เชื่อว่าปัญหาหน้าท้องหย่อนยานหรือหลังจากการตั้งครรภ์ เป็นปัญหาใหญ่ที่น่าหนักใจสำหรับคุณแม่ลูกอ่อน อย่างแน่นอน เนื่องจากช่วงตั้งครรภ์มีการยืดขยายของกล้ามเนื้อหน้าท้อง อีกทั้งยังมีการรับประทานอาหารมากขึ้นจากเดิม เพื่อที่ลูกน้อยจะได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ ซึ่งหลังจากคลอดจะเกิดหน้าท้องหย่อนคล้อยตามมาแล้วยังอาจส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลจนทำลายสุขภาพจิตอีกด้วย ครั้งนี้เราจึงมีวิธีการลดหน้าท้องส่วนเกินมาฝากคุณแม่ค่ะ
ลดหน้าท้องด้วยฟิตบอล
เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญและปรับความสมดุลของร่างกาย เพียงนำฟิตบอลมาเป็นตัวช่วย ซึ่งเริ่มจากการนั่ง ลองเปลี่ยนจากการนั่งเก้าอี้เป็นฟิตบอลแทน เพื่อฝึกการทรงตัว เพราะการนั่งบนฟิตบอลต้องใช้การเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทำให้หน้าท้องกระชับไม่หย่อนคล้อย รวมทั้งปรับบุคลิกภาพให้ดูสง่า จากการนั่งหลังตรง เพราะฟิตบอลไม่มีพนักพิง และหากต้องการผลลัพธ์หน้าท้องแบนราบที่ไวยิ่งขึ้น ควรหลับตาขณะที่ทำ เพราะจะเกิดการทรงตัวและเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องมากกว่าเดิม ซึ่งทำให้ร่างกายฟื้นฟูไวกว่าเดิมอีกด้วย
ลดหน้าท้องด้วยโยคะ
หลายท่าของโยคะจะช่วยให้ร่างกายมีความสมดุลขึ้น และสามารถลดหน้าท้องได้ด้วย แต่หากต้องการบริหารกระชับเฉพาะหน้าท้อง ให้เริ่มจากการนอนหงาย แล้วชันเข่าขึ้น จากนั้นหายใจเข้า พร้อมด้วยแขม่วหน้าท้อง ในขณะที่ค้างท่าไว้ให้เกร็งหน้าท้องไว้ประมาณ 10 วินาที แล้วค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออก หลังจากนั้นซ้ำอีกประมาณ 10 เซ็ท ท่าต่อไปหากต้องการบริหารต้นขา เพียงแค่นอนหงายแล้วชันเข่าทั้ง 2 ข้าง จากนั้นใช้หมอนอิง 1 ใบ มาหนีบไว้ระหว่างหัวเข่า แล้วออกแรงให้เข่าบีบหมอนเข้าหากัน นับ 3 วินาที แล้วค่อย ๆ คลายขาออกทำซ้ำอย่างนั้นประมาณ 10 เซ็ท
ลดหน้าท้องด้วยการเต้น
การเต้น 1 ชั่วโมง สามารถเผาผลาญได้ถึง 300 กิโลแคลอรี เพียงเท่านี้รูปร่างของคุณจะเป็นทรวดเป็นทรงมากขึ้น หากต้องการลดหน้าท้อง หรือเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อแขน ขา หน้าท้อง และหลัง การเต้นแบบ Belly Dance (ระบำหน้าท้อง) สามารถช่วยได้ค่ะ เพราะในแต่ละท่าเต้น จะใช้การเคลื่อนไหวร่างกายแบ่งแยกส่วนไปตามอวัยวะที่ต้องใช้ในท่านั้น ๆ เพื่อช่วยบริหารเฉพาะจุดอย่างเต็มที่
ลดหน้าท้องด้วยการแขม่วหน้าท้อง
ท่าออกกำลังกายที่สามารถทำได้ในทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะตอนนอน นั่ง หรือยืน นอกจากนั้นยังช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องให้กระชับขึ้น สำหรับท่ายืน เริ่มจากการยืน แล้วค่อย ๆ สูดลมหายใจเข้าอย่างช้า ๆ จากนั้นปล่อยลมหายใจออกจากหน้าท้อง โดยระหว่างหายใจออกให้พยายามแขม่วท้องให้ได้มากที่สุด ลองพยายามฝึกประมาณวันละ 10 ครั้ง ถัดมา คือการนั่งแขม่วท้อง เริ่มจากการนั่งตัวตรง หรือท่านั่งปกติ หายใจเข้าและออกให้สุด ประมาณ 10 ครั้ง และท่าสุดท้ายด้วยการนอนพร้อมกับยกขาแขม่วท้อง เพียงแค่นอนลงที่พื้น แล้วค่อย ๆ ยกขาพาดบนเก้าอี้ หรือโซฟา จากนั้นเริ่มแขม่วท้อง เพียงเท่านี้ก็สามารถได้หน้าท้องที่แบนราบแล้วค่ะ
ลดหน้าท้องด้วยการซิทอัพ + ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
การซิทอัพ แท้จริงแล้วคือการช่วยสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง แต่ในส่วนไขมันยังคงสะสมอยู่ในร่างกาย ฉะนั้นจึงควร ซิทอัพผสมกับการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ อาทิ การเดิน การวิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน ประมาณ 30 นาที ให้ได้สัปดาห์ละ 3 วัน หรือ ใน 1 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันออกไป
ลดหน้าท้องด้วยการไม่นอนดึก
การนอนไม่ดึกจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเลปติน ที่ช่วยกระตุ้นในการเผาผลาญพลังงานในขณะที่นอนหลับ และช่วยให้สามารถควบคุมความอยากอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นอีกวิธีที่จะช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินออกได้อย่างง่ายดาย และถ้าจะให้ดีควรนอนหลับไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน