ช่วงที่ผ่านมาอาจจะได้เห็นข่าวสาวแพ้กุ้งขั้นรุนแรง เพราะกินอาหารที่ปนหางกุ้งเข้าไป แม้จะแจ้งร้านอาหารแล้วว่าแพ้กุ้ง จนล้มฟุบหมดสติ และถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล บางคนมองว่าการแพ้อาหารเป็นเรื่องเล็กน้อย กินเข้าไปบ่อยๆ เดี๋ยวก็หาย ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด การแพ้อาหารไม่สามารถรักษาให้หายขาด ทำได้เพียงบรรเทาอาการเท่านั้น อาการมีตั้งแต่ผื่นคัน ชาตามใบหน้า ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ไปจนถึงขั้นรุนแรง ช็อก หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้
 
ดังนั้นเรื่องการแพ้อาหารจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามและต้องใส่ใจอย่างมาก หากเรารู้ลักษณะอาการและวิธีแก้แพ้เบื้องต้น ก็จะทำให้เราช่วยเหลือได้อย่างถูกวิธีและปลอดภัยก่อนพบแพทย์
 
วิธีสังเกตอาการแพ้อาหาร
อาการแพ้อาจเกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่นาทีหรือเป็นชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร ถ้ายิ่งแสดงอาการเร็ว แปลว่ามีอาการแพ้รุนแรง ควรรีบพบแพทย์ทันที
 
อาการแพ้ทั่วไป
- มีผื่นคันหรือลมพิษขึ้นตามผิวหนัง
- คันหรือชาบริเวณปาก ลำคอ
- วิงเวียนศีรษะ
- จาม คัดจมูก
- มีอาการบวมตามร่างกาย ใบหน้า ดวงตา ริมฝีปาก ลำคอ
- ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน
 
อาการแพ้รุนแรง
- ทางเดินหายใจหดตัว หายใจลำบาก
- ชีพจรเต้นเร็ว
- ความดันโลหิตลดต่ำลง
- ช็อก หมดสติ

 
อาหารที่คนแพ้มากที่สุด
- นม
- ไข่
- แป้งสาลี
- ถั่วลิสง
- ถั่วเหลือง
- ถั่วจากพืชยืนต้น เช่น อัลมอนด์ แมคคาเดเมีย มะม่วงหิมพานต์
- อาหารทะเลเปลือกแข็ง เช่น กุ้ง ปู หอย ปลาหมึก
- ปลา
 
การแพ้อาหารสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย โดยอาการแพ้นม ไข่ และถั่ว มักพบมากในเด็ก และมีโอกาสหายตอนโตขึ้น ส่วนอาการแพ้อาหารทะเลมักพบในผู้ใหญ่ และไม่สามารถรักษาให้หายได้ บางคนอาจจะไม่แพ้ตอนเด็ก แต่มาแพ้ตอนโต


วิธีแก้อาการแพ้เบื้องต้น
- ขับสารก่อภูมิแพ้ออกจากร่างกายให้ได้มากที่สุด เช่น อาเจียนออกมา ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อขับออกทางปัสสาวะ
- ถ้าอาการไม่รุนแรง สามารถกินยาแก้แพ้ได้
- หากวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ให้จัดท่านั่งให้สบาย หายใจสะดวก
- หากมีอาการรุนแรงให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

การดูแลตัวเองเมื่อแพ้อาหาร
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่แพ้อย่างเด็ดขาด
- อ่านฉลากผลิตภัณฑ์ทุกครั้ง เพื่อเช็คว่ามีส่วนผสมที่แพ้หรือไม่
- ระมัดระวังเวลาทานข้าวนอกบ้าน แจ้งร้านว่าแพ้อะไรบ้าง และเช็คอาหารที่สั่งให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนผสมที่แพ้
- ถ้าต้องเดินทางท่องเที่ยว ควรวางแผนการกินให้ดี
- หากรับประทานอาหารแล้วมีอาการแพ้ ให้จดรายละเอียดของอาหารที่กินและลักษณะอาการ แล้วนำไปปรึกษาแพทย์