เมนูเรียกน้ำลายจาก “ยอดอ่อนมะขามเปรี้ยว”

แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
4,355    5    -4    29 ต.ค. 2562 15:00 น.
แบ่งปัน

       ครั้งนี้ขอพูดถึงยอดอ่อนสุดฮิตของคนไทย “ยอดอ่อนมะขามเปรี้ยว” ที่สามารถนำมาทำอาหารได้หลายชนิด ซึ่งหลายคนมองว่าการหายอดอ่อนมะขามเปรี้ยวรับประทานทั้งปีนั้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากมะขามพันธุ์พื้นเมืองทั่วไปจะแตกยอดอ่อนเพียงปีละครั้งในช่วงฤดูฝนเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีลำต้นสูงใหญ่ เก็บยอดได้ยากจึงไม่มีใครปลูกต้นมะขามเพื่อเก็บยอดอ่อนขายเป็นอาชีพกันจริงจัง แต่สำหรับที่ “ไร่วิวัชจรัลวงศ์” นั้นสามารถทำให้ยอดอ่อนมะขามเปรี้ยวมีจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี โดย คุณชุมพล วิวัชจรัลวงศ์ (เจ้าของ) คอนเฟิร์มว่า “ที่นี่คือสวนปลูกต้นมะขามเพื่อเก็บยอดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก” 

ที่ไร่วิวัชจรัลวงศ์ปลูกเพียงแค่มะขามอย่างเดียว “ใช่ครับ แต่มะขามของเราไม่ใช่พันธุ์พื้นเมืองทั่วไป แต่เป็น มะขามเปรี้ยวยักษ์ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในกาฬทวีป โตเร็ว แตกยอดไว ยอดอ่อนมีขนาดใหญ่กว่ามะขามพื้นบ้าน อีกทั้งยังหน้าตาดีกว่า ที่สำคัญรสชาติอร่อยมีทั้งรสเปรี้ยวแบบมะขามพื้นเมือง แต่เพิ่มความหวาน มัน และกรุบกรอบของใบล่างสุดในยอดอ่อนเข้าไปด้วย” คุณชุมพลยังบอกต่ออีกว่า ยอดมะขามเปรี้ยวยักษ์นี้มีจุดเด่นที่โตเร็วกว่ายอดมะขามพื้นบ้านถึง 200 เท่า อีกทั้งยังมีสีชมพูสวยงาม และยังให้น้ำหนักดี ยอดมะขามเปรี้ยวยักษ์ขนาดที่ยาวที่สุดอยู่ที่ 3–4 นิ้ว ต่างจากยอดมะขามพันธุ์พื้นบ้านที่ยาวเพียง 1–1.5 นิ้วเท่านั้น ที่สำคัญคือให้ผลผลิตได้ค่อนข้างรวดเร็ว เพียง 6 เดือนก็เริ่มเก็บผลผลิตได้แล้ว หลังจากนั้นยังสามารถเก็บยอดอ่อนขายได้ทุกวัน
 

เราทราบกันดียู่แล้วว่ามะขามเป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดในทวีฟแอฟริกา และมีการนำเข้ามาปลูกในแถบเอเชีย ส่วนในประเทศไทยนั้นสามารถปลูกได้ทั่วประเทศ แต่ที่มากสุดเห็นจะเป็นจังหวัดเพชรบูรณ์ จนกลายเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดกันเลยทีเดียว นอกจากนั้นในตำราพรหมชาติยังถือว่ามะขามเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง ช่วยป้องกันสิ่งเลวร้าย ผีร้ายต่าง ๆ ไม่ให้มากล้ำกราย อีกทั้งยังเป็นต้นไม้ที่มีชื่อมงคล ถือกันเป็นเคล็ดทำให้มีคนเกรงขาม สำหรับประโยชน์ของมะขามและสรรพคุณนั้นมีมากมาย รวมถึงใช้เป็นยารักษาโรคได้ด้วย โดยส่วนที่นำมาใช้เป็นยาจะเป็นเนื้อฝักแก่ (มะขามเปียก) เปลือกของลำต้น (ทั้งสดและแห้ง) และเนื้อในเมล็ด สามารถช่วยรักษาได้หลายโรค เช่น เป็นยาขับเสมหะ แก้อาการท้องเดิน บรรเทาอาการท้องผูก ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ เป็นต้น
 

นอกจากเราจะรับประทานฝักมะขามกันแล้ว ในส่วนของยอดและใบอ่อนเราก็รับประทานได้เช่นกัน ยอดมะขามจะมีสีชมพูปนเขียว กลิ่นหอม และรสเปรี้ยว จึงสามารถใช้แทนรสเปรี้ยวในอาหารได้ดี อาทิ ต้มโคล้ง แกงส้ม ต้มข่าไก่ หรือยำ โดยเมื่อเทียบกับฝักอ่อนในปริมาณ 100 กรัมเท่ากัน ใบอ่อนมะขามจะมีเส้นใยอาหาร แคลเซียม และธาตุเหล็กน้อยกว่าแต่จะมีวิตามิน C และฟอสฟอรัสสูงกว่า คือ 53 มิลลิกรัม และ 38 มิลลิกรัม ตามลำดับ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้สามารถช่วยแก้หวัด ขับเสมหะ แก้ไอได้ดี รวมถึงเป็นยาระบาย แก้ท้องผูก ช่วยขับลมในลำไส้ แก้บิด ช่วยสร้างเม็ดเลือด ช่วยบำรุงสายตา ช่วยรักษาตามัว ช่วยรักษาตาอักเสบ ช่วยฟอกโลหิต ช่วยขับเหงื่อ ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยชะลอความชรา และบำรุงผิวพรรณ

ครั้งนี้เราหอบหิ้วยอดอ่อนมะขามเปรี้ยวกลับมาด้วยกระบุงใหญ่ โดยคุณชุมพลแนะนำว่า “ให้เอายอดมะขามห่อด้วยหนังสือพิมพ์ จากนั้นนำเข้าตู้เย็น สามารถเก็บไว้ได้นาน 3-4 วัน แต่ถ้าให้ดีนำมาทำอาหารเลยจะอร่อยมากกว่า” ซึ่งแน่นอนว่ากลับถึงบ้านปุ๊บเราก็คิดเมนูเด็ด ๆ ได้ทันที และไม่รอช้าที่จะจัดเสิร์ฟให้คุณผู้อ่านได้ทราบกัน
 

ที่ตั้ง : 49 หมู่ 6 ตำบลทัพหลวง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม 73000
โทร. 08-1297-1250, 0-3420-9351
 

พล่าเนื้อย่างยอดอ่อนมะขามยักษ์
 

ส่วนผสม
ยอดอ่อนมะขามยักษ์ 30 กรัม
ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนชา
หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น 2 ช้อนชา
ใบสะระแหน่สำหรับโรย
 
ส่วนผสมเนื้อย่าง
เนื้อวัวสันนอก 150 กรัม
น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นหยาบ 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
น้ำเย็นจัด 2 ช้อนโต๊ะ
 
วิธีทำ
1. ผสมส่วนผสมเนื้อย่างทั้งหมด คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ 30 นาที
2. นำกระทะเทฟลอนขึ้นตั้งไฟพอร้อน นำเนื้อวัวที่หมักไว้ลงย่างพอสุก ตักขึ้น หั่นชิ้นเตรียมไว้
3. ผสมน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว พริกป่น คนให้เข้ากัน ใส่เนื้อย่าง ยอดอ่อน มะขามยักษ์ ใบมะกรูด หอมแดง คลุกเคล้าให้เข้ากัน
4. ตักใส่ภาชนะ โรยใบสะระแหน่ จัดเสิร์ฟ
 

ซุปไก่
 

ส่วนผสม
น่องไก่ติดสะโพก 600 กรัม
ยอดอ่อนมะขามยักษ์ 50 กรัม
หอมแดงทุบพอแตก 5 หัว
รากผักชีทุบพอแตก 3 ราก
พริกไทยเม็ดบุบพอแตก 1 ช้อนชา
ใบกระวาน 2 ใบ
ขิงแก่หั่นชิ้นบาง 3 แว่น
ลูกกระวาน 5 ลูก
มันฝรั่งหั่นชิ้น 1 หัว
หอมหัวใหญ่ขนาดเล็กหั่นชิ้น 4 หัว
มะเขือเทศ 2 ลูก
เกลือป่นหยาบ 2 ช้อนชา
ขึ้นฉ่ายหั่นท่อนยาว 1 นิ้ว 2 ต้น
น้ำเปล่า 8 ถ้วยตวง
พริกขี้หนูสวนบุบตามชอบ
น้ำมะนาวตามชอบ
หอมแดงเจียว
 
วิธีทำ
1. ใส่น่องไก่ เกลือป่นและน้ำเปล่าลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ พอเดือดช้อนฟองออกให้หมด
2. ใส่ขิง ใบกระวาน ลูกกระวาน หอมแดง รากผักชี พริกไทย เบาไฟเคี่ยวจนไก่สุก ใส่มันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ เคี่ยวต่อจนสุก ใส่มะเขือเทศ เคี่ยวต่อสักครู่
3. ใส่ยอดอ่อนมะขามยักษ์ คนให้เข้ากัน ยกลง ใส่น้ำมะนาว พริกขี้หนูสวน โรยขึ้นฉ่าย หอมแดงเจียว จัดเสิร์ฟ
 

ข้าวยำซ้อมมือใส่ยอดอ่อนมะขามยักษ์
 

ส่วนผสม
ข้าวซ้อมมือหุงสุก 1 1/4 ถ้วยตวง
ยอดอ่อนมะขามยักษ์ 30 กรัม
งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวขูดขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้งป่น 2 ช้อนโต๊ะ
มะนาวหั่นชิ้น 1 ชิ้น
หอมแดงซอยบาง ๆ 2 ช้อนโต๊ะ
ใบชะพลูซอย 3 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอยบาง ๆ 2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วพูซอย 3 ช้อนโต๊ะ
ถั่วฝักยาวซอย 2 ช้อนโต๊ะ
มะม่วงเปรี้ยวซอย 3 ช้อนโต๊ะ
แคร์รอตซอย 3 ช้อนโต๊ะ
พริกสดสีแดง 2 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
 
วิธีทำ
               จัดข้าวซ้อมมือ ยอดอ่อนมะขามยักษ์ และส่วนผสมที่เหลือใส่จาน เสิร์ฟพร้อมน้ำกะปิทรงเครื่อง
 
ส่วนผสมน้ำกะปิทรงเครื่อง
กะปิอย่างดี 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมทุบพอแตก 2 ช้อนชา
ตะไคร้ทุบพอแตก 1 ต้น
ข่าหั่นแว่น 1 แว่น
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะกรูด 2 ช้อนโต๊ะ
 
วิธีทำ
- ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อ (ยกเว้นน้ำมะกรูด) ยกขึ้นตั้งไฟพอเดือด เบาไฟ เคี่ยวประมาณ 15 นาที ยกลงกรอง พักให้เย็น เติมน้ำมะกรูดคนให้เข้ากัน

 


เรื่อง / TONGTA
ภาพ / TONGTA, ชุลีภรณ์
บทความแนะนำอื่นๆ
สูตรอาหารน่าสนใจ
แสดงความคิดเห็น

* จำเป็นต้องกรอก

คะแนนสำหรับบทความนี้ *
รายละเอียด *
ยังไม่มีรีวิว
บทความใกล้เคียงดูบทความทั้งหมด  

11 เมนูโกอินเตอร์จากผลิตภัณฑ์มันฝรั่งแช่แข็ง รสชาติอร่อยแบบออริจินัลจากหลายสัญชาติ

อาหารต้นตำรับ เป็นอาหารที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชนชาตินั้น ๆ ได้ดีที่สุด ทั้งลักษณะความเป็นอยู่ ความเจริญ ภูมิประเทศ อากาศ ซึ่งแต่ละประเทศนั้นมีความโดดเด่นต่างกันออกไป เราจะเห็นได้ว่าประวัติศาสตร์บางอย่างก็เกิดขึ้นจากเมนูอาหารของชาตินั้น ๆ ส่วนการนำอาหารออริจินัลมาดัดแปลงนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เนื่องจากวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปทำให้อาหารถูกปรับเปลี่ยนไปได้เช่นกัน การรับประทานอาหารให้อร่อยจึงขึ้นอยู่กับการดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยนั่นเอง