การจัดแสงไฟในบ้านหลายคนอาจไม่ค่อยให้ความสำคัญ เพราะไม่ได้เพียงส่องสว่างอย่างเดียว แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศ อารมณ์ และความรู้สึกให้บ้านน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ในแต่ละห้องควรเลือกแสงไฟที่แตกต่างกัน คือ
1.
ห้องนอน...เหมาะสำหรับหลอดไฟแบบคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดตะเกียบ มีขนาดเล็กใช้พลังงานน้อย อายุการใช้งานนาน ให้แสงอบอุ่น และนุ่มนวล สามารถใช้เป็นแบบโคมไฟห้อยขนาดเล็ก ไฟซ่อนผนัง ไฟฝังฝ้า แต่ไม่ควรใช้แสงอ่อนมากเกินไป
2.
ห้องครัว…ควรใช้หลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนต์หรือหลอดไฟฮาโลเจน ทนต่อความร้อนได้ดีกว่าหลอดไฟทั่วไป ส่วนบริเวณเตาในครัวให้ใช้โคมไฟดาวไลท์ หรือจะเป็นโคมไฟดาวไลท์แบบมีกระจกปิดเพื่อป้องกันฝุ่นควันและความชื้น
3.
ห้องทำงาน…ควรใช้หลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนต์หรือหลอดฮาโลเจนที่ให้แสงสีขาว ไม่ผิดเพี้ยนจากธรรมชาติใช้พลังงานค่อนข้างมากแต่มีประสิทธิภาพแสงและอายุการใช้งานมากกว่าหลอดไส้ หรือจะเป็นโคมไฟดาวน์ไลท์ให้แสงสว่างกระจายทั่วห้องใช้หลอดไฟแสงสีขาวนวล
4.
ห้องนั่งเล่น...เหมาะสำหรับใช้หลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนต์แสงสีขาว สีส้มนวล หรือหลอดไฟคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ ส่วนใหญ่ใช้แบบ T12 ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกหลอดผอมแบบ T8 หรือ T5 จะดีมาก เพราะหลอดมีขนาดเล็กกว่าแต่ให้ความสว่างเท่ากันแถมยังช่วยประหยัดพลังงานและค่าไฟมากขึ้นด้วย
5.
ห้องน้ำ…ควรใช้หลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนต์แบบคูลไวท์ เดย์ไลน์ หรือหลอดฮาโลเจนที่มีแสงสว่างเป็นพิเศษ เพื่อที่จะไล่ความอับชื้นในห้องน้ำออกไปให้หมดไม่มีเชื้อโรคอยู่