กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก จับมือ MASkargo ผสานความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งใหม่

0    75    0    25 พ.ย. 2567 16:46 น.   
แบ่งปัน
กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก ผู้นำระดับโลกด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศ ประกาศเปิดตัวความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งใหม่กับ MASkargo สายการบินขนส่งสินค้าภายใต้ Malaysia Aviation Group
 
การเปิดตัวความร่วมมืออย่างเป็นทางการในครั้งนี้ที่ได้รับเกียรติจาก นายมาร์ค ดรุช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายคาร์โกของ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก และ นายมาร์ค เจสัน โธมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MASkargo ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าทั่วโลกและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
 
ความร่วมมือที่ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ได้ประสบความสำเร็จในการขนส่งสินค้ามากถึง 2,400 ตัน รวมถึงสินค้าที่มีวันหมดอายุกว่า 600 ตัน และเภสัชภัณฑ์ 130 ตัน

เที่ยวบินโบอิ้ง 777 ของ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก จะเริ่มให้บริการจากโดฮาไปกัวลาลัมเปอร์ สัปดาห์ละ 2 เที่ยว เพื่อเป็นการเพิ่มความสามารถในการขนส่งสินค้ารายสัปดาห์มากกว่า 200 ตัน ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้จะช่วยเสริมสร้างการเชื่อมโยงและเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งไปยังซิดนีย์และเมลเบิร์น ด้วยเครื่องบินขนส่งสินค้าแอร์บัส A330 ของ MASkargo ที่มีความสามารถในการขนส่งสินค้ารายสัปดาห์มากกว่า 75 ตัน ด้วยเวลาเชื่อมต่อที่รวดเร็วเพียง 8 ชั่วโมงที่กัวลาลัมเปอร์ ศูนย์กลางการขนส่งที่สนามบินนานาชาติฮาหมัด (DOH) และสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KUL) จะมีบทบาทสำคัญในการให้บริการการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่งที่ทันสมัย
 
ข้อตกลงในครั้งนี้ช่วยเปิดโอกาสให้ทั้ง MASkargo เข้าถึงจุดหมายที่สำคัญในยุโรป กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) เลแวนต์ และแอฟริกา และช่วยให้ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก ได้เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงตลาดในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนตลาดท้องถิ่นในกัวลาลัมเปอร์ โดยเปิดโอกาสให้สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดทั่วโลกได้มากขึ้นอีกด้วย

นายมาร์ค ดรุช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายคาร์โกของ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก กล่าวว่า “ในฐานะที่เราคือผู้นำระดับโลกด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศ การร่วมมือกับ MASkargo ในครั้งนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราในการมอบบริการที่ยอดเยี่ยมและโซลูชั่นที่ปรับให้ตอบโจทย์กับความต้องการ พร้อมกับขยายเครือข่ายระดับโลกของเราผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ไปด้วยกัน
 
“ด้วยการมัดรวมจุดแข็งของเราเข้าด้วยกัน เราสามารถมอบการเชื่อมโยงและประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสินค้าของพวกเขาจะไปถึงตลาดทั่วโลกในสภาพที่ดีที่สุด เรารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งกับโอกาสที่เราจะได้รับและยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานความเป็นเลิศในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศต่อไป”
 
นายมาร์ค เจสัน โธมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MASkargo กล่าวเสริมว่า “วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ MASkargo ที่ได้ร่วมมือกับ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก ในการสร้างเครือข่ายการขนส่งสินค้าทางอากาศระดับโลกที่เชื่อมโยงกันอย่างแท้จริง ความร่วมมือนี้เป็นการพัฒนาครั้งสำคัญในภารกิจของ MASkargo เพื่อเชื่อมโยงลูกค้าของเราเข้ากับโลก ด้วยความรวดเร็วและประสิทธิภาพที่มากยิ่งขึ้น”
“จากความร่วมมือในครั้งนี้ MASkargo จะสามารถเชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับจุดหมายปลายทางสำคัญระดับนานาชาติได้ดียิ่งขึ้นกว่าที่เคย ความร่วมมือกับ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานและความสามารถของเรา ทำให้เราสามารถสนับสนุนเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าที่มีความต้องการสูงไปยังตลาดโลกที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในด้านการขนส่งสินค้าอีกด้วย”
 
ในเดือนกรกฎาคม 2567 กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก และ MASkargo ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อมอบการบริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าคาร์โกและเสริมสร้างความร่วมมือในการดำเนินงาน ข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจด้านการขนส่งสินค้าเชิงกลยุทธ์นี้ ช่วยให้ทั้งสองสายการบินสามารถเสริมสร้างจุดแข็งของเครือข่ายและความสามารถในการขนส่งของกันและกันให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับเพิ่มข้อเสนอการขนส่งสินค้าของทั้งสองสายการบินอย่างมีนัยสำคัญ
 
ความร่วมมือระหว่าง กาตาร์ แอร์เวย์ส และมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ยังคงครอบคลุมไปถึงการขนส่งผู้โดยสาร โดยทั้งสองสายการบินเป็นสมาชิกของพันธมิตร oneworld และมีความร่วมมือที่แข็งแกร่งในด้านการให้บริการผู้โดยสารอีกด้วย ข้อตกลงการบินโดยใช้รหัสเที่ยวบินร่วมกัน (codeshare agreement) ซึ่งครอบคลุมถึง 62 จุดหมายปลายทางในมาเลเซีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกา และแอฟริกา แสดงถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองสายการบินในการมอบประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่น การร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ ในปี 2565 ช่วยเสริมสร้างความร่วมมือนี้ต่อไป พร้อมกับเพิ่มทางเลือกในการบินและจุดหมายปลายทางสำหรับผู้โดยสาร
 
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ