สมุนไพรไทยโบราณของใกล้ตัวซึ่งเปรียบเสมือนยาชั้นเลิศแต่กลับถูกหลงลืมตามกาลเวลา คุณประโยชน์มากมาย อีกทั้งรักษาโรคได้ไม่ต่างจากยาแผนปัจจุบัน สามารถบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้สารพัดโรคอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็น โรคหวัด โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคท้องร่วง รวมไปถึงโรคกระเพาะ ที่ส่งสัญญาณเตือนจากการปวดท้อง ทั้งการ ปวดแบบจุกเสียด แน่นท้อง หรือแสบท้อง ซึ่งมีสมุนไพรหลายชนิดที่สามารถบรรเทาอาการเหล่านี้ได้
ว่านหางจระเข้ โดยการรักษาโรคกระเพาะจะนำวุ้นใสของว่านหางจระเข้มารับประทาน ซึ่งจะช่วยรักษาและสมานแผล รวมถึงลดการอักเสบของกระเพาะอาหาร
กะหล่ำปลี ในกะหล่ำปลีมีคุณสมบัติช่วยสมานแผล ลดการอักเสบ และไปกระตุ้นการสร้างเยื่อเมือกในการปกป้องผนังกระเพาะอาหารและลำไส้ เพื่อไม่ให้เกิดแผลจากการย่อยของกรดในกระเพาะอาหาร
ขมิ้นชัน ประโยชน์ของขมิ้นชันจะอยู่เกือบทุกส่วน อาทิ ในส่วนของเหง้าหรือหัวของขมิ้น สามารถลดอาการอักเสบ ของการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ และมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ทั้งยังกระตุ้นการขับน้ำดีส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้นและในส่วนน้ำมันหอมระเหยของขมิ้น มีสารออกฤทธิ์ในการขับลมเพื่อช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ได้เป็นอย่างดี
เพชรสังฆาต สมุนไพรไทยโบราณซึ่งสามารถออกฤทธิ์ยับยั้งเซลล์หลั่งกรด ทั้งยังลดการทำลายเนื้อเยื่อในกระเพาะอาหาร และยังมีผลต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย แต่หากรับประทาน เข้าไปในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดสารตกค้างในร่างกาย จึงควรรับประทานพร้อมกล้วยสุก หรือมะขามเปียก
กล้วยน้ำว้า ซึ่งในเนื้อและเปลือกกล้วยมีสารยับยั้งการหลั่งของน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร และกระตุ้นให้ลำไส้เล็กบีบตัวมากขึ้น เพื่อช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารและสามารถป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้ ซึ่งช่วยป้องกันผนังกระเพาะอาหารและลำไส้จากเชื้อโรค
กระเจี๊ยบเขียว ในฝักกระเจี๊ยบนั้นมีสารช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร ทั้งยังยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย
ลูกยอ ช่วยเพิ่มการบีบตัวของหลอดอาหาร ส่งผลให้หูรูดหลอดอาหารแข็งแรงขึ้น ทั้งยังทำให้อาหารเคลื่อนจากกระเพาะอาหารไปสู่ลำไส้เล็กได้ดีขึ้น ช่วยย่อยอาหาร และขับลม ในกระเพาะอาหาร ทั้งยังช่วยเร่งการสมานแผลของกระเพาะอาหาร ลดการอักเสบของกระเพาะอาหารเฉียบพลันจากแอลกอฮอล์ ลดการหลั่งกรดเทียบเท่ายาแผนปัจจุบัน