จริง ๆ ต้องบอกว่า เครปนั้นเปรียบเหมือนอาหารอันโอชะที่แสนอร่อยของชาวฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก เพราะเป็นอาหารที่สามารถสร้างความหลากหลายด้วยการบรรจุอะไรก็ได้ลงไปในเครป ไม่ว่าจะใส่ผลไม้ พุดดิ้ง ขนมหวาน ผัก เนื้อสัตว์ แถมยังเป็นได้ทั้งอาหารเช้าหรืออาหารมื้อค่ำก็ยังได้
แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าในฝรั่งเศสทุก ๆ ปีนั้น จะมีประเพณีการกินเครป หรือที่เรียกว่าวัน ‘ลา ฌองเดอเลอร์ ( La Chandeleur )’ หรือ ‘วันแห่งเครป’ ที่เริ่มจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ โดยประเพณีนี้มีความเชื่อว่า “ถ้าคุณสามารถจับเครปที่ถูกโยนให้ลอยออกมาจากกระทะให้ได้ด้วยมือขวา และต้องถือเครป นั้นไว้ในมือซ้าย ให้เปรียบเสมือนการถือเหรียญทอง ด้วยความเชื่อที่ว่าหากคุณทำได้ คุณจะกลายเป็นคนรวยในปีนั้น” แต่ถ้าให้พูดถึงเรื่องเครปโดยตรง ก็คือ ไม่ได้เป็นเพียงอาหารที่ได้รับความนิยมในฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลไปยังประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นอร์เวย์ เยอรมนี สวีเดน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ แอฟริกา สเปน ตุรกี ออสเตรีย ฮังการี บัลแกเรีย เม็กซิโก และในอีกหลายประเทศ โดยในแต่ละประเทศต่างมีความแตกต่างในการนำ เครปมารังสรรค์เป็นอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เพราะบางประเทศก็ทำเป็นแฮมเบอร์เกอร์ บ้างก็ทำเป็นแผ่นแป้งในอาหารจานเผ็ดร้อน บ้างก็ทำเป็นของหวานที่รสชาติแปลกใหม่ แต่สำหรับประเทศที่สร้างปรากฏการณ์ความนิยมให้เครปได้มากในปัจจุบันก็เห็นจะเป็นประเทศญี่ปุ่น เพราะนอกจากจะมีลูกเล่นที่หลากหลายให้เครปดูน่ากินมากขึ้นแล้ว ที่ญี่ปุ่นยังนิยมนำของหวานที่หลากหลายมามิกซ์ให้เข้ากับตัวเครป แถมยังมีร้านเครปอยู่มากมายให้สาวกคนรักของหวานได้ตามไปลิ้มลองจนใคร ๆ ก็เผลอลืมไปเลยว่า ต้นกำเนิดเครปนั้นมาจากประเทศไหนกันแน่