3 สูตรเมนูแกงหากินยาก

แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
368,914    168    -3    25 ก.ค. 2559 13:00 น.
แบ่งปัน
สูตรแกงหากินยาก ความอร่อยระดับสิบ ใครมีสูตรอย่างอื่นเอามาเพิ่มได้นะคะ
1.แกงบุ่มไบ่  
อาหารไทยโบราณ แกงเนื้อไก่กับเครื่องเทศหลายชนิดส‹งกลิ่นหอมเข้มข้น คล้าย ๆ กับแกงมัสมั่น แกงกะหรี่ มีที่มาจากชวา แต่นำมาปรับจนเป็นรสชาติแบบไทยมากยิ่งขึ้น ปรับเครื่องปรุงส‹่วนผสมนิดให้เป็นรสที่ถูกปากคนในครอบครัว
 

ส่วนผสม
สะโพกไก่ 500 กรัม
หอมหัวใหญ่หัวเล็ก 4 หัว
แตงร้านฝานไส้ออกหั่นชิ้น 1/2 ลูก
พริกหยวกนำเมล็ดออกหั่นชิ้น 3 เม็ด
มะเขือเทศสีดาผ่‹าครึ่ง 3 ลูก
สับปะรดหั่นชิ้น 100 กรัม
มันฝรั่งหั่นชิ้น 100 กรัม
หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
หางกะทิ 2 ถ้วยตวง
นมสด 1/4 ถ้วยตวง
ผงกะหรี่ 2 ช้อนชา
นํ้ามะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
นํ้าปลา 2 ช้อนโต๊ะ
นํ้าตาลปิ๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.ผสมนมสด กับผงกะหรี่ คนให้เข้ากันใส‹สะโพกไก่ลงหมักพักไว้ 1-2 ชั่วโมง 
2.ใส‹หัวกะทิ ลงในกระทะเคี่ยวให้แตกมัน ใส‹นํ้าพริกแกงลงผัดจนสุกหอม ใส่เนื้อไก‹ ที่เตรียมไว้ ผัดใหŒผิวไก่ตึง
3.เติมหางกะทิเดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วยนํ้ามะขามเปียก นํ้าปลา และนํ้าตาลปิ๊บ
4.ใส่มันฝรั่งพอเริ่มสุกใส่ส‹วนผสมที่เหลือ เคี่ยวต‹อให้รสชาติเข้าเนื้อ ตักเสิรฟ

ส่วนผสมนํ้าพริกแกง
พริกแห้ง 5 เม็ด
หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยปอกเปลือก 1 ช้อนโต๊ะ
ข่าซอย 3 แว่‹น
ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
ขมิ้นผง 1 ช้อนชา
กะปิห่อใบตองเผา 1 ช้อนชา
เกลือป่นหยาบ 1 ช้อนชา
ลูกผักชีคั่วป่น 1 ช้อนชา
ยี่หร‹าคั่วป่น 1/2 ช้อนชา
ลูกจันทน์คั่วป่น 1/2 ช้อนชา
ดอกจันทน์คั่วป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
โขลกส่วนผสมนํ้าพริกรวมกันให้ละเอียด

Cooking Tip : สามารถบีบมะนาวก่อนยกลง เพื่อเพิ่มรสชาติ กลมกล่อมได้ตามใจชอบ
2.แกงรัญจวน 
แกงเนื้อวัวชามร้อนซึ่งเป็นการนำเนื้อวัวที่เหลือจากงานเลี้ยงมาต้มใหม่ ใส่ตะไคร้ ใบโหระพา กระเทียม หอมแดง แล้วตำนํ้าพริกกะปิใส่ลงไป ส่งกลิ่นหอมชวนรับประทาน จนใคร ๆ ต่างถามว่า “แกงนี้ใครทำ… มันช่างหอมรัญจวน” จึงเป็นที่มาของชื่อแกงรัญจวน ต้องรับประทานในขณะที่ยังร้อน โดยค่อย ๆ ละเลียดชิมรส ไม่เช่นนั้นอาจจะสำลักกลิ่นสมุนไพรทั้งหลายได้
 
ส่วนผสม
เนื้อน่องลายหั่นชิ้นบาง ๆ 500 กรัม
หอมแดงซอย 1/4 ถ้วยตวง
กระเทียมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 1/4 ถ้วยตวง
ใบโหระพา 1 ถ้วยตวง
นํ้าปลา 2 ช้อนชา
นํ้าตาลปิ๊บ 1 ช้อนชา
เกลือป่นหยาบ 1 1/2 ช้อนชา
นํ้ามะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
นํ้าเปล่า 2 ถ้วยตวง
พริกขี้หนูเด็ดก้านออก 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.นำนํ้าเปล่าใส่หม้อ ใส่นํ้าพริกกะปิ คนให้ละลาย ยกขึ้นตั้งไฟ พอเดือด
2.ปรุงรสด้วย นํ้าปลา นํ้าตาลปิ๊บ และเกลือป่น เดือดอีกครั้ง ใส่เนื้อน่องลาย ต้มแค่พอเนื้อสุกถ้าต้มนานเนื้อจะเหนียว ใส่หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ และใบโหระพา พอสุกทั่ว ใส่นํ้ามะนาวกับพริกขี้หนู ตักใส่ภาชนะ จัดเสิรฟร้อน ๆ

ส่วนผสมนํ้าพริกกะปิ
กะปิห่อใบตองเผา 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยปอกเปลือก 10 กลีบ
พริกขี้หนูสวน 20 เม็ด
มะเขือพวง 10 เม็ด
มะอึกขูดขนออกซอยบาง ๆ 2 ช้อนโต๊ะ
นํ้ามะนาว 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
นํ้าตาลปิ๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.โขลกกะปิ กับกระเทียม ให้ละเอียด ใส่พริกขี้หนู โขลกพอหยาบ ใส่มะเขือพวงโขลกพอแตก
2.ปรุงรสด้วย นํ้ามะนาว นํ้าตาลปิ๊บ ใส่มะอึก คลุกเคล้าพอเขŒากัน ตักใส่‹ถ้วยเตรียมไว้
3.แกงปลาย่างใบตำลึง 
รสกลมกล่อม เรียกน้ำลายสอ ได้จากใครหลายๆ 
 
ส่วนผสม
ปลาดุกย่างแกะเอาแต่เนื้อ 150 กรัม
ใบตำลึงเด็ดใบอ่อน 150 กรัม
หัวกะทิ 1 1/2 ถ้วยตวง
หางกะทิ 1/2 ถ้วยตวง
น้ำปลา 2 ช้อนชา
พริกชี้ฟ้าสีแดงซอยตามยาว 1 เม็ด
น้ำตาลปี๊บเล็กน้อย  

ส่วนผสมน้ำพริกแกง
พริกแห้งเม็ดใหญ่ 7 เม็ด
หอมแดง 3 หัว
กระเทียมกลีบเล็ก 15 กลีบ
ข่าหั่นฝอย 1 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
กระชาย 1 ถ้วยตวง
ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
กะปิ 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสมน้ำพริกแกงให้ละเอียด
2. ผัดน้ำพริกแกงกับหัวกะทิให้สุกหอม เติมหางกะทิ ใส่ปลาดุกย่าง
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ เคี่ยวไฟอ่อน พอรสกลมกล่อม ใส่ใบตำลึงพอสุก ตักใส่ภาชนะ โรยด้วยพริกชี้ฟ้า จัดเสิร์ฟร้อน ๆ 
บทความแนะนำอื่นๆ
สูตรอาหารน่าสนใจ
แสดงความคิดเห็น

* จำเป็นต้องกรอก

คะแนนสำหรับบทความนี้ *
รายละเอียด *
ยังไม่มีรีวิว
บทความใกล้เคียงดูบทความทั้งหมด  

19 เมนูโมเดิร์นทวิสต์ จากผลิตภัณฑ์มันฝรั่งแช่แข็ง

มากไปกว่าความฟิวชันก็คงเป็น “โมเดิร์นทวิสต์” ที่นับว่าเป็นกระแสมาแรงแบบฉุดไม่อยู่สำหรับยุคนี้ โมเดิร์นทวิสต์ ไอเดียการผสมผสานอาหารหลายสัญชาติ อย่างพิถีพิถันในความลงตัวทั้งในเรื่องของรสชาติและการจัดแต่งหน้าจาน เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของอาหารโดยใช้ศิลปะบนจานอาหาร เพิ่มความทันสมัยและแปลกใหม่กว่าเดิม อาจจัดเป็นคำเล็ก ๆ และเน้นการแต่งจานที่หลากหลาย หรืออาจจัดขนาดใหญ่แต่มีความพอเหมาะในแบบของตัวเอง ดังนั้นโมเดิร์นทวิสต์จึงเป็นอาหารที่หลากหลาย แต่คงคอนเซ็ปต์รสชาติดั้งเดิมได้อย่างลงตัวนั่นเอง