เมนูปลา อร่อย 4 ภาค
เผลอแป๊บเดียวก็เข้าสู่เดือนเมษายนกันแล้ว เป็นเดือนที่มีวันหยุดยาวให้ได้พักผ่อน รวมถึงมีโอกาสได้กลับบ้าน (สำหรับผู้ที่อยู่ต่างจังหวัด) เป็นเทศกาลที่รวมครอบครัวอย่างแท้จริง สำหรับปีนี้เราก็คงต้องงดการเล่นสงกรานต์กันไปอีก 1 ปี รวมถึงการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ด้วยเช่นกัน แต่ถ้ารวมตัวกันในครอบครัวแล้วล้อมวงกันกินอาหารยังได้อยู่นะ ครั้งนี้เราเลยอยากมาแนะนำเมนูอร่อยจากปลา 4 เมนู 4 ภาค ให้ได้ลองนำไปปรุงกันดู
ขอเริ่มจาก
อาหารภาคกลาง นับเป็นพื้นที่อันอุดมไปด้วยพืชผักผลไม้ เป็นแหล่งรวมอาหารจากหลายประเทศมาตั้งแต่สมัยโบราณ อาหารภาคกลางจึงมีรสชาติกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ไม่โดดไปทางใดทางหนึ่ง มีการนำวัฒนธรรมอาหารของจีน อินเดีย และฝรั่ง เข้ามาผสมผสานจนได้รสชาติใหม่ ๆ รวมถึงมีการจัดวางอาหารที่สวยงาม อาทิ น้ำพริกลงเรือ กุ้งย่างกินกับสะเดาน้ำปลาหวาน แกงมัสมั่น เป็นต้น
แกงป่า เป็นเมนูแกงไม่ใส่กะทิ รสชาติจัดจ้าน หอมกลิ่นเครื่องแกง มีสมุนไพรมากมายที่ใส่ลงไปเพื่อช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ ส่วนเครื่องแกงจะใช้น้ำพริกแกงเผ็ด นอกจากช่วยให้รสชาติเผ็ดร้อนแล้ว อาหารยังสีสวยน่ารับประทาน ครั้งนี้เลือกใช้
ปลาทับทิม ซีพี ในการทำ แกงป่าปลาทับทิม ซีพี เนื่องจากเป็นปลาที่รสชาติอร่อย เนื้อแน่น หวาน ก้างน้อย ไม่มีกลิ่นโคลน เพราะเลี้ยงจากฟาร์มมาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ทำให้มั่นใจทุกครั้งเมื่อนำมารับประทาน
แกงป่าปลาทับทิม ซีพี
ส่วนผสม
ปลาทับทิม ซีพี แล่เนื้อหั่นชิ้น |
350 กรัม |
น้ำพริกแกงเผ็ด |
3 ช้อนโต๊ะ |
มะเขือพวง |
1/4 ถ้วยตวง |
มะเขือเปราะหั่นชิ้น |
5 ลูก |
ชะอมเด็ดใบอ่อน |
1/3 ถ้วยตวง |
กระชายซอย |
1/4 ถ้วยตวง |
ใบมะกรูดฉีกก้านกลางออก |
3 ใบ |
ใบกะเพรา |
1/4 ถ้วยตวง |
พริกไทยอ่อนหั่นเป็นท่อน |
3 ช่อ |
พริกชี้ฟ้าสีแดง สีเหลืองหั่นแฉลบรวมกัน |
1/4 ถ้วยตวง |
น้ำปลา |
1 1/2 ช้อนโต๊ะ |
น้ำมันพืช |
2 ช้อนโต๊ะ |
น้ำเปล่า |
3 ถ้วยตวง |
วิธีทำ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงผัดพอหอม ตักใส่หม้อ เติมน้ำเปล่า คนให้เข้ากัน พอเดือดใส่
ปลาทับทิม ซีพี ต้มพอสุก
2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา เดือดอีกครั้งใส่มะเขือเปราะพอเริ่มสุก ใส่มะเขือพวง กระชาย พริกไทยอ่อน ใบมะกรูด พอส่วนผสมสุกทั่ว ใส่ชะอม พริกชี้ฟ้า ใบกะเพรา คนให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
มาถึงถิ่นแดนเหนือ
อาหารภาคเหนือ เป็นอาหารรสชาติไม่จัด ออกไปทางเค็มและเผ็ดอ่อน ๆ เน้นรสชาติจากวัตถุดิบเป็นหลัก อย่างเช่นรสเผ็ดจากพริก รสเค็มจากถั่วเน่า หรือเกลือ รสเปรี้ยวจากผลไม้ ยอดผัก มะนาว ไม่เน้นการใส่น้ำตาล เพราะดึงรสหวานจากเนื้อสัตว์และผักเข้ามานั่นเอง อาหารที่นิยมส่วนใหญ่ได้แก่ ขนมจีนน้ำเงี้ยว แกงฮังเล น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง และนิยมรับประทานผักสดและผักนึ่งกันทุกมื้ออาหารเลยทีเดียว
แอบปลา เป็นเมนูแบบปิ้งย่าง โดยต้องนำวัตถุดิบไปคลุกกับเครื่องแกง แล้วห่อด้วยใบตองก่อนนำไปปิ้งหรือย่าง ส่วนเครื่องแกงนั้นประกอบไปด้วยสมุนไพรมากมาย ที่นอกจากช่วยดับกลิ่นแล้ว ยังช่วยเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกายด้วย ไม่ว่าจะเป็น ผิวมะกรูด ตะไคร้ ขมิ้น หอมแดง ครั้งนี้เราเลือกใช้
ปลาทับทิม ซีพี ในการทำเมนู
แอบปลาทับทิม ซีพี โดยการแล่เป็นชิ้นขนาดพอคำ แล้วนำมาคลุกกับส่วนผสมจนเข้ากัน วางลงในใบตองแล้วห่อให้แน่นก่อนนำไปปิ้งจนสุก จนได้กลิ่นหอมอร่อยยั่วน้ำลาย อีกทั้งยังมีรสชาติอร่อยจากเนื้อปลาที่สด สะอาด ได้มาตรฐาน เพราะผ่านการเลี้ยงอย่างพิถีพิถันมาเป็นอย่างดี รับประทานได้อย่างมั่นใจปลอดภัยแน่นอน และมีคุณค่าทางโภชนาการเต็ม ๆ คำ
แอบปลาทับทิม ซีพี
ส่วนผสม
ปลาทับทิม ซีพี แล่เอาแต่เนื้อหั่นชิ้น |
500 กรัม |
พริกชี้ฟ้าแห้งนำเมล็ดออกแช่น้ำพอนุ่ม |
5 เม็ด |
พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำพอนุ่ม |
10 เม็ด |
ผิวมะกรูดซอย |
1 ช้อนชา |
กระเทียมไทย |
2 ช้อนโต๊ะ |
หอมแดงซอยหยาบ |
1/4 ถ้วยตวง |
ตะไคร้ซอย |
1/2 ถ้วยตวง |
ขมิ้นปอกเปลือกซอยหยาบ |
1 1/2 ช้อนชา |
กะปิ |
1 ช้อนชา |
น้ำปลา |
1 ช้อนโต๊ะ |
เกลือป่นหยาบ |
1 ช้อนชา |
ต้นหอมซอยหยาบ |
2 ช้อนโต๊ะ |
ผักชีซอยหยาบ |
1/4 ถ้วยตวง |
ใบตอง |
|
วิธีทำ
1. โขลกพริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู และเกลือป่นพอหยาบ ใส่ผิวมะกรูด กระเทียม หอมแดง ตะไคร้ ขมิ้น กะปิ โขลกต่อแค่พอหยาบ ๆ
2. ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงใน
ปลาทับทิม ซีพี ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่ผักชี ต้นหอม คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 30 นาที
3. ตักส่วนผสมใส่ลงในใบตอง ห่อพอแน่น นำไปปิ้งจนสุกเหลือง จัดเสิร์ฟร้อน ๆ
มาต่อกันด้วย
อาหารภาคอีสาน ที่มีรสชาติเด่นเป็นเอกลักษณ์ เน้นรสเค็มจากปลาร้า รสเผ็ดจากพริกสด พริกแห้ง รสเปรี้ยวจากผักพื้นบ้าน ไม่นิยมใส่กะทิในอาหาร ส่วนใหญ่เป็นอาหารแบบขลุกขลิกหรือแห้ง เพราะต้องรับประทานกับข้าวเหนียว นอกจากนั้นยังเน้นวัตถุดิบจากธรรมชาติ อาหารขึ้นชื่อหนีไม่พ้น ส้มตำ อ่อม หมก น้ำพริก และนิยมรับประทานคู่กับผักสดกับอาหารทุกชนิด
ปลานิล นับเป็นปลาที่หาง่ายและนิยมกันมากในประเทศไทย รวมถึงในภาคอีสานด้วยเช่นกัน จึงไม่แปลกที่เรามักเห็นอาหารอีสานส่วนใหญ่ใช้ปลานิลเป็นหลัก ครั้งนี้เรานำ
ปลานิล ซีพี มาทำเป็นเมนู
ปลานิล ซีพี นึ่งจิ้มแจ่ว กินร่วมกับผักสดและผักนึ่ง โดยหมักปลาด้วยสมุนไพร แล้วนึ่งทั้งตัวแบบอีสาน ได้กินปลาเนื้อหวานแน่นเต็มคำ ที่อุดมไปด้วยประโยชน์จากสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย สามารถรับประทานได้ทั้งครอบครัว
ปลานิล ซีพี นึ่งจิ้มแจ่ว
ส่วนผสม
ปลานิล ซีพี ขอดเกล็ด ควักไส้ออก |
1 ตัว |
ตะไคร้ |
2 ต้น |
ใบเตย |
2-3 ใบ |
ใบแมงลัก |
50 กรัม |
ตะไคร้ซอยหยาบ |
1 ต้น |
กระเทียมไทย |
1 ช้อนโต๊ะ |
น้ำปลา |
1 ช้อนโต๊ะ |
เกลือป่นหยาบ |
1 ช้อนชา |
เกลือป่นสำหรับล้างปลา |
1-2 ช้อนโต๊ะ |
ผักสด เช่น ผักกวางตุ้ง ฟักทอง ฟักทองอ่อน น้ำเต้า เห็ดนางฟ้า กะหล่ำปลี บวบงู |
|
วิธีทำ
1. บั้ง
ปลานิล ซีพี ทั้ง 2 ด้าน โรยเกลือป่นบนตัว และท้อง ถูให้ทั่ว ล้างให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ
2. โขลกตะไคร้ซอย กระเทียม เกลือป่น รวมกันพอหยาบ ใส่น้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากัน นำไปทาบน
ปลานิล ซีพี ให้ทั่ว หมักไว้ 20-30 นาที
3. ทุบตะไคร้พอแตก มัดรวมกับใบเตยและใบแมงลัก 2-3 กิ่ง ยัดใส่ในท้อง
ปลานิล ซีพี
4. ใส่ใบแมงลักที่เหลือลงในภาชนะ วาง
ปลานิล ซีพี ที่เตรียมไว้ และผักต่าง ๆ นำไปนึ่งบนน้ำเดือดไฟปานกลาง ประมาณ 15 นาที หรือจนสุก ยกลง จัดเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว
ส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว
พริกขี้หนูสีแดงสีเขียว |
70 กรัม |
หอมแดง |
70 กรัม |
กระเทียม |
60 กรัม |
ข่าซอย |
10 กรัม |
มะเขือเทศสีดาย่าง |
80 กรัม |
น้ำปลาร้าต้มสุก |
1/4 ถ้วยตวง |
น้ำปลา |
2 ช้อนโต๊ะ |
น้ำมะขามเปียก |
2 ช้อนโต๊ะ |
น้ำต้มสุกพักให้เย็นสนิท |
3 ช้อนโต๊ะ |
ผักชีสำหรับโรย |
|
วิธีทำ
1. คั่วพริกขี้หนู หอมแดง กระเทียม ข่า จนสุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น
2. โขลกส่วนผสมที่คั่วไว้พอหยาบ ใส่มะเขือเทศสีดา โขลกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า น้ำมะขามเปียก เติมน้ำต้มสุก คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ โรยผักชี
ปิดท้ายที่อาหารรสจัดจ้านของ
อาหารภาคใต้ กันบ้าง เป็นภาคที่มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล อาหารส่วนใหญ่จึงมีรสเผ็ดจัด เพราะจะช่วยดับกลิ่นคาวของอาหารทะเลได้ดี โดยเฉพาะ ขมิ้น เราจึงเห็นอาหารภาคใต้ส่วนใหญ่มีสีเหลือง ไม่ว่าจะเป็น แกงเหลือง แกงไตปลา ปลาทอด น้ำยาปักษ์ใต้ รวมถึงแกงอีกหลายชนิด ส่วนสิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ ผักเหนาะ หรือผักแกล้มที่ใช้รับประทานร่วมกับอาหาร ถ้าใครชอบอาหารใต้คงคุ้นกันดีกับผักสดที่วางเรียงในตะกร้าให้รับประทานเป็นกอง ๆ กันเลย
สะตอ เป็นวัตถุดิบอีกอย่างหนึ่งที่คนใต้นิยมรับประทาน เป็นพืชที่ให้รสมันและมีกลิ่นแรง รับประทานได้ทั้งแบบสด ดอง รวมถึงนำมาประกอบอาหาร เมนูที่เห็นเป็นประจำคือนำมาผัดรวมกับกุ้งและกะปิ ปรุงรสให้ครบทั้ง เค็ม เผ็ด และเปรี้ยวนิด ๆ แต่ครั้งนี้เราเลือกใช้
ปลากะพง ซีพี เป็นเมนู
ปลากะพง ซีพี ผัดสะตอ เพราะด้วยรสชาติที่แสนอร่อย เนื้อหวาน เป็นปลาที่มีไขมันต่ำ และมีกรดไขมันที่มีประโยชน์อย่างโอเมก้า-3 ที่สำคัญมาจากการเลี้ยงที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ปลากะพงซีพีจึงทั้ง สด สะอาด ปลอดภัย มั่นใจทุกครั้งเมื่อนำมาปรุงเป็นอาหาร
ปลากะพง ซีพี ผัดสะตอ
ส่วนผสม
ปลากะพง ซีพี แล่เนื้อหั่นชิ้น |
250 กรัม |
กะปิ |
3 ช้อนโต๊ะ |
กระเทียมไทย |
8 กลีบ |
พริกขี้หนูสวน |
15 เม็ด |
น้ำมะนาว |
1 1/2 ช้อนโต๊ะ |
น้ำตาลปี๊บ |
1 ช้อนโต๊ะ |
สะตอ |
50 กรัม |
พริกขี้หนูสวนสำหรับโรย |
15 เม็ด |
ใบมะกรูดฉีกก้านกลางออก |
4 ใบ |
น้ำมันพืช |
1 ช้อนโต๊ะ |
น้ำเปล่า |
1/4 ถ้วยตวง |
แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป |
|
น้ำมันพืชสำหรับทอด |
|
วิธีทำ
1. นำ
ปลากะพง ซีพี คลุกแป้งทอดกรอบบาง ๆ ใส่ลงทอดในน้ำมันพืชร้อนไฟปานกลางจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน
2. โขลกกะปิ และกระเทียมให้ละเอียด ใส่พริกขี้หนูสวน โขลกต่อพอแตก ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ ตักใส่ภาชนะ
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่ส่วนผสมที่โขลกไว้ลงผัดพอหอม ใส่น้ำเปล่า
เนื้อปลากะพง ซีพี ทอด สะตอ ผัดให้เข้ากัน โรยพริกขี้หนูสวน ใบมะกรูด ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ