5 เมนูวุ้นเส้น อิ่มสบายท้อง

แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
6,376    9    -4    29 ม.ค. 2563 13:00 น.
แบ่งปัน
“เรื่องเล่าสุขภาพจากที่ตัวเองเคยสัมผัส พร้อมแปลงปลูกผักเล็ก ๆ ในรั้วบ้าน
 อยากกินเมื่อไรก็เดินไปเด็ดสด ๆ มาปรุงอาหารได้ทันที ถึงแม้จะไม่มีพื้นฐานด้านอาหารมากนัก แต่ก็รักในการทำ และอยากแชร์เรื่องราวต่าง ๆ ให้อ่านกัน”
       ในตู้เก็บอาหารที่บ้านคุณมีอะไรอยู่บ้างคะ สำหรับที่บ้านเรานอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ก็มักจะมีวุ้นเส้นแบบแห้งวางรวมอยู่ด้วยเสมอ เพราะสามารถเก็บไว้ได้นาน ทั้งยังทำอาหารได้หลายชนิด อาทิ ต้มจืดวุ้นเส้นหมูสับ วุ้นเส้นผัดไข่ สุกี้น้ำหรือแห้ง ยำวุ้นเส้น รวมไปถึงอาหารทอดจำพวกเปาะเปี๊ยะ

วุ้นเส้นเป็นอาหารจำพวกแป้งที่ทำมาจากถั่วเขียว มีลักษณะเป็นเส้นยาวใส ไม่มีสี โดยจะขายเป็นแบบแห้ง ก่อนนำมาปรุงอาหารควรแช่น้ำให้นุ่มเสียก่อน ซึ่งแต่ละยี่ห้อนั้นมีระยะเวลาในการแช่น้ำต่างกันไป เมื่อหลายสิบปีก่อนวุ้นเส้นที่นิยมของคนไทยนั้นเป็นโรงงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี มีขายเป็นห่อใหญ่ เวลาใครไปเที่ยวก็มักจะซื้อกลับมาฝากกัน แต่เดี๋ยวนี้เห็นเขามีขายเป็นห่อเล็ก ๆ แล้ว นอกจากนั้นยังมีอีกหลายยี่ห้อ สามารถเลือกซื้อกันได้ตามชอบ ซึ่งความเหนียวนุ่มนั้นก็ต่างกันไปเช่นกัน 

เคยมีข้อโต้เถียงกันครั้งใหญ่ว่าการกินวุ้นเส้นไม่ได้ช่วยทำให้ผอมแต่อย่างไร แม้ว่าจะทำมาจากถั่วเขียว ซึ่งถือว่ามีโปรตีน แต่กระบวนการทำวุ้นเส้นจะต้องแยกแป้งออกมา ดังนั้นวุ้นเส้นก็คือแป้งล้วน ๆ ไม่ใช่โปรตีนอย่างที่คิด ถึงแม้จะเป็นแป้งวุ้นเส้นก็มีประโยชน์กับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะทำให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูงช้ากว่าแป้งชนิดอื่น ๆ แต่ควรกินควบคู่กับอาหารชนิดอื่นด้วย เช่น ปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ผัก ผลไม้ เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน ไม่ควรกินวุ้นเส้นเพียงอย่างเดียว เพราะจะได้แต่แป้งและทำให้ขาดสารอาหารได้ 
 


ปีกไก่ย่างสอดไส้
 


ส่วนผสม
ปีกไก่ 5 ปีก
กระเทียม รากผักชี พริกไทยโขลกละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมไส้
วุ้นเส้น แช่น้ำให้นิ่มหั่นท่อนสั้นๆ 1/2 ถ้วยตวง
หมูบด 1 1/2 ถ้วยตวง
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชีสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำจิ้มตามชอบ  
ไม้จิ้มฟัน   
ผักสลัดสำหรับตกแต่ง    

วิธีทำ
1. เลาะกระดูกไก่ออกให้เหลือกระดูกส่วนปลาย
2. หมักปีกไก่กับรากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกละเอียด ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ในตู้เย็น ประมาณ 1 ชั่วโมง
3. ผสมหมูบด กระเทียมสับ รากผักชีสับ น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว  ใส่วุ้นเส้น นวดให้เข้ากัน พักไว้ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง
4. บรรจุส่วนผสมไส้ใส่ในปีกไก่พอเต็ม กลัดด้วยไม้จิ้มฟัน และใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มให้รอบปีกไก่เพื่อเวลาย่างจะได้ไม่แตก
5. ย่างปีกไก่ด้วยไฟอ่อนให้สุกเหลืองดึงไม้จิ้มฟันออก จัดใส่จาน ตกแต่งด้วยผักสลัด จัดเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มตามชอบ
 

กุ้งอบวุ้นเส้น
 


ส่วนผสม
กุ้งสด 300 กรัม
วุ้นเส้นแช่น้ำ 300 กรัม
หมูสามชั้นหั่นชิ้นบาง 80 กรัม
รากผักชีทุบพอแตก 3 ราก
ขิงแก่หั่นแว่น 5 แว่น
กระเทียมจีนทุบพอแตก 10 กลีบ
ต้นหอมหั่นท่อนยาว 2 ต้น
พริกไทยดำเม็ดโขลกพอแตก 2 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนชา
น้ำซุป 1 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 2 ต้น

วิธีทำ
1. ผสมน้ำซุป ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย ซีอิ๊วดำหวาน คนให้เข้ากัน ใส่วุ้นเส้นลงแช่เตรียมไว้
2. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะพอร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวพอหอม ปิดไฟ
3. เรียงหมูสามชั้น รากผักชี ขิงแก่ ต้นหอม และพริกไทยดำลงในภาชนะ ใส่วุ้นเส้นในข้อที่ 1 เรียงกุ้งด้านบนปิดฝา เปิดไฟอบจนส่วนผสมสุกทั่ว เปิดฝาโรยขึ้นฉ่าย ปิดฝาต่อสักครู่พอผักสุกปิดไฟ จัดเสิร์ฟร้อนๆ
 

หมูสับนึ่งไข่เค็ม
 


ส่วนผสม
หมูสับ 300 กรัม
ไข่แดงเค็ม (ผ่าครึ่ง) 3 ฟอง
ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
เกลือป่นหยาบ 1 ช้อนชา
วุ้นเส้นแช่น้ำพอนุ่มตัดท่อนสั้น 100 กรัม
น้ำซุปหมู 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. ผสมหมูสับ ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว เกลือป่น นวดให้เข้ากันจนเหนียว
2. ใส่วุ้นเส้นนวดให้เข้ากัน ปั้นส่วนผสมให้เป็นก้อนกลม ใส่ไข่แดงเค็มตรงกลางวางในจานสำหรับนึ่ง จากนั้นเติมน้ำซุปหมู ยกขึ้นนึ่งในน้ำเดือดไฟปานกลางประมาณ 8-10 นาที จนสุกจัดใส่จานจัดเสิร์ฟ
 

ยำวุ้นเส้นหมูสับ
 


ส่วนผสม
วุ้นเส้นแช่น้ำพอนิ่ม 150 กรัม
หมูยอหั่นชิ้น 50 กรัม
เนื้อหมูสับละเอียดรวนสุก 50 กรัม
หอมหัวใหญ่หั่นชิ้น 50 กรัม
มะเขือเทศหั่นชิ้น 50 กรัม
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสีแดงโขลกหยาบ 5-7 เม็ด
ผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่าสำหรับลวก    

วิธีทำ
1. ต้มน้ำเปล่าพอเดือดใส่หมูยอและวุ้นเส้นลงลวก ตักขึ้นใส่อ่างผสม พักไว้
2. ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกขี้หนู คนพอเข้ากัน
3. ใส่น้ำยำในข้อที่ 2 ลงในวุ้นเส้น ตามด้วยเนื้อหมูสับ หอมหัวใหญ่ และมะเขือเทศ คลุกเคล้าพอเข้ากัน
4.โรยผักชี ต้นหอม และถั่วลิสงคั่ว ตักใส่จาน จัดเสิร์ฟ
 

วุ้นเส้นผัดไข่ใส่ผักหวาน
 
​​​​​​​
 
ส่วนผสม
หมูสับ 100 กรัม
วุ้นเส้นแช่น้ำให้นุ่ม 150 กรัม
ผักหวาน 50 กรัม
ไข่ไก่ตีพอแตก 1 ฟอง
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
มะเขือเทศท้อหั่นชิ้น 50 กรัม
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
ซอสเห็ดหอม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช 1ช้อนโต๊ะ
      
วิธีทำ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่กระเทียมลงผัดพอหอม ใส่ไข่และหมูสับ ผัดพอสุก
2. ใส่วุ้นเส้น เติมน้ำเปล่า ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ซอสเห็ดหอม ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง
3. ใส่ผักหวาน มะเขือเทศ ผัดให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
 
บทความแนะนำอื่นๆ
สูตรอาหารน่าสนใจ
แสดงความคิดเห็น

* จำเป็นต้องกรอก

คะแนนสำหรับบทความนี้ *
รายละเอียด *
ยังไม่มีรีวิว
บทความใกล้เคียงดูบทความทั้งหมด  

เมนูพื้นบ้านต้านโควิด-19 กลุ่มที่มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง

สถานการณ์ โควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงวิกฤตสุด ๆ นอกจากต้องระวังรักษาตัวเองแล้ว ยังต้องเยียวยาจิตใจกันเป็นการใหญ่ หลายคนเกิดอาการแพนิคเพราะไม่รู้ว่าตัวเองติดไวรัสหรือยัง จะให้ไปตรวจแต่ละครั้งก็ใช้เงินเยอะเหลือเกิน แม่บ้านอย่างเราจึงอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคน สู้ ๆ กันต่อไป เราคงช่วยอะไรไม่ได้มากนอกจากหาเมนูอร่อย ๆ มาให้แฟนเพจได้นำไปลองทำดู ซึ่งคราวนี้เป็น 30 เมนูพื้นบ้านต้านโควิด-19 ที่จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้ตามที่สมาคมแพทย์แผนไทยได้แนะนำมา โดยนพ.มรุต จิรเศรษฐศิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก แนะนำผักผลไม้สมุนไพร 3 กลุ่ม เพื่อเสริมภูมิต้านทานของร่างกายช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้แก่ กลุ่มเสริมภูมิคุ้มกัน, กลุ่มที่มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง และกลุ่มที่มีสารสำคัญที่มีศักยภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 นอกจากอาหารจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันแล้ว เรายังสามารถป้องกันได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากตัวเองก่อน เช่น การล้างมืออย่างสม่ำเสมอด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอลล์ ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เป็นหวัด มีอาการไอ จาม กินร้อนช้อนตัวเอง งดเดินทางไปประเทศเสี่ยง และรักษาระยะห่างจากคนอื่น ๆ งดการพบปะสังสรรค์และร่วมกิจกรรม หรือเดินทางไปในที่ที่มีคนเยอะ จะช่วยลดการแพร่ระบาด และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้