เมนูรำลึกถึงพ่อหลวง “ปลานิล CP ทอดน้ำปลา”
รู้มั้ยว่าปลาอะไรคนไทยนิยมกิน… คงหนีไม่พ้น
“ปลานิล” ค่ะ ทำไมคนไทยนิยมกินปลานิลนะเหรอ ก็เพราะมีราคาถูก ซื้อหาง่าย รสชาติอร่อย เนื้อแน่น อีกทั้งยังเอามาทำเมนูได้หลายชนิด ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด นึ่ง และอีกมากมายที่บรรยายไม่หมด
ใครรู้ประวัติของปลานิลบ้าง ถ้าไม่รู้เดี๋ยวติ่งจะเล่าให้ฟัง ปลานิลความจริงแล้วไม่ใช่สายพันธุ์ปลาในบ้านเรานะคะ แต่มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ที่ทวีปแอฟริกา พบทั่วไปตามหนอง บึง และทะเลสาบในประเทศซูดาน, ยูกันดา และทะเลสาบแทนกันยีกา สามารถอยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำกร่อย เรียกว่าเป็นปลาที่มีความอึดพอตัวเลยทีเดียว ส่วนปลานิลตัวแรกที่เข้ามาในประเทศไทยนั้นได้มาจากสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทรงจัดส่งเข้ามาทูลเกล้าถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2508 จำนวน 50 ตัว ซึ่งครั้งนั้นได้โปรดเกล้าฯ ให้ทดลองเลี้ยงปลานิลในบ่อภายในสวนจิตรลดา เป็นหนึ่งในโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา
จากการทดลองเลี้ยงก็พบว่าปลานิลทั้งหมดเจริญเติบโตได้ดีมาก จึงพระราชทานพันธุ์ปลาดังกล่าวให้กับกรมประมงจำนวนหนึ่ง เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2509 เพื่อนำไปขยายพันธุ์และแจกจ่ายแก่พสกนิกร และปล่อยลงตามแหล่งน้ำต่าง ๆ ตามที่เห็นว่าเหมาะสม จนปัจจุบันกลายเป็นปลาที่นิยมมากในประเทศไทย
ส่วนประโยชน์ของปลานิลนะเหรอ ติ่งแอบไปสืบรู้มาว่ามีดีไม่แพ้ปลานอกเลยทีเดียว เริ่มจาก
ช่วยเพิ่มการทำงานของระบบประสาทและสมอง เนื่องจากในปลานิลมีโอเมก้า 3 ช่วยเพิ่มการจดจำของสมอง และป้องกันโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ ข้อต่อมาคือ
มีปริมาณโซเดียมต่ำ ไขมันน้อย จึงเหมาะแก่การนำไปทำเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ทั้งยังเป็นแหล่งโปรตีน ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายได้ด้วย และเมื่อกินเป็นประจำจะช่วยทำให้
ผิวพรรณสดใส เพราะปลานิลมีคอลลาเจนตามธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว แค่ 3 ข้อหลัก ๆ ก็คงพอสำหรับผู้ที่กำลังมองหาโปรตีนชั้นดีราคาไม่แพง
เดือนนี้ติ่งจึงอยากนำเสนอเมนูจาก “ปลานิล” ให้คุณได้ลองไปทำกินกัน เพื่อเป็นการรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผู้ทรงทำให้คนไทยได้รู้จักปลานิล ได้รู้ว่ารสชาติของมันอร่อยแค่ไหน ได้รู้ว่ามีประโยชน์มากมาย ซึ่งหาซื้อได้ง่ายในราคาที่ไม่แพงเลย
“ปลานิลทอดน้ำปลา” เป็นเมนูทำง่าย รสชาติอร่อย โดยครั้งนี้ติ่งเลือกซื้อปลานิล ซีพี ที่ผ่านการเลี้ยงจากฟาร์มมาตรฐาน ซีพีเอฟ ไม่ต้องห่วงเรื่องสารที่เป็นอันตรายตกค้าง เพราะปราศจากการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายตลอดการเลี้ยง ดังนั้นจึงปลอดภัยอย่างแน่นอน หรือถ้าอยากลองนำมาทำเป็นเมนูอื่น ๆ ก็อร่อยไม่แพ้ปลานอก และที่สำคัญคนไทยโชคดีมากที่ได้รู้จักปลานิล แต่สิ่งที่โชคดียิ่งกว่านั้นก็คือเรามีในหลวงรัชกาลที่ ๙ เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง
เรื่อง : พี่คะหนูเป็นติ่ง
ภาพ : Patomchon Singsomboon
ส่วนผสมปลานิล CP ทอดน้ำปลา
ปลานิล CP ขอดเกล็ดผ่าท้องแล่กระดูกออก |
1 ตัว |
มะม่วงเปรี้ยวหั่นเส้น |
30 กรัม |
มะเขือเทศราชินีสีเหลืองหั่นแว่น |
30 กรัม |
องุ่นหั่นชิ้น |
30 กรัม |
สตรอว์เบอร์รีหั่นชิ้น |
30 กรัม |
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ |
30 กรัม |
หอมแดงซอย |
2 ช้อนโต๊ะ |
พริกขี้หนูสีแดงซอย |
1 ช้อนโต๊ะ |
ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน |
1 ช้อนโต๊ะ |
น้ำมะนาว |
1/4 ช้อนโต๊ะ |
น้ำปลา |
3 ช้อนโต๊ะ |
น้ำตาลทราย |
1 1/2 ช้อนโต๊ะ |
แป้งทอดกรอบสำหรับคลุก |
|
น้ำมันพืชสำหรับทอด |
|
ส่วนผสมน้ำปลาปรุงรส
น้ำปลา |
1/4 ถ้วยตวง |
น้ำตาลทราย |
1/3 ถ้วยตวง |
น้ำเปล่า |
1/4 ถ้วยตวง |
วิธีทำ
1. ผสมน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำเปล่า ยกขึ้นตั้งไฟพอเดือดเบาไฟเคี่ยวสักครู่
2. นำ
ปลานิล CP คลุกแป้งทอดกรอบจนทั่ว
3. ใส่ลงทอดในน้ำมันพืชร้อนไฟปานกลางจนสุกเหลืองกรอบ
4. สะบัดให้สะเด็ดน้ำมัน ราดน้ำปลาปรุงรสพอทั่ว
5. ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย คนพอเข้ากัน
6. ใส่มะม่วงเปรี้ยว มะเขือเทศ องุ่น สตรอว์เบอร์รี เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หอมแดง พริกซอย ขึ้นฉ่าย คนพอเข้ากัน ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟพร้อมปลานิลทอดน้ำปลา