ช่วงนี้เริ่มมีเวลาว่างหลังจากเคลียร์งานชุดใหญ่จบไป เลยเดินเข้าไปหาความรู้ในห้องสมุดสักหน่อย มีหนังสือหลายเล่มที่สนใจในช่วงนี้ โดยมากเป็นหนังสือเกี่ยวกับการดูแลบ้าน การเย็บกระเป๋าแบบง่าย ๆ การปลูกต้นไม้ การเลี้ยงแคคตัส รวมไปถึงการปลูกต้นอ่อนชนิดต่าง ๆ ซึ่งมีให้ศึกษาหลายเล่มทีเดียว โดยส่วนใหญ่เป็นหนังสือที่ประกอบไปด้วยรูปภาพ สามารถทำตามได้ไม่ยากเลย หลังจากอ่านจบปุ๊บก็คันไม้คันมืออยากปลูกขึ้นมาทันที
 
หลายคนหันมากินอาหารจาก “ต้นอ่อน” กันมากขึ้น ซึ่งมีให้เลือกหลายชนิดเหลือเกิน ที่ฮิตกันมากคือ ต้นอ่อนทานตะวัน ต้นอ่อนข้าวสาลี โต้วเหมี่ยว รวมไปถึง ต้นอ่อนผักบุ้ง ที่กำลังเป็นกระแสมากตอนนี้ เหตุผลหลักที่ทำให้คนส่วนใหญ่หันมากินต้นอ่อนกันมากขึ้นเป็นเพราะสามารถปลูกได้เอง ทั้งยังมากไปด้วยคุณค่าทางอาหารมากกว่าต้นโตเต็มวัย นับเป็นยาอายุวัฒนะขนาดเล็กที่ช่วยต้านสารพัดความเสื่อม และป้องกันสารพันโรคร้ายได้ ครั้งนี้เลยพามารู้จักกับการปลูกต้นอ่อนกันแบบจริงจังกันที่ สมเกียรติผักอร่อย “ฟาร์มไม่ตั้งใจ” จังหวัดสระบุรี โดยคุณสมเกียรติ ลำพันแดง หนุ่มนักธุรกิจค้าส่งพืชผัก ในชื่อ “สมเกียรติผักอร่อย” ที่พลิกผันตัวเองจากคนกลางน้ำสู่การเป็นคนต้นน้ำ สร้าง “ฟาร์มไม่ตั้งใจ” โดยเลือกปลูกต้นอ่อนผักบุ้งเป็นพืชชนิดแรก ๆ ของฟาร์ม

คุณสมเกียรติเริ่มทำฟาร์มด้วยตัวเองโดยเริ่มจากการเพาะต้นอ่อนพืชจำหน่าย ซึ่งคิดว่าน่าจะเหมาะกับคนที่เป็นเกษตรกรมือใหม่ เพราะเป็นพืชที่ใช้ทั้งเวลาและพื้นที่ไม่มาก รวมถึงยังเป็นที่ต้องการของตลาด เนื่องจากเป็นหนึ่งในอาหารที่มีประโยชน์สูง เหมาะกับคนกินอาหารสุขภาพ แต่ครั้งแรกที่ลองทำได้ผลผลิตมา 3 กิโลกรัม กลับขายไม่หมด เพราะผู้บริโภคยังไม่รู้จักมากนัก “ปัญหาคือลูกค้าไม่รู้จัก ถามว่าคืออะไร กินยังไง เราจึงแก้ด้วยการนำไปแจกให้ร้านอาหารที่ซื้อผักของเราประจำอยู่แล้วทดลองนำไปทำเป็นเมนูอาหาร เพราะต้นอ่อนผักบุ้งสามารถทำเมนูอาหารได้เหมือนกับผักบุ้งที่โตเต็มวัย ทั้งแกงส้ม ผัดน้ำมัน ทอดกรอบ ฯลฯ ให้รสชาติอร่อยกว่า มีความกรอบและหวานในตัวเอง กินสด ๆ ได้เลย ที่สำคัญคือมีกากใยอาหารดีกว่า ธาตุอาหารและวิตามินบำรุงสายตามีมากกว่าผักบุ้งโตเต็มวัยด้วย”
 
ต้นอ่อนจัดเป็นพืชมหัศจรรย์ มีปริมาณวิตามินและสารอาหารสูงกว่าพืชชนิดเดียวกันที่โตเต็มที่ และพบว่าต้นอ่อนบางชนิดมีวิตามินเพิ่มขึ้นถึง 500%  การเพาะต้นอ่อนผักบุ้งมีวิธีปลูกไม่ยากเพราะเมล็ดผักบุ้งจะเพาะขึ้นง่าย และใช้เวลาปลูกสั้นประมาณ 8-10 วัน ก็สามารถเก็บมาประกอบอาหารได้ ต้นอ่อนผักบุ้ง 100 กรัม จะให้พลังงานต่อร่างกาย 22 กิโลแคลอรี่ ประกอบด้วยสารอาหารมากมาย เช่น แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, เหล็ก, วิตามิน A B1 B2 C และยังช่วยบำรุงสายตา หากกินสด ๆ จะทำให้คุณค่าของวิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้ไม่เสียไปกับความร้อนอีกด้วย
 
เมล็ดผักบุ้งที่ฟาร์มไม่ตั้งใจนำมาเพาะเป็นผักบุ้งจีนที่หาได้ทั่วไป ก่อนปลูกต้องนำเมล็ดแช่น้ำทิ้งไว้ 8 ชั่วโมง จากนั้นนำมาบ่มใส่กระสอบป่านหรือผ้าที่ดูดซับน้ำและความชื้นได้ดี บ่มทิ้งไว้อีก 18-24 ชั่วโมง เมล็ดจะเริ่มงอกเห็นเป็นจุดสีดำเล็ก ๆ โผล่ขึ้นมาจึงนำไปปลูกในถาดใส่ดินปลูกที่ปรุงเรียบร้อยแล้ว ดินปลูกที่หมักไว้ก่อนนำมาใช้ควรร่อนด้วยตะแกรงอีกครั้งเพื่อให้เนื้อดินละเอียดที่สุด อากาศในดินมีการถ่ายเทและเมล็ดจะแทงต้นขึ้นมาได้ง่าย ใช้เวลาประมาณ 8-10 วันก็สามารถตัดมาทำอาหารกินได้เลย ในส่วนของการดูแลรดน้ำ จะรดในช่วงเช้า กลางวัน และเย็น ให้ดินเปียกพอหมาด ดูแล้วไม่ยากอย่างที่คิดสำหรับการปลูกต้นอ่อน นอกจากนั้นยังนำมาเป็นต้นแบบของการปลูกต้นอ่อนชนิดอื่นได้ด้วย อาทิ ต้นอ่อนถั่วลันเตา ข้าวสาลี อัลฟัลฟ่า ทานตะวัน  และหัวไชเท้า
 
กลับบ้านด้วยความรู้แน่นปึกพร้อมกับดินสำหรับเพาะอีก 2 ถุงใหญ่ ๆ ส่วนเมล็ดผักบุ้งยังมีเหลือที่บ้านอยู่เยอะเหมือนกัน คุณสมเกียรติยังแนะอีกว่าปลูกในภาชนะแบบไหนก็ได้ ถาดพลาสติกที่เหลือจากใส่อาหารก็ใช้ได้ แค่นำไปเจาะรูเพื่อระบายน้ำเท่านั้นก็ใช้ได้แล้ว แต่ถ้าใช้เป็นถาดสำหรับเพาะต้นอ่อนจะสะดวกที่สุด ว่าแล้วก็ลองหาซื้อมาลองกันค่ะ 

ฟาร์มไม่ตั้งใจ
ที่ตั้ง : 45/1 หมู่ 7 ตำบลโคกสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี
โทร. 06-1445-3544, 08-3893-5522
 

---