“OR” เข้าลงทุนร้อยละ 20 ใน “โอ้กะจู๋” ต่อยอดธุรกิจ F&B เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค
นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ
“OR” เป็นประธานในพิธีลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น ระหว่าง บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ OR กับ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด ซึ่งดำเนินกิจการร้านอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” โดยมี
นางสาวราชสุดา รังสิยากูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร นวัตกรรมและความยั่งยืน ในฐานะกรรมการ บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด และ
นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล นายจิรายุทธ ภูวพูนผล และนายวรเดช สุชัยบุญศิริ ผู้ถือหุ้นและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด พร้อมด้วย
นายสุชาติ ระมาศ รองกรรมการผู้จัดการการตลาดขายปลีก OR ร่วมลงนาม
นางสาวราชสุดา เปิดเผยว่า “OR ดำเนินกลยุทธ์โดยมุ่งเน้นการเติบโตจากภายนอก (Inorganic Growth) เพื่อเพิ่มผลกำไรในระยะยาว โดยเน้นการดำเนินธุรกิจในรูปแบบการร่วมทุนกับบริษัทที่มีศักยภาพ และได้แสวงหาโอกาสและช่องทางในการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage : F&B) จึงได้ตัดสินใจเข้าลงทุนใน บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการร้านอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องความสดใหม่ของผักที่ปลูกด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ และส่งตรงจากฟาร์มผักขนาดใหญ่ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดย OR เข้าลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 20 ตั้งเป้าขยายสาขาร้านโอ้กะจู๋เพิ่มเติมในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station รวมถึงการจำหน่ายอาหารแบบ Grab & Go ผ่านร้าน Café Amazon ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และภาคเหนือ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความหลากหลาย และเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีไลฟ์สไตล์ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ รวมถึงมีวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและหันมาเลือกซื้ออาหารที่ปรุงสำเร็จพร้อมรับประทานหรืออาหารสำเร็จรูปเพื่อนำกลับไปรับประทานที่อื่น แทนที่นั่งรับประทานอาหารในร้านมากขึ้น”
นอกจากนี้ การเข้าลงทุนใน บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด ยังเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรผู้ปลูกผักในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการที่มีโอกาสเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านทางสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ซึ่งมีจำนวนกว่า 1,900 สาขาทั่วประเทศ และ ร้าน Café Amazon ซึ่งมีจำนวนสาขาถึงกว่า 3,000 สาขา สอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจของ OR ที่มุ่งสร้างคุณค่าร่วมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้ผู้บริโภค พร้อมทั้งช่วยสนับสนุนและสร้างผู้ประกอบการรายย่อย (SME) ในการดำเนินธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ (Non-Oil) ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจชุมชนในทุกพื้นที่ที่ OR เข้าไปดำเนินธุรกิจ สำหรับ บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด เป็นบริษัทที่ OR จัดตั้งขึ้นเพื่อลงทุนในธุรกิจใหม่ในประเทศไทยที่มีศักยภาพการเติบโตและสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ OR
นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงวิสัยทัศน์ของ OR ที่มุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าให้กับสังคมชุมชน ผ่านการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับแนวความคิดการดำเนินธุรกิจของแบรนด์โอ้กะจู๋ ที่ให้ความสำคัญกับสังคมและสิ่งแวดล้อม มีการช่วยเหลือเกษตรกรและชุมชนให้มีรายได้ที่มั่นคงและมีสุขภาพที่ดี โดยเปลี่ยนจากเกษตรเคมีมาสู่เกษตรอินทรีย์อย่างมั่งคงและยั่งยืน โดยโอ้กะจู๋ได้เริ่มจากกลุ่มผู้ก่อตั้งได้ริเริ่มธุรกิจปลูกผักสวนครัว ในปี 2553 และจากนั้นจึงได้ขยายธุรกิจมาสู่ร้านอาหารโอ้กะจู๋ ในปี 2556 ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมาความตั้งใจและมุ่งมั่นของผู้ก่อตั้งในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคผ่านการบริหารงานตั้งแต่ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ คือการเริ่มต้นจากการปลูกผักในฟาร์มของตนเองที่และส่งตรงถึงหน้าร้านเพื่อรักษาคุณภาพและความสดใหม่ โดยสาขาแรกอยู่ที่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นในปี 2560 จึงเริ่มขยายสาขามายังกรุงเทพฯ ที่สยามสแควร์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างมากจนปัจจุบันมีจำนวนสาขารวมทั้งสิ้น 14 สาขา ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำร้านอาหารเพื่อสุขภาพของประเทศ
สำหรับเงินทุนที่ได้รับในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ อาทิ การนำเทคโนโลยี Smart Farm มาใช้ เพื่อทำให้ได้ผลผลิตที่สม่ำเสมอและมีคุณภาพ รวมถึงการสร้างครัวกลางที่จังหวัดเชียงใหม่ การสร้างศูนย์กระจายสินค้า เพื่อรองรับการขยายสาขาไปยังภูมิภาคต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนของการส่งเสริมและพัฒนาชุมชนนั้น ทางบริษัทฯมีโครงการที่จะทำศูนย์การเรียนรู้การปลูกผักแบบวิถีเกษตรอินทรีย์ ให้แก่นักเรียน นักศึกษาและผู้ที่สนใจ รวมถึงมีแผนการที่จะช่วยเหลือเกษตรกรโดยเป็นตัวกลางที่เชื่อมระหว่างเกษตรกรที่ไม่มีช่องทางขายกับผู้บริโภคที่ต้องการผักอินทรีย์ ผ่านทางแอพพลิเคชั่นที่อยู่ระหว่างการพัฒนา