ถ้าคุณเป็นคนที่รักการทำอาหาร เราเชื่อว่าคุณเป็นคนที่รักจานอาหารสวย ๆ ด้วยเช่นกัน เหมือนกับเราที่มักมีจานสวย ๆ เอาไว้ใส่อาหารอวดเพื่อนเสมอในวันว่างที่ร่วมสังสรรค์กัน เราเป็นคนไม่ชอบซื้อจานแบบเป็นชุด แต่จะซื้อแยกเฉพาะใบตามชอบ โดยเลือกให้ไปในโทนเดียวกัน เวลานำมาใช้งานจึงดูหลากหลายแต่ไม่หลุดธีม ดังนั้นการมองหาร้านขายจานจึงเป็นงานอดิเรกที่ช่วยทำให้ใจฟูขึ้นได้ในวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน

ซึ่งงานอดิเรกของเราดันไปตรงกับงานอดิเรกของสองสาวเพื่อนรัก คุณกอฝ้าย-อรอนงค์ หนุนภักดี และคุณจูน-ชลภัสสรณ์ วชิระบำรุงเกียรติ เจ้าของผลงานเซรามิกภายใต้แบรนด์ Life Forest ที่เตะตาเราตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น วันเสาร์ยามเช้าเราจึงมีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับคุณกอฝ้ายในบ้านหลังกระทัดรัด ซึ่งเป็นแหล่งผลิตผลงานไว้อวดโฉมในโลกออนไลน์ สิ่งที่เห็นตั้งแต่แรกคือกระถางใบย่อมใส่ต้นไม้เล็กใหญ่ ทุกใบมีโทนสีไปในทิศทางเดียวกันจนทำให้เราอดถามไม่ได้ “เราเริ่มงานเซรามิกครั้งแรกจากกระถางต้นไม้ค่ะ เป็นกระถางเล็ก ๆ ใส่กระบองเพชร ตอนนั้นที่บ้านมีขายต้นไม้อยู่แล้วด้วย เลยลองทำดู ส่วนโทนสีที่เลือกแบบนี้เพราะเห็นว่ามันดูเข้าได้กับทุกสมัย มองยังไงก็ไม่เบื่อ และสามารถเข้ากันได้กับทุกวัย โดยใช้ดินส่วนหนึ่งจากแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดเท็กซ์เจอร์ในงานที่สวยงาม ผสมผสานกับการใช้เทคนิคเผาดิน ช่วยทำให้สีที่ได้ไม่สม่ำเสมอต่างจากที่อื่น”
 
จากงานอดิเรกปรับมาเป็นงานประจำ “ฝ้ายชอบที่งานเซรามิกสามารถทำให้ดินธรรมดา ๆ กลายเป็นดาวได้ ด้วยการใส่ไอเดีย และกระบวนการต่าง ๆ จนกลายเป็นสิ่งที่มีค่าขึ้นมา ตอนแรกก็ยังทำงานไปด้วยและก็ทำงานเซรามิกไปด้วย ทีนี้รู้สึกว่าอยากจะลุยกับมันให้เต็มที่ ก็เลยลาออกจากงาน และมาสร้างแบรนด์ Life Forest โดยใช้ทุนอันน้อยนิด  (หัวเราะ) แล้วก็รับงานออร์เดอร์อื่น ๆ ด้วย เพื่อนำเงินมาต่อยอดทำแบรนด์ของตนเอง สักพักก็เลยเริ่มงานที่เป็นจานขึ้นมาบ้าง โดยเลือกโทนสีแบบเดิม สไตล์วินเทจหน่อยและเพิ่มลายเส้นลงไป ซึ่งลายเส้นจะเป็นหน้าที่ของจูนค่ะ”
   

ลายเส้นของ Life Forest แตกต่าง ไม่เหมือนใคร “มันเริ่มจากเราสองคนชอบเดินป่า ชอบต้นไม้ ชอบสัตว์ เวลาไปเดินป่ากันจูนเขาจะวาดลายเส้นเก็บเอาไว้ในสมุดไดอารี่ เลยคิดว่าถ้าเปลี่ยนจากการบันทึกลงสมุด มาบันทึกลงบนจานจะดีกว่ามั้ย เหมือนกับเราได้ถ่ายทอดเรื่องราวสู่ผู้อื่นด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเพนท์ภาพสัตว์ป่า เช่น ผีเสื้อ นกฮูก สุนัขจิ้งจอก กวาง ต้นไม้ ดอกไม้ เมื่อทุกอย่างมารวมกันมันจึงกลายเป็นผืนป่าขนาดย่อมที่อยู่บนจานของเรา นอกจากนั้นเราก็รับ Made to Order ด้วย ลูกค้าสามารถใส่อย่างอื่นเพิ่มลงบนจานได้ อย่างพวกโลโก้ หรือชื่อร้าน รวมถึงลายก็เลือกได้ว่าต้องการแบบไหนบ้าง แต่ต้องให้เวลาในการทำด้วย เพราะขั้นตอนการทำเซรามิกต้องใช้เวลาและความใส่ใจ เราไม่สามารถลัดขั้นตอนได้เลย ไม่อย่างนั้นจะเกิดความเสียหาย”
   
ขั้นตอนการทำซับซ้อนไม่เหมือนใคร “อันนี้เราไม่แน่ใจนะว่าการทำต่างจากที่อื่นหรือเปล่า แต่ส่วนใหญ่การเผาเซรามิกมักจะทำด้วยเตาไฟฟ้า แต่ของเราจะใช้เตาแก๊ส เพื่อให้ชิ้นงานที่ออกมาไม่เหมือนกัน ซึ่งก็ต้องคอยเฝ้าตลอดเวลา ต้องปรับอุณหภูมิทุกชั่วโมง และต้องเผา 3 รอบ รอบแรกจะเป็นจากดินปั้นเผาที่ อุณหภูมิ 800 องศาเซลเซียส จากนั้นเอาไปจุ่มเคลือบแล้วเผาอีกรอบที่ อุณหภูมิ 1,250 องศาเซลเซียส และหลังจากที่เพ้นท์ลายลงไปแล้วเผาอีกรอบที่ อุณหภูมิ 800 องศาเซลเซียส กระบวนการจะยุ่งยากมาก แต่งานที่ออกมาก็คุ้มค่าอย่างที่ตั้งใจไว้” 

สิ่งที่เราชื่นชมไม่ใช่แค่ความสวยบนจานของ Life Forest แต่เรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาทำให้เรารู้ว่าสองสาวนี้ตั้งใจกับงานแต่ละชิ้นมากเพียงใด รวมถึงสิ่งที่คุณฝ้ายบอกกับเราว่า “ทุกวันนี้เทคโนโลยีช่วยให้เราสะดวกขึ้น ทุกอย่างทำออกมาสำเร็จรูป ในขณะเดียวกันก็สร้างขยะให้กับโลกด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะพลาสติก ฝ้ายตั้งใจทำเซรามิกเพราะว่ามันปลอดภัยต่อการใช้งาน คนที่นำไปใช้จะได้สัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น สามารถนำกลับมาใช้ได้ตลอดเวลาและตลอดไป”
 
FB : Lifeforest
IG : life.forest
Tel : 09-9186-9994


เรื่อง / ภาพ : TONGTA