ภูมิคุ้มกันสร้างได้ ด้วย 3 สารอาหารที่ใช่ อร่อยได้ในแบบที่ชอบ
ท่ามกลางความวิตกกังวลเรื่
องสภาวะโรคภัยไข้เจ็บที่แพร่
กระจายในหลายพื้นที่ คนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะวัยทำงานที่มีภารกิ
จมากมายในแต่ละวัน จึงต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ดูแลและป้องกันตัวเองอย่างดีที่
สุด และที่สำคัญคือการทำร่างกายให้
แข็งแรงอยู่เสมอ เนสท์เล่อยากให้คนไทยเสริมสร้
างร่างกายให้สุขภาพดี โดยเฉพาะเรื่องของการมีสุขอนามั
ยที่เหมาะสม และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกั
นของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ การเตรียมร่างกายให้พร้อมโดยกิ
นอาหารที่ครบถ้วน และมีส่วนช่วยสร้างภูมิคุ้มกั
นให้ร่างกาย ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายเป็
นประจำ ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่อาจจะช่
วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้
มกัน ลดความเสี่ยงหรือความรุ
นแรงจากเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้
นางสาวจันทิมา เกยานนท์ นักวิชาการด้านอาหารและโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด แนะนำว่า “โดยปกติแล้วระบบภูมิคุ้มกั
นของร่างกายเรานั้
นจะทำงานในการช่วยต่อต้านเชื้
อโรคและไวรัสต่าง ๆ และกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่
ร่างกาย หากเราขาดการดูแลสุขภาพ รับประทานอาหารที่ได้
สารอาหารไม่เพียงพอ ขาดการออกกำลังกาย มีความเครียด พักผ่อนน้อย ก็จะทำให้ภูมิคุ้มกันของร่
างกายลดต่ำลง เราสามารถเสริมภูมิคุ้มกันให้
แข็งแรงขึ้นได้ด้
วยการทานอาหารให้ครบถ้วนเพื่
อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่
เพียงพอ คือได้รับพลังงานจากสารอาหารหลั
กทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และสารอาหารรอง เช่น วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ รวมทั้งดื่มน้ำสะอาดที่เพี
ยงพอควบคู่ไปกับการออกกำลั
งกายเป็นประจำสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็
งแรงได้อีกทางหนึ่ง”
3 สารอาหารสำคัญที่มีส่
วนในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้
มกัน ที่สามารถรับประทานได้จากแหล่
งอาหารทั่วไป ได้แก่
1. วิตามินดี วิตามินที่ดีแต่ถูกมองข้าม
วิตามินดี นอกจากช่วยในการดูดซึมแคลเซี
ยมแล้ว ยังพบว่ามีบทบาทสำคัญต่อระบบภู
มิคุ้มกัน โดยการทำงานของระบบภูมิคุ้มกั
นหลาย ๆ กลไกนั้น จะได้รับการกระตุ้นจากวิตามินดี
ทำให้ระบบการทำงานของภูมิคุ้มกั
นเป็นไปได้อย่างปกติ และหากมีวิตามินดีในร่างกายเพี
ยงพอ จะทำให้โอกาสการติดเชื้อลดลงได้
อีกด้วย รวมทั้งยังลดความเสี่ยงในการเกิ
ดปัญหาภูมิคุ้มกันต้านทานเนื้
อเยื่อตนเอง (Autoimmune) ได้อีกด้วย โดยวัยทำงานต้องการวิตามินดี
ประมาณ 600 IU ต่อวัน ร่างกายของเราสามารถรับวิตามิ
นดีจากธรรมชาติได้ทางแสงแดด แนะนำให้โดนแสงแดดในช่วงเวลา 9.00 – 15.00 น. ประมาณ 5 – 30 นาที โดยไม่ต้องทาครีมกันแดด
อาหารที่มีวิตามินดี
อาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินดี ได้แก่ เห็ดชนิดต่าง ๆ ตับ เนื้อปลาที่มีไขมัน ธัญพืชโฮลเกรน นมหรือผลิตภัณฑ์นมที่มีการเสริ
มวิตามินดี เป็นต้น
2. วิตามินซี วิตามินยอดฮิตสำหรับคนที่อยากแข็งแรง
วิตามินซีมีบทบาทในด้านระบบภูมิ
คุ้มกัน ช่วยเสริมความแข็งแรงของเยื่อบุ
ผิว ซึ่งมีหน้าที่ในการป้องกันการรุ
กรานของสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ รวมทั้งกระตุ้นให้ระบบต้านอนุมู
ลอิสระทำงานได้อย่างปกติ ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งมี
หน้าที่ทำลายเชื้
อโรคสามารถทำงานได้อย่างปกติ โดยทั่วไปแล้ว คนในวัยทำงานต้องการวิตามินซี
ประมาณ 85 – 100 mg ต่อวัน
อาหารที่มีวิตามินซี
อาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินซี คือ ผักหรือผลไม้สด เช่น ส้ม ฝรั่ง กีวี่ มะละกอ บรอคโคลี่ โดยปกติการบริโภคผลไม้ครั้
งละประมาณ 1 กำปั้น วันละ 2-4 ครั้ง ก็จะได้รับวิตามินซีเพียงพอ เช่น ส้มเขียวหวาน 2 ลูก จะให้วิตามินซีประมาณ 130 มิลลิกรัม หรือเลมอน 1 ลูก จะให้วิตามินซีประมาณ 83.2 มิลลิกรัม วิตามินซีจะสลายตัวได้ค่อนข้
างง่ายจากการสัมผัสกับแสงแดดหรื
อโดนความร้อนในการปรุงอาหาร ดังนั้น ผักที่ผ่านการปรุงสุกด้วยความร้
อนจะมีวิตามินซีลดลง นอกจากนี้ วิตามินซีอาจได้รับจากการบริ
โภคอาหารที่มีการเสริมวิตามิน เช่น เครื่องดื่มหรือธัญญาหารเสริมวิ
ตามินซี
3. ธาตุเหล็ก เสริมภูมิต้านทาน ทำงานร่วมกับวิตามินซี
ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารที่มี
บทบาทในกระบวนการต้านอนุมูลอิ
สระของร่างกาย ทำให้ผิวหนัง และชั้นเนื้อเยื่อต่าง ๆ มีความแข็งแรง รวมทั้งทำให้การสร้างเซลล์
ในระบบภูมิคุ้มกันเป็นไปอย่
างปกติ ธาตุเหล็กจึงเป็นสารอาหารที่มี
บทบาทต่อระบบภูมิคุ้มกันอย่
างมาก รวมทั้งช่วยให้ร่างกายมีประสิ
ทธิภาพในการทำลายเชื้อโรคที่บุ
กรุกได้เป็นอย่างดี
อาหารที่มีธาตุเหล็ก
แหล่งอาหารที่มีธาตุเหล็กในปริ
มาณสูง ได้แก่ เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อแดง ส่วนเนื้อขาว เช่น ปลา ไก่ จะมีเหล็กในปริมาณที่น้อยกว่
าเนื้อแดงที่มีน้ำหนักเท่ากัน ผู้หญิงวัยทำงานต้องการธาตุเหล็
กประมาณ 20 มิลลิกรัมต่อวัน ขณะที่ผู้ชายต้องการประมาณ 11.5 มิลลิกรัมต่อวัน ธาตุเหล็กจะได้รับการดูดซึมได้
ดียิ่งขึ้นในอาหารมื้อนั้น ๆ เมื่อมีวิตามินซีจากอาหารร่วมด้
วย เพราะวิตามินซีช่วยดูดซึมธาตุ
เหล็ก โดยผู้บริโภคสามารถเลือกทานผลิ
ตภัณฑ์อาหารหรือเครื่องดื่มที่
เสริมธาตุเหล็กได้
“นอกจากเลือก 3 สารอาหารที่ใช่แล้ว การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงด้วย 3อ. คือ อ.อาหาร อ.ออกกำลังกาย และ อ.อารมณ์ ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ เพื่อสร้างสุขภาพร่างกายและจิ
ตใจที่แข็งแรงและทำอย่างสม่ำ
เสมอควบคู่กับการรักษาสุขอนามั
ยในชีวิตประจำวัน ทั้งหมั่นล้างมือ เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุ
กใหม่ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่
ปรุงค้างไว้ รวมทั้งการใช้ช้อนกลางเมื่อรั
บประทานอาหารร่วมกัน จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้
อโรคได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้
ร่างกายมีสุขภาพดีในระยะยาว”
นางสาวจันทิมา เกยานนท์ กล่าวปิดท้าย