จังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดในประเทศไทยที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านประวัติศาสตร์ โบราณสถาน รวมถึงวิถีชีวิตของผู้คนตามลุ่มแม่น้ำน้อยที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ โดยล่าสุด เทศบาลตำบลหัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เดินหน้าเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวชุมชน พร้อมรับนักท่องเที่ยว ชูจุดเด่นการท่องเที่ยวทางน้ำเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้แวะสักการะ ไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดเส้นทาง
ซึ่งจุดเด่นของตำบลหัวเวียงมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหลากหลาย นอกจากมีวัดเก่าแก่ ศาสนสถาน และบ้านเรือนไทยโบราณ ตำบลหัวเวียงยังเป็นบริเวณที่ไม่มีอุตสาหกรรมในพื้นที่ จึงทำให้มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และมีศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นที่โดดเด่น เช่น งานจักรสานที่มีการผลิตเพื่อขายและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และอีกหนึ่งมรดกวัฒนธรรมที่มีคุณค่า ประวัติยาวนานหลายปีนั่นก็คือ เมรุลอยอยุธยา ซึ่งนอกจากทำเป็นอาชีพแล้วยังพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ศิลปกรรมเมรุลอย
นายธเนศ สนธิ นายกเทศมนตรีตำบลหัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้พัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวทางน้ำ โดยครั้งนี้มีการทำงานร่วมกับวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ดำเนินการโดยฝ่ายบริการวิชาการเพื่อสังคม วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม) ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ร่วมกันพัฒนาสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์เส้นทางการท่องเที่ยวทางน้ำของตำบลหัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนิสิตระดับปริญญาตรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสื่อมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะเดินทางมาเที่ยวทางน้ำตามเส้นทางเลียบแม่น้ำน้อย จุดเริ่มต้นจะเริ่มจากวัดหัวเวียง ตามตำนาน "อิฐเก่าเล่าตำนานของคำว่าหัวเวียง" ในสมัยกรุงศรีอยุธยา กองทัพจะผ่านมาเส้นทางนี้ และมีการต่อสู้กับพวกข้าศึก และข้าศึกมีการปล้นเรือสินค้าชาวบ้านที่จะนำสินค้าไปค้าขายกับต่างประเทศ ตัดหัวแล้วเหวี่ยงขึ้นมา 2 ฝั่งแม่น้ำ จึงเรียกกันว่าหัวเหวี่ยง และเรียกต่อ ๆ กันมาเป็น "หัวเวียง" ส่วนจุดเด่นคือการแวะไหว้หลวงพ่ออ้วน ซึ่งชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า คนที่มาไหว้หลวงพ่ออ้วน จะขอเรื่องหน้าที่การงานและความเจริญชีวิต