สิ้นสุดการรอคอย! ลันชั่นมีทจากพืชเจ้าแรกของโลก
เตรียมพร้อมวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย
OmniFoods เตรียมขยายฐานลูกค้าสู่ประเทศไทยหนึ่งในสวรรค์แห่งการกินของเอเชีย นำร่องจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OmniMeat Luncheon ในร้านอาหารและร้านค้าปลีกให้พร้อมอิ่มอร่อยกันได้ง่ายๆ
ออมนิฟู้ดส์ (OmniFoods) ผู้คิดค้นผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชอเนกประสงค์ จากเครือข่ายการลงทุนกิจการร่วมเพื่อสังคม (Social Venture) สัญชาติฮ่องกงอย่าง
กรีนมันเดย์ (Green Monday) ประกาศจัดจำหน่าย
OmniMeat Luncheon (
ออมนิมีทลันชั่น) ในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารชั้นนำทั่วไทย
ด้วยการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์อย่างลงตัวของโปรตีนจากพืชที่มีความคล้ายคลึงกับเนื้อสัตว์แบบดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็นในแง่ของรสชาติหรือรูปลักษณ์ OmniMeat Luncheon นำเสนอทางเลือกที่ยั่งยืนและดีต่อสุขภาพมากกว่าเนื้อสัตว์แปรรูป โดยยังคงความอร่อยของรสชาติและเนื้อสัมผัสได้ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริงอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์ของ OmniMeat Luncheon ประกอบไปด้วยถั่วเหลืองและข้าวสาลีที่ไม่ผ่านการดัดแปลงทางพันธุกรรม (GMO) อีกทั้งยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร โปรตีน และปราศจากคอเลสเตอรอล เมื่อทำการเปรียบเทียบกับเนื้อสัตว์ที่บรรจุในกระป๋องแบบดั้งเดิมแล้ว OmniMeat Luncheon มีแคลอรี่ต่ำกว่าถึง 46% โดยมีปริมาณไขมันทั้งหมดและปริมานโซเดียมต่ำกว่าถึง 64% นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ยังปราศจากฮอร์โมนเสริม ยาปฏิชีวนะ สารกันเสีย และผงชูรสอีกด้วย
นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืช OmniMeat Luncheon คือความสำเร็จทางการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีอาหารเป็นเวลาหลายปีของ OmniFoods โดยผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวเอเชียที่โหยหารสชาติที่คุ้นเคยและความสะดวกสบายของเนื้อสัตว์แปรรูป ในขณะเดียวกันก็นำเสนอทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้นด้วยการกำจัดสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยนำ OmniMeat Luncheon ไปทอดบนกระทะด้านละ 1-2 นาที เพียงเท่านี้ท่านก็สามารถเพลิดเพลินกับอาหารจานด่วนแสนเฮลท์ตี้ได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า มื้อของว่าง หรือช่วงจิบน้ำชายามบ่าย
“บริษัทรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะนำ OmniMeat Luncheon มาสู่ตลาดประเทศไทยสำหรับคนที่กำลังมองหาทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม OmniMeat Luncheon ของเราเป็นอาหารที่ผลิตจากพืชที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเชฟและนักชิมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเนื่องจากคนไทยกำลังเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เรามั่นใจว่าพวกเขาจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจของเราที่จะนำเสนออาหารทางเลือกที่อร่อยและมีความยั่งยืนให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อสร้างอนาคตที่ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และน่าอยู่สำหรับทุกคน”
เดวิด ยัง ผู้ก่อตั้ง กรีนมันเดย์ และ OmniFoods กล่าว
ตามการคาดการณ์ระบุว่า ความต้องการต่อการบริโภคเนื้อจากพืชในประเทศไทยจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 200% ในช่วงปีพ.ศ. 2564-2568 เนื่องจากผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกมีมุมมองและวิสัยทัศที่เป็นเชิงบวกเกี่ยวกับทางเลือกของเนื้อสัตว์ โดย 75% ของผู้บริโภคยินดีที่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากพืชในราคาใกล้เคียงกัน และ 78% มั่นใจว่าเทรนด์ที่ดีต่อสุขภาพนี้จะเป็นที่นิยมและสามารถเติบโตได้ในอนาคต เมื่อพูดถึงปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อ ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสนใจต่อความสมดุลของรสชาติ โภชนาการ และความสะดวกสบาย
1 ตามลำดับ
การระบาดของโรคโควิด-19 ยังเป็นอีกองค์ประกอบที่จุดประกายต่อเรื่องการรักษาสุขภาพและความปลอดภัย ผู้คนได้มีการตระหนักถึงสิ่งที่บริโภคมากขึ้น รวมถึงผลกระทบที่มีต่อร่างกายและสภาพแวดล้อม การตระหนักครั้งนี้จึงทำให้ผู้คนมากมายเริ่มหันมาลองบริโภคแบบ flexitarian หรือ กินมังสวิรัติแบบยืดหยุ่น โดยเปลี่ยนมาใช้อาหารจากพืชเป็นหลักพร้อมกับการบริโภคเนื้อสัตว์เป็นครั้งคราว ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าการทานมังสวิรัติเป็นส่วน 2 ใน 3 ของมื้ออาหาร สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับอาหารได้เกือบ 60%
2 และยังเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย
OmniMeat Luncheon กำลังจะถูกวางจำหน่ายในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ที่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ มาร์เก็ต บางสาขาทั่วประเทศไทย หลังจากล่าสุดที่มีการเปิดตัวอย่างประสบความสำเร็จในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย
OmniMeat Luncheon เปิดตัวในร้านอาหารชั้นนำของกรุงเทพฯ อย่างเป็นทางการ
กรีนมันเดย์ได้พาร์ทเนอร์กับร้านอาหารชั้นนำหลายแห่งเพื่อคิดค้นสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆกับ OmniMeat Luncheon เพื่อนักชิมทั้งหลายทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทุกท่านสามารถสัมผัสประสบการณ์อาหารที่ทำจากพืชได้ที่ Lao Teng, Vistro, Bangkok City Diner, Salada Organic Kitchen และ Fitmeal
ร้านเหล่าเต๊ง (Laoteng) ภัตตาคารอาหารที่ใครๆ ต่างกล่าวถึงในย่านไชน่าทาวน์ (เยาวราช) ได้ให้บริการติ่มซำแบบวีแกนที่ทำจากOmniMeat Luncheon
รวมทั้ง
ถุงเงินถุงทองลันชั่น (ราคา 110 บาท) และ
ฟองเต้าหู้ใส้ลันชั่นทอด (ราคา 110 บาท) ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจมาจากร้านอาหารจีนสไตล์ร่วมสมัยที่มีชื่อเสียง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำเสนอทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพในขณะที่ยังคงความเป็นกวางตุ้งแท้ๆ อีกด้วย
Vistro ร้านอาหารวีแกนและคาเฟ่สไตล์โมเดิร์นที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 พร้อมนำเสนอเมนู
Shawarma Mia (ราคา 340 บาท) โดยเป็นอาหารกลางวันที่มีส่วนผสมของ OmniMeat Luncheon ไว้ในจานของพวกเขา เพื่อนำเสนอทางเลือกใหม่จากพืชสำหรับกลุ่มวีแกนในกรุงเทพฯ
Bangkok City Diner ร้านอาหารวีแกนสไตล์อเมริกันที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางสาทร มีเมนูอย่าง
OmniMeat Luncheon Classic Mac & Cheese (ราคา 200 บาท) ซึ่งนอกจากนี้ ร้านนี้ยังมีอีกหลากหลายเมนูที่ใช้ผลิตภัณฑ์ออมนิมีท
ร้าน Salada Organic Kitchen ทั้ง 5 สาขานำเสนอ
ข้าวผัดพริกขี้หนูสดออมนิมีทลันชั่น (ราคา 199 บาท) เพื่อแนะนำอาหารจากพืชในรสชาติที่คนไทยคุ้นเคย การสร้างสรรค์อาหารจานนี้เป็นหนึ่งในสิบรายการอาหารจากพืชที่มีออมนิมีทอยู่ในเมนูของ Salada Organic Kitchen
ร้าน Fitmeal ตั้งอยู่ในทองหล่อซอย 11 โดยเสิร์ฟ
OmniMeat English Club Sandwich (ราคา 230 บาท) และ
ซุปเกี๊ยวจีน OmniMeat (ราคา 230 บาท) สำหรับลูกค้าที่แวะมาเยือนคาเฟ่ที่มีความเป็นมิตรกับมังสวิรัติอันทรงเสน่ห์แห่งนี้ และนอกจากนี้ทางร้านยังมีบริการจัดส่งอีกด้วย
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารที่บ้าน
OmniMeat Luncheon (240 กรัม/ 170 บาท) มีจำหน่ายเฉพาะที่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ มาร์เก็ต บางสาขา ในบรรจุภัณฑ์ขายปลีกควบคู่ไปกับส่วนผสมโปรตีนจากพืชอื่นๆ ที่เตรียมได้ง่ายอย่าง
OmniMeat Strip ออมนิมีทสตริป (150 กรัม/ 115 บาท) เหมาะสำหรับอาหารเกือบทุกจาน ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเนื้อสัตว์ ที่ปราศจากสารฮอร์โมน ยาปฏิชีวนะ และผงชูรส โดยวัตถุดิบหลักเหล่านี้จะช่วยให้ผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพ สามารถสร้างสรรค์มื้ออาหารของตนเองด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพืช ปราศจากการเบียดเบียนสัตว์ และไม่ใช่จีเอ็มโอแทนส่วนผสมที่ทำจากเนื้อสัตว์ ในขณะที่อยู่บ้านอย่างปลอดภัย