ขนมหม้อแกง เป็นหนึ่งในขนมไทยที่คนไทยหลงรัก ด้วยรสชาติหวานมันหอมละมุน และเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม ขนมชนิดนี้เป็นตัวแทนของความประณีตและความคิดสร้างสรรค์ในวัฒนธรรมการทำขนมของไทย

ประวัติความเป็นมา ขนมหม้อแกงมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยได้รับอิทธิพลจากการทำขนมของชาวโปรตุเกส และปรับสูตรให้เข้ากับวัตถุดิบที่มีในประเทศไทย ปัจจุบันขนมหม้อแกงมีหลายสูตร เช่น หม้อแกงไข่ หม้อแกงถั่ว และหม้อแกงเผือก

วัตถุดิบและอุปกรณ์

วัตถุดิบหลัก:

• ไข่เป็ด 5 ฟอง
• น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม
• กะทิ 400 มิลลิลิตร
• แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
• ถั่วทองคั่วบดละเอียด (หรือเผือกบด) 100 กรัม (ใส่ตามชอบ)

อุปกรณ์:

• หม้อหรือกระทะสำหรับผสม
• ตะแกรงกรอง
• ถาดอบหรือพิมพ์ขนม
• เตาอบ

วิธีการทำ

1. เตรียมวัตถุดิบ

   • ตีไข่เป็ดให้เข้ากัน แล้วกรองด้วยตะแกรงเพื่อให้เนื้อเนียน
   • ผสมกะทิ น้ำตาลปี๊บ และแป้งข้าวเจ้าในหม้อ คนให้เข้ากันดี

2. ผสมและปรุง

   • ใส่ไข่ที่กรองไว้ลงในส่วนผสมกะทิ คนให้เนียนเข้ากัน
   • เติมถั่วทองบดหรือเผือกบดลงไป ผสมจนเข้ากันดี

3. อบขนม

   • เทส่วนผสมลงในถาดอบหรือพิมพ์ที่เตรียมไว้
   • อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 40-50 นาที หรือจนกว่าหน้าขนมจะเป็นสีทอง

4. จัดเสิร์ฟ

   • พักให้ขนมเย็นตัว แล้วตัดเป็นชิ้น พร้อมจัดเสิร์ฟ

เคล็ดลับในการทำขนมหม้อแกงให้อร่อย

• ใช้กะทิสดจะช่วยเพิ่มความหอมมัน
• ตีไข่และกรองอย่างละเอียดเพื่อให้เนื้อเนียน
• คั่วถั่วทองให้หอมก่อนนำมาบด

ขนมหม้อแกงยังคงเป็นที่นิยมทั้งในงานบุญ งานประเพณี และเทศกาลต่าง ๆ การเรียนรู้การทำขนมหม้อแกงไม่เพียงแต่ช่วยรักษาเอกลักษณ์ไทย แต่ยังช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่