นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (
OR) และ
ดร. รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ คทช. สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG” ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) โดยมี
นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ OR และ
นายณัฐวุฒิ เปลื้องทุกข์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน ณ ห้องพลังไทย 2 อาคาร ชั้น M อาคาร 2 ปตท. สำนักงานใหญ่
นายดิษทัต เปิดเผยว่า OR ร่วมมือกับ สคทช. มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรที่ประกอบอาชีพผู้ผลิตกาแฟ ควบคู่กับการพัฒนาการแปรรูปเมล็ดกาแฟให้มีมาตรฐาน พร้อมทั้งเป็นตลาดรับซื้อผลผลิตกาแฟที่มีคุณภาพด้วยระบบราคาที่เป็นธรรม (Fair Trade) และมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนให้พื้นที่ คทช. เป็นพื้นที่ต้นแบบในการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดมูลค่าสูงสุด ด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG และต่อยอดขยายผลไปสู่พื้นที่อื่น ๆ ต่อไป โดย OR จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรในการปลูกกาแฟและผลิตกาแฟให้มีคุณภาพ โดยร่วมกันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อพัฒนาทักษะเกษตรกรในพื้นที่ คทช. ต้นแบบ โดย สคทช. ซึ่งเป็นองค์กรที่มีภารกิจสำคัญในการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการเร่งรัดขับเคลื่อนการจัดที่ดินทำกิน ให้ชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้มีสิทธิทำกินและอยู่อาศัยในที่ดินของรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะเป็นผู้คัดเลือกพื้นที่ดำเนินการที่มีความเหมาะสมมาเข้าร่วมโครงการ โดยจะเริ่มนำร่องจากพื้นที่ คทช. ในจังหวัดเชียงใหม่ และขยายผลสู่พื้นที่ คทช. ทั่วประเทศ ตามความเหมาะสมกับบริบทและความต้องการของประชาชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG ให้ประชาชนมีรายได้และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าผืนดิน คทช. โดยคำนึงถึงการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ OR จะสนับสนุนด้านการตลาด โดย OR จะรับซื้อผลผลิตกาแฟที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของคาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon) ด้วยระบบราคาที่เป็นธรรม (Fair Trade) จากเกษตรกรที่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนการปลูกกาแฟของโครงการ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของ OR ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสและสร้างคุณค่าแก่ผู้คนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังตลอดห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจ
ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจโดยมุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจพลังงานและธุรกิจค้าปลีกแบบผสมผสานควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการเติบโตตามแนวทาง OR SDG ในทุกมิติ ทั้งในด้าน “S” หรือ “Small” ที่มุ่งเน้นการให้โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก ด้วยการส่งเสริมพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรผู้ปลูกการ ด้าน “D” หรือ “Diversify” ที่มุ่งสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ สร้างความแตกต่างและความเข้มแข็งในธุรกิจ ด้วยการให้ความสำคัญกับธุรกิจต้นน้ำอย่างยั่งยืน รวมทั้งในด้าน “G” หรือ “GREEN” ที่มุ่งสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) เพื่อก้าวที่มั่นคงสู่เป้าหมายการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนในปี 2030 (OR 2030 Goals) ต่อไป