Booking.com เชิญชวนทุกคนท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกไปด้วยกัน เริ่มต้นด้วยไอเดียทริป ‘Grow Green Together’ ณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

0    696    0    12 ม.ค. 2566 11:48 น.   
แบ่งปัน

Booking.com เชิญชวนทุกคนท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกไปด้วยกัน เริ่มต้นด้วยไอเดียทริป ‘Grow Green Together’ ณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

   เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวแบบรักษ์โลก ผู้คนอาจจะนึกภาพการออกไปตั้งแคมป์กลางป่าใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ก็ยังไม่พลาดที่จะเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต หรือการเข้าพักในโฮสเทลที่ต้องแชร์ห้องนอนหรือห้องน้ำกับผู้เข้าพักท่านอื่น เพื่อนำเสนอมุมมองใหม่ให้กับการเดินทางอย่างยั่งยืน ที่ไม่ว่าใครก็สามารถรักษ์โลกได้ Booking.com แนะนำไอเดียท่องเที่ยวแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่น ผ่านทริป ‘Grow Green Together with Booking.com’ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมืองรองทางภาคเหนือของประเทศไทย พร้อมแนะนำที่พักที่มีแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนให้เป็นตัวเลือกและแรงบันดาลใจสำหรับการออกเดินทางครั้งต่อไปแบบยั่งยืนมากยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน

เมื่อถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน จุดหมายปลายทางแรกที่เราขอแนะนำ คือ ไร่ชิวอวี๋ ไร่ชาของชาวท้องถิ่นที่มีบริการทั้งอาหารสไตล์ไทย-จีนยูนนาน และชาหลากหลายประเภท ให้ผู้มาเยือนได้นั่งทานข้าว จิบชา และพักผ่อนท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันสวยงามของทิวเขาโดยรอบ และสิ่งที่ห้ามพลาดของที่นี่ คือ ‘ชากุหลาบ’ ที่คัดสรรกุหลาบมอญเก็บสด ๆ จากในไร่มาชงตามออเดอร์เท่านั้น ด้วยกรรมวิธีการชงสูตรพิเศษของทางไร่ ทำให้ชากุหลาบที่นี่มีกลิ่นหอมของกุหลาบมอญเด่นชัด ผสมผสานกับรสชาติน้ำผึ้งป่าที่ช่วยมาเติมเต็มความหอมหวาน ช่วยเพิ่มความสดชื่นหลังจากเดินทางไกลได้เป็นอย่างดี

เรเวอรี่ สยาม อยู่ห่างจากไร่ชิวอวี๋เพียง 30 นาที ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปาย ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน รีสอร์ทแห่งนี้ได้ดำเนินธุรกิจตามแนวทางด้านความยั่งยืน และมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นในหลาย ๆ ด้านผ่านการนำเสนอและยกระดับวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าต่าง ๆ ทางภาคเหนือของประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักและแพร่หลายในหมู่ผู้เดินทาง

การเข้าพักที่นี่นอกจากจะได้พักผ่อนหย่อนใจไปกับบรรยากาศอันเงียบสงบ ในที่พักสไตล์ไทยโคโลเนียลท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบและสวยงามของทิวเขาธรรมชาติที่พาดผ่านแม่น้ำปายแล้ว อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญ คือ อาหารของทางโรงแรม ที่นอกจากจะใช้วัตถุดิบจากในชุมชนท้องถิ่นมาปรุงอาหารแล้ว ยังยกระดับเมนูเด็ดของชุมชนท้องถิ่นผ่านการรังสรรค์รูปแบบการนำเสนอ และนำมาเสิร์ฟให้กับผู้เดินทางได้ลิ้มลองรสชาติอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าทางภาคเหนือของไทยในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ซึ่งเมนูทานเล่นแนะนำของทางเรเวอรี่ สยาม ที่ถูกเลือกมานำเสนอผ่านทริป Grow Green Together มีดังนี้
  • ข่างบอง อาหารว่างพื้นบ้านของชาวไทใหญ่ ทำมาจากมะละกอและฟักทองชุปแป้งทอด เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มถั่วที่ทำมาจากวัตถุดิบในท้องถิ่น
  • จิ้นลุง เมนูอาหารของชาวไทใหญ่ ทำมาจากเนื้อหมูปั้นก้อนทอด ทานคู่กับน้ำพริกมะเขือเทศแบบเมืองเหนือ และเพิ่มกลิ่นด้วยใบมะกรูด
  • ซุปอาข่า เป็นเมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเอกลักษณ์ของวัตถุดิบในท้องถิ่นของชาวอาข่า โดยประยุกต์ให้กลิ่นและรสชาติของวัตถุดิบท้องถิ่นนั้นเข้าถึงง่ายมากขึ้นแต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ไว้ โดยซุปครีมนี้มีส่วนประกอบเป็นมันฝรั่ง แครอททอดกรอบ และน้ำมันรากซู (พืชท้องถิ่นของชาวอาข่า)

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการชมพระอาทิตย์ขึ้น ณ จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล หนึ่งในจุดชมวิวยอดนิยมในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ด้วยความสวยงามตามธรรมชาติของวิวทิวทัศน์ที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกราวกับถูกโอบล้อมอยู่ท่ามกลางทิวเขา พร้อมทะเลหมอกยามเช้าที่มองเห็นได้จากจุดชมวิวอย่างชัดเจน และเมื่อแสงของวันใหม่ทอประกายขึ้นภาพความสวยงามของตัวเมืองปายก็จะปรากฎให้เห็นชัดเจนแบบ 360 องศา ซึ่งนอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วที่จุดชมวิวยังมีร้านค้าของชาวท้องถิ่นที่นอกจากจะมีของฝากให้ซื้อติดมือกลับบ้านแล้ว ยังให้บริการอาหารเช้าสไตล์ไทย-จีน ไม่ว่าจะเป็นชาจีน กาแฟ หมั่นโถว หรือข้าวต้มร้อน ๆ สำหรับนั่งรับลมชิว ๆ ท่ามกลางวิวอลังการ

จุดหมายปลายทางต่อไปคือ บ้านรักไทย หมู่บ้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาติดชายแดนไทย-เมียนมา ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน วิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวท้องถิ่นที่นี่ได้รับอิทธิพลจากชาวจีน เนื่องจากบรรพบุรุษของคนที่นี่ส่วนมากอพยพมาจากมลฑลยูนนาน ประเทศจีน จนเกิดเป็นการผสมผสานทางวัฒนธรรมขึ้น นอกจากผู้เดินทางที่มาเยือนบ้านรักไทย จะได้ลิ้มลองอาหารไทย – จีนยูนนานที่มีรสชาติอันโดดเด่นแล้ว ที่นี่ยังมีชาหลากชนิดที่ปลูกได้ทางภาคเหนือของไทยให้ได้ลองลิ้มรส และเลือกซื้อกลับบ้านไปเป็นของฝาก นอกจากนั้นยังสามารถใช้บริการล่องแพที่เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์อันสวยงามของหมู่บ้าน ที่เรียงตัวอย่างกลมกลืนกับภูเขาเขียวขจี เต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์ ท่ามลางทะเลสาบในหมู่บ้านได้อย่างเต็มที่

แสงปอย คอทเทจ เป็นที่พักที่ตั้งอยู่ห่างจากบ้านรักไทยประมาณ 1 ชั่วโมง ที่พักแห่งนี้ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนซึ่งสะท้อนออกมาให้เห็นผ่านแนวคิดในการดำเนินธุรกิจของเจ้าของที่พัก ที่มีความตั้งใจจะเติบโตไปพร้อม ๆ กับชุมชน และนำเสนอที่พักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบอย่างแท้จริง ที่ถูกแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนผ่านการออกแบบและสถานที่ตั้งของที่พัก ที่มีความใกล้ชิดกับธรรมชาติ และสามารถเข้าถึงวิถีชีวิตในชุมชนท้องถิ่นได้

ผู้เดินทางสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของธรรมชาติที่อยู่รอบ ๆ ที่พัก ทั้งวิวทิวเขาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และไร่เกษตรของชาวบ้านรอบ ๆ ซึ่งนอกเหนือจากธรรมชาติอันสวยงามรอบที่พักแล้ว นี่ยังเป็นอีกหนึ่งที่พักที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ด้วยการพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียภายใน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผลิตผลต่อนาข้าวของชุมชนรอบข้าง ผลิตภัณฑ์ซักล้างของที่พักล้วนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการออกแบบห้องพักที่สามารถรับแสงและลมธรรมชาติได้ ช่วยให้ผู้เข้าพักได้ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ และไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นไปในตัวด้วย

นอกจากนั้นผู้เข้าพักยังสามารถเข้าถึงข้อมูลการท่องเที่ยวแบบสนับสนุนชุมชนภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ผ่านที่พักแห่งนี้อีกด้วย และในครั้งนี้ทางแสงปอย คอทเทจ ได้เตรียมชุด Welcome Set สำหรับรับรองแขกผู้เข้าพักจาก Grow Green Together โดยเฉพาะ เพื่อนำเสนอเอกลักษณ์ของขนมในชุมชน ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
  • เปงม้ง ขนมหวานท้องถิ่นประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นขนมเค้กสไตล์ไทใหญ่ ทำด้วยแป้ง กะทิ และน้ำตาลมะพร้าว
  • ส่วยทะมิน ขนมหวานท้องถิ่นประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกชนิดหนึ่ง ทำมาจากข้าวเหนียวพันธุ์พื้นเมือง ราดหน้าด้วยกะทิ และมีกระบวนการทำให้หน้ากะทิหอมไหม้ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวไทใหญ่ โดยการอบหน้าด้วยกาบมะพร้าวเผาไฟ
  • ชายอดน้ำค้าง ชาท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของทางภาคเหนือ ปลูกในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ระดับความสูง กว่า 1000 เมตรจากระดับน้ำทะเล

สะพานซูตองเป้ เป็นสะพานไม้ไผ่สานสร้างขึ้นเพื่อถวายไว้ในบวรพระพุทธศาสนา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพระภิกษุสงฆ์ที่พำนักอยู่ที่สวนธรรมภูสมะในการออกบิณฑบาตร ตั้งอยู่ห่างจากแสงปอย คอทเทจเพียง 950 เมตรสะพานซูตองเป้ นอกจากจะเป็นที่รู้จักในฐานะสะพานที่เชื่อมโยงชุมชนท้องถิ่น และพระพุทธศาสนาเข้าด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยังถูกสร้างอย่างมีเอกลักษณ์และมีทิวทัศน์ที่สวยงาม และนับได้ว่าเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ที่ถูกรายล้อมไปด้วยไร่นาอันอุดมสมบูรณ์ของชุมชนท้องถิ่นที่กว้างสุดลูกหูลูกตา

ผู้มาเยือนสามารถเดินเท้าเพื่อดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์จากต้นสะพานซูตองเป้ ทอดผ่านไร่นารอบ ๆ เป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร ไปสู่สถานที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อเจ้าพาราซูตองเป้ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาท่ามกลางวิวทุ่งนาและภูเขาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สักการะและขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล

ปิดท้ายทริปด้วยการแวะ บ้านจ่าโบ่ หมู่บ้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในอำเภอปางมะผ้า ระหว่างการเดินทางกลับเชียงใหม่ เพื่อชมวิวของทิวเขาอันตระการตา และสัมผัสวิถีชีวิตของชาวท้องถิ่น และอีกกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลย คือ การลองชิม “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา” ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ตั้งอยู่บนเนินเขาด้านหน้าหมู่บ้าน ที่ออกแบบให้ผู้เดินทางได้นั่งห้อยขาบริเวณชานร้านที่ยื่นออกไปท่ามกลางวิวทิวเขาและธรรมชาติเขียวขจีที่ล้อมรอบหมู่บ้านไว้ พร้อมกับลิ้มรสก๋วยเตี๋ยวร้อน ๆ ที่ชาวท้องถิ่นภูมิใจนำเสนอ
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ