แกงเลียงเป็นแกงไทยที่มีรสช
าติเฉพาะตัวคือรสออกเค็มเผ็
ด แต่เป็นเผ็ดร้อนจากพริกไทย หอมกลิ่นใบแมงลัก กะปิ และกุ้งแห้ง ถ้าจะมีรสหวานบ้างก็คงหวานจ
ากผักที่เลือกใส่ลงไป แกงเลียงนั้นมีทั้งแบบไม่ใส
่กะทิ เช่น แกงเลียงเห็ดรวม แกงเลียงนพเก้า แกงเลียงผักหวาน และแบบใส่กะทิ เช่น แกงเลียงกะทิหัวปลี แกงเลียงกะทิยอดมะพร้าว แกงเลียงกะทิฟักทอง ซึ่งแกงเลียงแบบใส่กะทิจะมี
รสออกหวานกว่า
มาดูส่วนสำคัญของแกงเลียง..
. พริกแกงนั่นเอง
น้ำพริกแกงเลียงนั้นมีส่วนผ
สมน้อยมาก ๆ นับเป็นน้ำพริกแกงที่มีส่วน
ผสมน้อยที่สุดก็ว่าได้ ใช้ส่วนผสมคร่าวๆ ดังนี้ พริกไทยเม็ด หอมแดง กะปิ กุ้งแห้งหรือปลาย่างกรอบ
เคล็ดลับสำหรับแกงเลียง
1. เลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพดี
โดยเฉพาะกะปิ กุ้งแห้ง
2. ถ้าต้องการเพิ่มรสเผ็ดอีกเล
็น้อยให้ใส่พริกแห้ง พริกเหลือง หรือพริกขี้หนูลงโขลกรวมกับ
พริกแกงด้วย
3. ก่อนปรุงรสเค็มให้ชิมรสก่อน
ทุกครั้ง เพราะกะปิ กุ้งแห้งจากแต่ละที่นั้นให้
รสเค็มไม่เท่ากัน
4. สำหรับแกงเลียงที่ใส่ผักหลา
ยๆ ชนิด เช่น แกงเลียงผักรวม แกงเลียงนพเก้า ผักแต่ละชนิดใช้เวลาทำให้สุ
กไม่เท่ากัน ต้องใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อ
น เช่น ฟักทอง เผือก ข้าวโพดอ่อน
5. แกงเลียงสามารถแบ่งรับประทา
นหลายมื้อได้ โดยแบ่งน้ำแกงสำหรับรับประท
านแต่ละมื้อแยกใส่ถุงหรือกล
่องพลาสติกแช่ไว้ในตู้เย็น มื้อไหนจะรับประทานก็นำน้ำแ
กงออกมาอุ่นในหม้อ แล้วค่อยใส่ผักลงไปต้มให้สุ
ก เพราะถ้าต้มผักแต่แรกแล้วแบ
่งกับไว้ในตู้เย็น นำออกมาอุ่นอีกทีผักก็จะเละ
ไม่น่ารับประทาน
อย่างในภาพนี้เป็นแกงเลียงน
พเก้า ใส่ผัก 9 ชนิด ได้แก่ ผักตำลึง ข้าวโพดอ่อน แคร์รอต ฟักทอง ยอดผักหวาน ถั่วลันเตาหวาน บวบเหลี่ยม ใบแมงลัก และเห็ดฟาง น่ารับประทานเชียวค่ะ