7 โรงงานน้ำตาล กลุ่มมิตรผล คว้าใบรับรอง IPHA ตอกย้ำมาตรฐานการผลิตปลอดภัย ห่างไกล COVID-19

1    917    13    9 มิ.ย. 2564 15:14 น.   
แบ่งปัน

7 โรงงานน้ำตาล กลุ่มมิตรผล คว้าใบรับรอง IPHA
ตอกย้ำมาตรฐานการผลิตปลอดภัย ห่างไกล COVID-19

   กลุ่มมิตรผล ผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ในประเทศไทย ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัย IPHA : Industrial and Production Hygiene Administration จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม ครบทั้ง 7 โรงงานน้ำตาลในประเทศไทย ตอกย้ำมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยในกระบวนการผลิตสินค้า

นายวีระเจตน์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจน้ำตาลประเทศไทย พลังงาน และธุรกิจใหม่ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า “กลุ่มมิตรผล เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับมาตรฐานการผลิตและคุณภาพของสินค้า รวมถึงความปลอดภัยของลูกค้า คู่ค้า ผู้บริโภค ชุมชน และพนักงานในองค์กรทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เรามีมาตรการที่เข้มงวดเพื่อยกระดับความปลอดภัยสูงสุด เพื่อควบคุมและป้องกันการปนเปื้อน ทั้งในสถานประกอบการ กระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ รวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้าและผู้บริโภคว่าจะได้รับสินค้าที่มีมาตรฐานและปลอดภัยจากโควิด-19 ทำให้เราได้รับการรับรองมาตรฐาน IPHA ครบทั้ง 7 โรงงานน้ำตาล อีกทั้งเรายังได้จัดเตรียมแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้การดำเนินงานต่างๆ ขององค์กรสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อคู่ค้า ลูกค้า และผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน”

โดยกลุ่มมิตรผลมีมาตรการในการจัดการที่สอดคล้องกับมาตรฐาน IPHA 3 หมวด ดังนี้

1. การบริหารจัดการสุขอนามัยในสถานประกอบการ – มีมาตรการควบคุมและป้องกันในการจัดสถานประกอบการออกเป็นส่วน ๆ เพื่อลดความแออัด และทำความสะอาดอุปกรณ์การใช้งานให้สะอาดอยู่เสมอ 
2. การบริหารจัดการสุขอนามัยในกระบวนการและอาคารผลิต – กระบวนการผลิตน้ำตาลและน้ำเชื่อมของกลุ่มมิตรผลเป็นระบบปิดที่ใช้เครื่องจักรอัตโนมัติตลอดทั้งกระบวนการ ภายใต้อุณหภูมิความร้อนสูง 65-100°C และในกระบวนการผลิตน้ำเชื่อมยังมีระบบฆ่าเชื้อแบบ UV Light System นอกจากนี้ กระบวนการผลิตและบรรจุสินค้ายังได้รับการรับรองมาตรฐานสากล GMP&HACCP และ FSSC 22000 จึงมั่นใจได้ว่ามีความสะอาด ปราศจากการปนเปื้อนตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต และมีการควบคุม ตรวจสอบการขนส่ง เคลื่อนย้าย การจัดเก็บอย่างถูกสุขลักษณะ ด้วยการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อตามระยะความถี่ที่เหมาะสม 
3. การบริหารจัดการสุขอนามัยของบุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด – มีการควบคุมมาตรฐานการทำงานของพนักงานอย่างเคร่งครัด ได้แก่ การตรวจคัดกรองสุขภาพ การสวมชุดยูนิฟอร์มที่กำหนด พ่นมือด้วยสเปรย์แอลกอฮล์  ในระหว่างปฏิบัติงานต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และเว้นระยะห่างในการปฏิบัติงานในแต่ละจุด 1.5 เมตร รวมถึงมีการคัดกรองความเสี่ยงบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อ ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่เข้าพื้นที่ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ที่จัดเตรียมไว้ให้ และอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด

นอกจากนี้ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยที่ปัจจุบันยังคงมีความรุนแรง กลุ่มมิตรผลได้ร่วมกับบมจ.บ้านปู จัดตั้งกองทุน ‘มิตรผล-บ้านปู รวมใจ ช่วยไทย สู้ภัย COVID-19’ ตั้งแต่เมื่อเดือนมี.ค. ปีที่ผ่านมา เพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชน สนับสนุนการปฏิบัติงานของทีมแพทย์และพยาบาล รวมถึงบุคลากรทัพหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเข้มแข็งและเสียสละเพื่อคนไทยทุกคน ซึ่งปัจจุบันได้ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 270 ล้านบาท โดยกระจายกำลังกันไปช่วยเหลือหน่วยงานต่างๆ ทั้งในระดับจังหวัดและท้องถิ่น รวมถึงชุมชนและเกษตรกรชาวไร่ที่เราดูแลอยู่ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 215 หน่วยงาน ครอบคลุม 35 จังหวัด เพื่อเป็นหนึ่งในกำลังใจที่จะช่วยให้คนไทยก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปได้อย่างเร็วที่สุด
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ยกระดับความยั่งยืน  เปิดตัวแคมเปญ “Food Hero, Taste not Waste”  ชวนคนไทยเปลี่ยนมุมมองใหม่  เป็นฮีโร่ได้ง่าย ๆ ด้วยการช้อปสินค้าใกล้หมดอายุ ที่ยังคงคุณภาพดี ในราคาลดพิเศษ  พร้อมปล่อยคลิป Tops Food Hero เปิดอินไซต์ผู้บริโภค สร้างการรับรู้แคมเปญฯ ตั้งเป้าลดปริมาณขยะอาหาร 30% ภายในปี 2573 สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ยกระดับความยั่งยืน เปิดตัวแคมเปญ “Food Hero, Taste not Waste” ชวนคนไทยเปลี่ยนมุมมองใหม่ เป็นฮีโร่ได้ง่าย ๆ ด้วยการช้อปสินค้าใกล้หมดอายุ ที่ยังคงคุณภาพดี ในราคาลดพิเศษ พร้อมปล่อยคลิป Tops Food Hero เปิดอินไซต์ผู้บริโภค สร้างการรับรู้แคมเปญฯ ตั้งเป้าลดปริมาณขยะอาหาร 30% ภายในปี 2573
ท็อปส์ ผู้นำธุรกิจเชนซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทย ภายใต้เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้ายกระดับแผนความยั่งยืน เปิดแคมเปญรณรงค์ “Food Hero, Taste not Waste” ชวนผู้บริโภคเป็นฮีโร่ ร่วมลด Food Waste ด้วยการเปลี่ยนมุมมองใหม่ในการซื้อสินค้า ที่ใกล้หมดอายุ แต่ยังคงคุณภาพดี ในราคาลดพิเศษ เพื่อลดการเหลือทิ้งสินค้าใกล้หมดอายุโดยเปล่าประโยชน์ ต่อยอดสู่การลดปริมาณขยะอาหารในประเทศไทยที่มีมากกว่า 9.68 ล้านตันต่อปี ชวนผู้บริโภคร่วมซื้อสินค้า ใกล้หมดอายุที่ติดสติกเกอร์ลดราคาป้ายเหลืองในราคาที่คุ้มค่าลดสูงสุด 30-50% สำหรับสมาชิก The1 รับคะแนนสะสมพิเศษ X2 ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2567 ที่ร้านท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา พร้อมเปิดตัวคลิปเรื่อง ‘Tops Food Hero’ สื่อสารพฤติกรรมอินไซต์ผู้บริโภคในการซื้อสินค้าที่ใกล้หมดอายุ ให้คนดูได้อมยิ้มแต่ให้แง่คิดเสริมด้วยข้อมูลความเป็นจริงเกี่ยวกับสินค้าสติกเกอร์ลดราคาราคาป้ายเหลือง โดยตั้งเป้าให้แคมเปญ สามารถสร้างการตระหนักรู้และมีส่วนร่วมในการลดปริมาณขยะอาหาร 30% ภายในปี 2573 ตอกย้ำการเป็นผู้นำองค์กรค้าปลีก-ค้าส่งต้นแบบด้านความยั่งยืนแห่งเอเชีย Green & Sustainable Retail & Wholesale ของเซ็นทรัล รีเทล