ยอดอ่อนมะขามเปรี้ยว เป็นพืชพื้นบ้านที่สามารถหาง่าย ซึ่งสามารถนำมาช่วยเพิ่มรสชาติและทำอาหารได้หลายชนิด แถมยังมีประโยชน์มากมายอีกด้วยนะ ว่าแล้วไปดูประโยชน์ของพืชชนิดนี้กันเลยดีกว่าค่ะ
มะขาม เป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา และมีการนำเข้ามาปลูกในแถบเอเชีย ส่วนในประเทศไทยนั้นสามารถปลูกได้ทั่วประเทศ แต่ที่มากสุดเห็นจะเป็นจังหวัดเพชรบูรณ์ จนกลายเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดกันเลยทีเดียว
ยอดมะขามเปรี้ยวยักษ์นี้มีจุดเด่นที่โตเร็วกว่ายอดมะขามพื้นบ้านถึง 200 เท่า อีกทั้งยังมีสีชมพูสวยงาม และยังให้น้ำหนักดี ยอดมะขามเปรี้ยวยักษ์ขนาดที่ยาวที่สุดอยู่ที่ 3-4 นิ้ว ต่างจากยอดมะขามพันธุ์พื้นบ้านที่ยาวเพียง 1-1.5 นิ้วเท่านั้น ที่สำคัญคือให้ผลผลิตได้ค่อนข้างรวดเร็ว เพียง 6 เดือนก็เริ่มเก็บผลผลิตได้แล้ว หลังจากนั้นยังสามารถเก็บยอดอ่อนขายได้ทุกวัน โดยสามารถนำมาเป็นวัตถุเพิ่มรสชาติเปรี้ยวให้กับเมนูยำและต้มยำ ฯลฯ ได้อย่างกลมกล่อมลงตัว
สำหรับประโยชน์ของมะขามและสรรพคุณนั้นมีมากมาย รวมถึงใช้เป็นยารักษาโรคได้ด้วย โดยส่วนที่นำมาใช้เป็นยาจะเป็นเนื้อฝักแก่ (มะขามเปียก) เปลือกของลำต้น (ทั้งสดและแห้ง) และเนื้อในเมล็ด สามารถช่วยรักษาได้หลายโรค เช่น เป็นยาขับเสมหะ แก้อาการท้องเดิน บรรเทาอาการท้องผูก ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ เป็นต้น
นอกจากเราจะรับประทานฝักมะขามกันแล้ว ในส่วนของยอดและใบอ่อนเราก็รับประทานได้เช่นกัน ยอดมะขามจะมีสีชมพูปนเขียว กลิ่นหอม และรสเปรี้ยว จึงสามารถใช้แทนรสเปรี้ยวในอาหารได้ดี อาทิ ต้มโคล้ง แกงส้ม ต้มข่าไก่ หรือยำ โดยเมื่อเทียบกับฝักอ่อนในปริมาณ 100 กรัมเท่ากัน ใบอ่อนมะขามจะมีเส้นใยอาหาร แคลเซียม และธาตุเหล็กน้อยกว่า แต่จะมีวิตามิน C และฟอสฟอรัสสูงกว่า คือ 53 มิลลิกรัม และ 38 มิลลิกรัม ตามลำดับ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้สามารถช่วยแก้หวัด ขับเสมหะ แก้ไอได้ดี รวมถึงเป็นยาระบาย แก้ท้องผูก ช่วยขับลมในลำไส้ แก้บิด ช่วยสร้างเม็ดเลือด บำรุงสายตา รักษาตามัวและตาอักเสบ ช่วยฟอกโลหิต ขับเหงื่อ บำรุงร่างกาย ชะลอความชรา และบำรุงผิวพรรณ