ทรงชี้แนวทางการดำเนินชีวิตให้แก่ปวงชนชาวไทยมาเป็นระยะเวลานาน เพื่อมุ่งให้พสกนิกรได้ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างยั่งยืน มั่นคง และปลอดภัย ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามกระแสโลกาภิวัฒน์ อีกทั้งพระองค์ยังได้ทรงพระราชทานความหมายของ เศรษฐกิจพอเพียง เอาไว้เป็นภาษาอังกฤษว่า Sufficiency Economy ดังพระราชดำรัสที่ได้ทรงตรัสไว้เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2554 การพัฒนาตามหลักแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง คือการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจและการกระทำ
เราเคยได้ฟังเรื่องเล่าต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับความเรียบง่ายของ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้ดินสอที่ต้องใช้จนกระทั่งกุดแล้วจึงเบิกใช้ใหม่ นอกจากนั้นคงเป็นเรื่องของ
ก่อนอื่นทีมงานนิตยสารแม่บ้านขอออกตัวก่อนว่าสูตรของเมนูอาหารทรงเสวยทั้ง 9 รายการนี้ไม่ได้มาจากต้นตำรับที่แท้จริง แต่เป็นคำบอกเล่าจากหนังสือหลายฉบับ อาทิ ใกล้เบื้องพระยุคลบาท กับลัดดาซุบซิบ, ตำนานอาหารสามแผ่นดิน ฯลฯ ดังนั้นสูตรที่ให้จึงเป็นสูตรกลาง ๆ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้ รวมถึงเพื่อให้ประชาชนคนไทยได้รู้จักกับ
สปาเกตตีมิลานเนส
ส่วนผสม
เส้นสปเกตตีต้มสุก 150 กรัม
อกไก่อกหนัง 150 กรัม
มะเขือเทศกระป๋องหั่นชิ้นเล็ก 100 กรัม
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
ใบสวีทเบซิลสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
ใบสวีทเบซิลสำหรับโรย
ไข่ไก่ตีพอแตกสำหรับชุบ
แป้งสาลีอเนกประสงค์สำหรับคลุก
เกล็ดขนมปังสำหรับคลุก
น้ำมันพืชสำหรับทอด
พาร์มีซานชีสขูดสำหรับโรย
เกลือป่นละเอียด
พริกไทยดำบดหยาบสำหรับโรย
วิธีทำ
1. ใช้ค้อนทุบอกไก่เบา ๆ ให้มีความหนาประมาณ 5 มิลลิเมตร แล้วโรยเกลือป่น และพริกไทยดำบด พอทั่ว จากนั้นนำลงคลุกแป้งสาลี ชุปไข่ไก่ และคลุกเกล็ดขนมปังจนทั่ว
2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน นำอกไก่ลงทอดจนสุกเหลือง นำขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นชิ้นเตรียมไว้
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอกพอร้อน ใส่กระเทียมและใบสวีทเบซิลงผัดพอมีกลิ่น
4. ใส่มะเขือเทศและเส้นสปาเกตตีผัดเจนเข้ากันดี ตักใส่จานโรยพาร์มีซานชีส ใบสวีทเบซิล วางไก่ทอด จัดเสิร์ฟ
แกงจืดเซี่ยงจี้
ส่วนผสม
เซี่ยงจี้ (ไตหมู) 1 ลูก
ตับหมูหั่นชิ้น 50 กรัม
เนื้อหมูสันนอกหั่นชิ้น 100 กรัม
ปลาหมึกตัวเล็กบั้งหั่นชิ้น 150 กรัม
หอมหัวใหญ่ (หัวเล็ก) 200 กรัม
โคนต้นหอมบั้งหัวท้ายแช่น้ำเย็นจัด 20 ต้น
กระดูกหมู (เอียเล้ง) 500 กรัม
น้ำเปล่า 8 ถ้วยตวง
เกลือป่นหยาบ 1 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
กระเทียมเจียวสำหรับโรย
พริกไทยป่นสำหรับโรย
ผักชีสำหรับตกแต่ง
น้ำส้มพริกดอง
เกลือป่นหยาบสำหรับล้างเซี่ยงจี้
น้ำเปล่าสำหรับลวก
น้ำเย็นจัด
วิธีทำ
1. ต้มน้ำเปล่าพอร้อน ใส่กระดูกหมู เกลือป่น ลงต้มด้วยไฟอ่อน พอเดือดค่อย ๆ ช้อนฟองทิ้งจนหมด เคี่ยวต่อจนน้ำซุปใส เหลือประมาณ 4 1/2 ถ้วยตวง ยกลงกรองเอาแต่น้ำซุป
2. ผ่าเซี่ยงจี้ออกเป็น 2 ซีก แล่ส่วนสีขาวออกให้หมด โรยเกลือป่นให้ทั่ว เคล้าให้เข้ากัน ล้างน้ำเปล่าให้สะอาด แล้วบั้งให้สวยงามหั่นเป็นชิ้นเตรียมไว้
3. นำเนื้อหมู ปลาหมึก และตับหมูลงลวกในน้ำเดือดตามลำดับ พอสุกตักขึ้นแช่ลงในน้ำเย็นจัด ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
4. นำเซี่ยงจี้ลงลวกต่อพอสุกตักขึ้น แช่ลงในน้ำเย็นที่ใส่น้ำส้มสายชูเล็กน้อย เพื่อให้เซียงจี้กรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ ใส่ชามเตรียมไว้
5. ต้มน้ำซุปหมูในข้อที่ 1 พอร้อน ใส่หอมหัวใหญ่ลงต้มพอเดือด ใส่เนื้อหมู ตับหมู ปลาหมึก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว พอเดือดอีกครั้ง
6. ใส่โคนต้นหอม ยกลง ตักราดลงในเซี่ยงจี้ที่ใส่ชามไว้ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว พริกไทยป่น ตกแต่งด้วยผักชี จัดเสิร์ฟพร้อมน้ำส้มพริกดอง
ผัดเล่าปี่
ส่วนผสม
เซี่ยงจี้ (ไตหมู) หั่นชิ้น 200 กรัม
ตับหมูหั่นชิ้น 200 กรัม
กระเทียมบุบพอแตก 5 กลีบ
ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 4 1/2 ช้อนชา
น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
พริกป่นละเอียด 1/4 ช้อนชา
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด (ละลายกับน้ำเปล่าเล็กน้อย) 1 1/2 ช้อนชา
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
ผักชีสำหรับโรย
เส้นหมี่ขาวทอดกรอบ
* เซียงจี้ต้องแล่ส่วนสีขาวออกให้หมดแล้วเคล้ากับเกลือป่น ล้างให้สะอาดก่อนนำไปปรุงอาหาร
วิธีทำ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่กระเทียมลงเจียวพอมีกลิ่นหอม
2. ใส่เซี่ยงจี้ ตับหมู เปิดไฟแรง ๆ ผัดเร็ว ๆ จนสุก
3. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และพริกป่น เติมน้ำเปล่า ผัดพอเข้ากัน
4. เติมแป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำเปล่า คนให้เข้ากันและแป้งสุกมีลักษณะข้นเล็กน้อย ตักใส่ภาชนะ โรยผักชี จัดเสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่ทอดกรอบ
ผัดถั่วงอก
ส่วนผสม
หมูสับ 50 กรัม
กุ้งสด (ปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก) 4 ตัว
เต้าหู้ขาวหั่นชิ้น 100 กรัม
ถั่วงอกเด็ดหางล้างให้สะอาด 150 กรัม
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
ต้นหอมหั่นท่อน 2 ต้น
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน นำเต้าหู้ขาวลงทอดพอเหลืองทั้ง 2 ด้าน ตักขึ้นพัก
2. ใส่กระเทียมลงผัดต่อพอเหลือง ใส่หมูสับ ตามด้วยกุ้งสดผัดต่อพอสุก
3. เร่งไฟแรง ใส่ถั่วงอก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ผัดเร็ว ๆ พอเข้ากันใส่ต้นหอม ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
ซุปอาสาเรน
ส่วนผสม
ไข่ไก่ตีพอแตก 2 ฟอง
น้ำซุปไก่ 3 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
แป้งมันฮ่องกง ผสมน้ำเปล่าเล็กน้อย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 1/4 ช้อนชา
พริกไทยสำหรับโรยหน้า
ต้นหอมซอยสำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
1.ต้มน้ำซุปไก่พอเดือด ค่อย ๆ เทไข่ไก่ใส่ให้เป็นเส้น คนตลอดพอไข่สุก
2. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เกลือป่น ใส่น้ำมันงา คนให้เข้ากัน
3. ใส่แป้งมันฮ่องกง คนเร็ว ๆ พอแป้งสุก ตักใส่ภาชนะ โรยต้นหอม พริกไทยป่น จัดเสิร์ฟ
ผัดถั่วลันเตา
ส่วนผสม
ถั่วลันเตา 150 กรัม
เนื้อหมูสันคอหั่นชิ้น 80 กรัม
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
ซอสเห็ดหอม 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ลอกเยื่อถั่วลันเตา ตัดหัวท้ายให้สวยงาม ล้างให้สะอาดพักไว้
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่กระเทียมลงผัดพอหอม
3. ใส่เนื้อหมู ผัดพอสุก ใส่ถั่วลันเตา ผัดพอเข้ากัน
4. ปรุงรสด้วยซอสเห็ดหอม น้ำตาลทราย ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว เติมน้ำเปล่า ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
ไชโป๊ผัดไข่
ส่วนผสม
หัวไชโป๊หวานหั่นเส้น 150 กรัม
น้ำปลา 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
ไข่ไก่ 1 ฟอง
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่กระเทียมและหอมแดงลงผัดพอหอม ใส่หัวไชโป๊ลงผัดพอเข้ากัน
2. เขี่ยหัวไชโป๊ไว้ข้างกระทะ ใส่ไข่ไก่ลงผัดพอเริ่มสุกเขี่ยหัวไชโป๊ลงมาผัดพอเข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทรายผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
กล้วยหักมุกเชื่อม
ส่วนผสม
กล้วยหักมุกห่าม 10 ลูก
น้ำตาลทราย 500 กรัม
น้ำเปล่า 500 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
ใบเตย 2-3 ใบ
น้ำเปล่าสำหรับเติม
วิธีทำ
1. ใส่น้ำตาลทรายและน้ำเปล่าลงในกระทะทองคนให้เข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟ พอเดือดเบาไฟ ใส่ใบเตย น้ำมะนาว เคี่ยวจนน้ำเชื่อมมีลักษณะเป็นยางมะตูมอ่อน ๆ
2. ปอกเปลือกกล้วยหักมุก หั่นเป็น 4 ชิ้น ใส่ลงในน้ำเชื่อม หมั่นกลับชิ้นกล้วยไปมาจนน้ำเชื่อมซึมเข้ากล้วย มีลักษณะเป็นเงาใส (ขณะเคี่ยวค่อย ๆ เติมน้ำเปล่าเพื่อไม่ให้น้ำเชื่อมข้นเกินไป) ตักขึ้นวางบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำเชื่อม
3. จัดกล้วยใส่ภาชนะ ราดกระทิ จัดเสิร์ฟ
ไอศกรีมรสสตรอว์เบอร์รี
ส่วนผสม
นมสด 300 กรัม
วิปปิ้งครีม 700 กรัม
สตรอว์เบอร์รีสดบดละเอียด 500 กรัม
น้ำตาลทราย 350 กรัม
กลูโคส (แบะแซ) 40 กรัม
ผงไอศกรีม 1 ช้อนโต๊ะ
สีผสมอาหารสีชมพู
กลิ่นสตรอว์เบอร์รี
วิธีทำ
1. ผสมนมสด กลูโคส ยกขึ้นตั้งไฟพอส่วนผสมละลายเข้ากัน ยกลงใส่ผงไอศกรีม พักไว้ให้เย็น
2. ตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลทรายให้ขึ้นฟู ใส่ส่วนผสมในข้อที่ 1 ตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่กล่องปิดฝา
3. นำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือให้ส่วนผสมเย็นจัด
4. นำส่วนผสมไอศกรีมออกจากตู้เย็น ใส่สีผสมอาหาร กลิ่นสตรอว์เบอร์รี และเนื้อสตรอว์เบอร์รี เทใส่ถังไอศกรีมปั่นจนไอศกรีมแข็งตัว ตักใส่ภาชนะ นำเข้าตู้แช่แข็งให้ส่วนผสมแข็งตัวยิ่งขึ้นก่อนนำออกเสิร์ฟ