วันหยุดเพื่อนๆ ไปเที่ยวไหนบ้างคะ บางคนอาจจะไปเดินเล่นซื้อของ หรือหาหนังสนุกๆ ดูสักเรื่อง พร้อมกับกินป๊อปคอร์น (ข้าวโพดคั่ว) เพลินๆ ระหว่างดูไปด้วย แล้วรู้ไหมว่าป็อปคอร์นในมือเรา มีที่มาอย่างไร และทำไมถึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก
ข้าวโพดคั่ว หรือ ป๊อปคอร์น (Popcorn) เป็นอาหารว่างอย่างหนึ่ง ผลิตจากเมล็ดข้าวโพด มีต้นกำเนิดข้าวโพดคั่วในดินแดนของอินเดียแดงในทวีปอเมริกา เมื่อประมาณ 5,600 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส ได้ค้นพบข้าวโพดคั่วในซากเมืองโบราณหลายแห่ง เช่น เมืองอินคาในอเมริกาใต้ เผยว่า เมื่อประมาณ 5,600 ปีที่แล้ว ชาวอินเดียนแดงหรือชนพื้นเมืองอเมริกันนำเมล็ดข้าวโพดใส่ลงไปในหม้อดินปั้น แล้วปิดฝา หรือเอาหม้ออีกใบมาทับไว้ จากนั้นนำฝังไว้ในทรายที่ร้อนจัด ความร้อนจากทรายที่ระอุอยู่ในหม้อจะทำให้เมล็ดข้าวโพดแตกตัว และฟู จนกลายเป็น ป๊อปคอร์น นอกจากนี้ยังมีการค้นพบฝักป๊อปคอร์นที่เก่าแก่ที่สุด อยู่ที่ถ้ำค้างคาว (Bat Cave) เวสต์เซ็นทรัล มลรัฐ นิวเม็กซิโก ในปี พ.ศ.2491 และ พ.ศ.2493 ขนาดเล็กกว่าเหรียญเพนนี ถึง 2 นิ้ว โดยฝักอายุมากที่สุดอายุ 4,000 ปี และยังมีการนำข้าวโพดคั่วมาร้อยเป็นเครื่องประดับสำหรับหัวหน้าเผ่าหรือนักรบ
หลังจากนั้นในยุโรปราว ๆ ศตวรรษที่ 15 ชาวอินเดียนแดงนำช่อดอกไม้และเครื่องประดับศีรษะที่ทำด้วยข้าวโพดคั่วมาขาย ให้ลูกเรือของโคลัมบัส นักสำรวจและนักเดินเรือชาวอิตาลี ผู้ค้นพบทวีปอเมริกา จึงเป็นการรับเอาวัฒนธรรมป๊อปคอร์นนี้มาทำเป็นธุรกิจในช่วง ปลายศตวรรษที่ 19 โดยประเทศอเมริกาเป็นประเทศแรกที่จำหน่ายข้าวโพดคั่วออกสู่ตลาด
ในปี พ.ศ. 1885 โดยนายชาลส์ เครเตอร์ ชาวเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ และได้พัฒนาต่อไปเป็นเครื่องคั่วข้าวโพดแบบไฟฟ้า และมีคนนำเครื่องนี้ไปทำข้าวโพดคั่วขายในโรงภาพยนตร์ จนได้รับนิยมไปทั่วโลก
เกร็ดความรู้
ข้าวโพดที่เหมาะในการทำข้าวโพดคั่ว เมล็ดต้องมีเปลือกแข็ง เนื้อในจะมีแป้งล้อมรอบและมีน้ำเป็นส่วนประกอบเล็กน้อยอยู่ด้วย เมื่อได้รับความร้อนประมาณ 450 องศาฟาเรนไฮต์ น้ำจะขยายตัวเหมือนกับการพองของบอลลูน ทำให้ความดันในเมล็ดเพิ่มขึ้น แต่เปลือกของข้าวโพดขยายตัวไม่ได้ตามความดันที่เพิ่มขึ้น จึงแตกออกมาพร้อมกับเกิดเสียงดังป๊อป และจะกลับด้านในออกข้างนอกและที่เห็นผิวสีขาว ๆ