคมเปญ ‘Norwegian Thai Taste วัตถุดิบอันล้ำค่า...สู่อาหารไทย 4 ภาค’ และยินดีต้อนรับ ญาญ่า - อุรัสยา เสปอร์บันด์ กลับมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของ Seafood from Norway ประเทศไทยอีกครั้ง แคมเปญนี้ได้มีการร่วมมือกับร้านอาหารท้องถิ่นและร้านค้าพาร์ทเนอร์ เพื่อส่งเสริมการรับรู้เกี่ยวกับอาหารทะเลจากนอร์เวย์ในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย พร้อมทั้งดึงดูดพันธมิตรรายใหม่ที่มีศักยภาพทั่วประเทศ”
สำหรับแคมเปญ
‘Norwegian Thai Taste วัตถุดิบอันล้ำค่า...สู่อาหารไทย 4 ภาค
’ ในครั้งนี้ มีการโปรโมทผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ ผ่านคลิปวิดีโอออนไลน์บน ยูทูป เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม ติ๊กต๊อก สื่อโฆษณานอกบ้าน กิจกรรมประชาสัมพันธ์ รวมถึงการรังสรรค์เมนูพิเศษกับร้านค้าท้องถิ่นสามร้านหลัก ได้แก่ ร้านหวานละมุน จังหวัดเชียงใหม่ ร้านตู้กับข้าว จังหวัดภูเก็ต และร้านเฮือนคำนาง จังหวัดขอนแก่น นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันในร้านค้าพาร์ทเนอร์ ทั้งในแม็คโคร ท็อปส์ บิ๊กซี โลตัส ฟู้ดแลนด์ และธรรมชาติซีฟู้ด ทั่วประเทศ ตลอดช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2567 การเปิดตัวแคมเปญในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นางอัสตริด เอมีเลีย เฮลเล เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทยและกัมพูชา และ เชฟจิ๊บ-ชภรภัช ดาภาชุติสรรค์ เชฟผู้มากประสบการณ์ และผู้เข้าแข่งขันรายการ Hell’s Kitchen ประเทศไทยที่มาโชว์ทำอาหารจากทั้งสี่ภาคให้ชิมกันภายในงาน กับเมนูจี่นอร์วีเจียนซาบะ กับยำมะเฟืองและสาหร่ายญี่ปุ่น ตัวแทนมื้ออาหารภาคกลาง ข้าวซอยแซลมอน ของภาคเหนือ แกงเหลืองนอร์วีเจียนซาบะ และก้านคูณ ของภาคใต้ และหมกแซลมอนกับสมุนไพรไทยสไตล์อีสาน ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
“อาหารทะเลนอร์เวย์ เช่น แซลมอน นอร์วีเจียนซาบะ และฟยอร์ดเทราต์ มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ นำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย และยังมีจุดยืนที่แข็งแกร่งในตลาด เนื่องจากได้รับการเพาะเลี้ยง และจับจากน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดของประเทศนอร์เวย์ ทำให้ปลามีสภาพความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์ สามารถเจริญเติบโตได้ดี นอกจากนี้การทำการประมงในนอร์เวย์ยังให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนเป็นอย่างมาก นี่เป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ประกอบการท้องถิ่นชาวไทยในห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจอาหารที่จะได้รับประโยชน์จากการผสมผสานอาหารทะเลนอร์เวย์เข้ากับเมนูอาหารไทย”
นางสาวโอซฮิลด์ กล่าวเสริม
ในปี 2566 สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) ได้รายงานมูลค่าการนำเข้าอาหารทะเลนอร์เวย์มายังไทยอยู่ที่ 9,500 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 103% เมื่อเทียบกับปี 2563) และในช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 มีมูลค่าการนำเข้าอาหารทะเลนอร์เวย์มายังไทยที่ 4,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน