ช่วงหลายเดือนมานี้ไม่ค่อยได้ออกไปต่างจังหวัดบ่อยนัก ได้แต่เดินซื้อวัตถุดิบหลักในตลาด และสิ่งที่เห็นเป็นประจำก็คือ
“มันเทศ” ที่มีให้เลือกกินหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นมันเทศญี่ปุ่นรสหวานชุ่มลิ้น มันต่อเผือก หรือมันเทศของไทยที่มีเนื้อแน่นเนียนละเอียด สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายทั้งคาวและหวาน
มันเทศมีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Sweet Potato” เป็นพืชหัวใต้ดินเถาเลื้อยราบไปบนพื้นดิน มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางหรืออเมริกาใต้ จัดเป็นไม้ล้มลุกเลื้อยพันมีอายุหลายปี มีความยาวได้ถึง 5 เมตร มีน้ำยางสีขาว ลำต้นทอดเลื้อย มีรากสะสมอาหารมีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก รากมันเทศมีระบบรากเป็นแบบรากฝอย ซึ่งจะเกิดจากข้อของลำต้นที่ปลูก หรือเกิดจากลำต้นที่ทอดเลื้อยไปตามพื้นดิน รากมันเทศจะเป็นที่สะสมอาหาร และสามารถใช้รับประทานได้ เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยระบายน้ำดี และชอบแสงแดดจัด โดยพืชที่อยู่ในวงศ์นี้จะพบได้มากในแถบเส้นศูนย์สูตรและภายใต้แถบเส้นศูนย์สูตร มีเนื้อสีหลายสีตามสายพันธุ์ ใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เช่น เถา ใบ หัว นิยมนำมารับประทานโดย ต้ม หรือ เผา ทำเป็นอาหารคาวหวาน ส่วนผสมของอาหารสำหรับเด็ก และใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ มันเทศเป็นพืชอายุยืน ไม่มีเนื้อไม้ รากแตกตามข้อและมีรากที่ขยายใหญ่เพื่อสะสมอาหาร มีรูปร่าง ขนาด จำนวนและสีของหัวต่างกัน ตั้งแต่สีขาว สีเหลือง สีน้ำตาล สีแดง และสีม่วง
ทั้งยังเป็นพืชที่นิยมรับประทานกันทั่วโลก ด้วยรสหวานอ่อน ๆ บวกกับมีความเป็นแป้งในตัวจึงสามารถนำมาปรุงได้ทั้งอาหารคาวและหวาน ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของมันเทศที่อาจดูไม่น่าสนใจ และไม่ชวนดึงดูดให้น่ารับประทาน เหมือนผักผลไม้อื่นที่มีสีสันสดใส แต่กลับแฝงไปด้วยคุณค่ามหาศาล ที่ช่วยทั้งเรื่องความงามและสุขภาพ เริ่มจากอุดมไปด้วยวิตามิน
B5 และ
B6 ซึ่งมีผลโดยตรงกับการช่วยลดน้ำหนัก มีวิตามิน
A ที่สูงมาก ช่วยในเรื่องของการบำรุงสายตา และการมองเห็นได้เป็นอย่างดี รวมถึงมากไปด้วยวิตามิน
C ที่ช่วยเรื่องของผิวพรรณ สุขภาพฟัน และเนื้อเยื่อ ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีสาร
Antioxident หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอความแก่ มีแร่ธาตุสังกะสี โพแทสเซียม แมงกานีส เป็นสารอาหารที่ป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ช่วยป้องกันโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งได้ ที่สำคัญคือมากไปด้วยเส้นใยอาหารจึงทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
มันแกงบวด
ส่วนผสม
มันเทศปอกเปลือกหั่นชิ้น 400 กรัม
หัวกะทิ ½ ถ้วยตวง
หางกะทิ 3 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 110 กรัม
เกลือป่นหยาบ 1 ช้อนชา
ปูนแดง 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
ใบเตย 4 ใบ
น้ำเปล่าสำหรับล้างมัน
วิธีทำ
1. ใส่ปูนแดงลงในน้ำเปล่า คนให้ละลาย
2. ใส่มันเทศแช่ไว้ประมาณ 15 นาที ล้างให้สะอาด ใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ
3. ต้มหางกะทิพอเดือด ใส่ใบเตย มันเทศ เบาไฟต้มพอมันเทศสุก ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น คนให้ละลาย
4. ใส่หัวกะทิ คนพอเข้ากัน ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
มันต้มขิง
ส่วนผสม
มันเทศปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้น 500 กรัม
น้ำตาลทราย 140 กรัม
ขิงแก่ปอกเปลือกหั่นชิ้น 50 กรัม
น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1. ต้มน้ำเปล่าให้เดือด ใส่มันเทศ เดือดอีกครั้งช้อนฟองออกให้หมด ใส่ขิง ต้มจนมันเริ่มสุก
2. ใส่น้ำตาลทราย คนให้ละลาย เบาไฟ ต้มจนมันสุกทั่วทั้งชิ้น ตักใส่ถ้วย จัดเสิร์ฟ
มันทิพย์
ส่วนผสม
มันเทศปอกเปลือกหั่นชิ้นนึ่งสุก 200 กรัม
มันสำปะหลังปอกเปลือกหั่นชิ้นนึ่งสุก 200 กรัม
น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
เกลือป่นหยาบ ⅛ ช้อนชา
หัวกะทิคั้นข้น ๆ 50 กรัม
ข้าวโพดหวานต้มสุกฝานบาง ๆ ½ ถ้วยตวง
วิธีทำ
1. ผสมหัวกะทิ เกลือป่น น้ำตาลทราย ยกขึ้นตั้งไฟ คนให้ละลาย เบาไฟเคี่ยวจนข้น
2. นำมันเทศและมันสำปะหลังที่นึ่งสุกร้อน ๆ ใส่ภาชนะใช้ทัพพีหรือส้อมบี้จนเนียน ถ้ามีเสี้ยนให่ดึงออกให้หมด
3. ใส่ส่วนผสมกะทิลงในมัน คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝาพักไว้ให้ส่วนผสมอุ่นนวดจนเนียน ใส่ข้าวโพดผสมให้เข้ากัน ปั่นเป็นก้อนกลม นำไปปิ้งไฟอ่อน ๆจนหอมเหลือง จัดเสิร์ฟ
เรื่อง / TONGTA
ภาพ / TONGTA, ธราดล
