บางเสร่ เสน่ห์ชุมชนเก่าริมทะเล เที่ยวได้ทุกฤดู “แกงชะมวงปลากะพง ซีพี”
บางเสร่ ชุมชนประมงพื้นเมืองท้องถิ่นเล็ก ๆ ใกล้เมืองกรุงที่มีสไตล์เป็นของตัวเองแล้ว และมีเรื่องเล่าจากรุ่นสู่รุ่นมากมายที่พร้อมจะถ่ายทอดเรื่องราวให้กับผู้มาเยือนได้ฟัง
ชุมชนเก่าบ้านตลาดบางเสร่ เป็นชุมชนประมงเล็ก ๆ ริมชายฝั่งทะเล ในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงมีอาชีพประมงพื้นบ้านเป็นหลัก มีการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชาวบ้านดั้งเดิมอันทรงเสน่ห์ไว้ได้เป็นอย่างดี
ท่าเทียบเรือสะพานปลากลุ่มประมงบางเสร่ เต็มไปด้วยความวุ่นวายของรถที่สัญจรเข้าออกสะพานปูนเส้นเล็ก ๆ ที่ทอดยาวยื่นไปกลางทะเล ถึง 2 สะพาน สะพานแรกจะเป็นจุดจอดของเรือไดหมึก ส่วนสะพานที่ 2 จะเป็นจุดจอดของเรือหาปลา หาปู จึงคึกคักกว่าสะพานแรกอย่างเห็นได้ชัด เรือประมงลำโตแวะเวียนสลับกันเข้ามาเทียบท่าหลังจากออกไปหาปลากันตลอดทั้งคืน เพื่อนำอาหารทะเลสด ๆ จากท้องทะเลอ่าวไทยมาส่ง ทุกวัน
หาดบางเสร่ นั้นเงียบสงบเป็นส่วนตัวกว่าหลายหาดมากนัก แม้จะอยู่ไม่ไกลจากพัทยาเลยก็ตาม โค้งอ่าวก็ทอดตัวยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร เป็นชายหาดสาธารณะที่ชายหาดยังสวย ทรายยังขาว มีทิวต้นมะพร้าวเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ หากมองไปทางซ้ายมือจะเห็นภาพชุมชนประมงพื้นบ้านเล็ก ๆ ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นภาพเมืองแห่งความศิวิไลซ์ของพัทยาที่มีตึกรามบ้านช่องอาคารสูงมากมาย
บ้านพวงมโหตร ภูมิปัญญาของชาวบ้านสมัยก่อนในการทำเครื่องแขวน พวงมโหตรเป็นเครื่องแขวนโบราณที่ทำจากกระดาษสีต่าง ๆ นำมาพับและตัดเป็นรูปทรงให้ห้อยระย้า ให้อารมณ์คล้ายโมบาย จะใช้ประดับในงานมงคล ซึ่งแต่เดิมที่นี่ก็ทำพวงมโหตรมานานถึง 10 กว่าปี ก่อนจะมาเป็นหนึ่งในกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก
กลุ่มบาติกวัดสามัคคีบรรพต กลุ่มอาชีพของแม่บ้านที่ว่างงาน ที่รวมกลุ่มกันทำผ้าบาติกลวดลายสวยงาม โดยจะใช้ผ้าขาวเป็นม้วนใหญ่มาขึงเฟรม เขียนลายด้วยเทียนแล้วลงสีสันให้งดงาม ก่อนจะนำไปตัดเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าเช็ดหน้า หรือกล่องกระดาษทิชชู
ถนนวัฒนธรรม ถนนเส้นสั้น ๆ สายนี้นับเป็นถนนเชิงวัฒนธรรมประมงพื้นบ้านของชุมชนบางเสร่ ตลอดระยะทางกว่า 200 กว่าเมตร จึงยังคงเห็นรากเหง้าแห่งอดีตหลงเหลืออยู่บ้าง ทั้งบ้านเรือนแบบดั้งเดิมยังคงเอกลักษณ์ของวิถีชุมชนพื้นเมืองที่ต้องพึ่งพิงทะเลกว้าง หรือร้านขายอาหารทะเลแห้ง
วัดบางเสร่คงคาราม หรือ
วัดบางเสร่ใน วัดเพียงแห่งเดียวของชุมชน เป็นวัดเก่าแก่ อายุราว 163 ปี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2400 เป็นวัดที่ชาวบางเสร่ให้ความเคารพศรัทธาอย่างมาก
จบจากทริปแอบแวะซื้อวัตถุดิบท้องถิ่นขึ้นชื่อ “ใบชะมวง” นำกลับมาทำอาหารที่บ้าน โดยครั้งนี้จะทำเมนู
“แกงชะมวงปลากะพง ซีพี” ปลาคุณภาพดีที่ผ่านการเลี้ยงจากระบบฟาร์มมาตรฐาน ซีพีเอฟ ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายทุกชนิด ตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอนการเลี้ยง ปลาที่ได้จึงสด สะอาด ปลอดภัย เมื่อนำมาทำแกงชะมวงได้รสที่แปลกออกไปจากการใช้เนื้อหมูแบบเดิม เพราะความนุ่มของเนื้อปลา และรสหวานอ่อน ๆ มันเข้ากันดีเหลือเกินกับรสเปรี้ยวเบา ๆ จากใบชะมวง นับว่าเป็นอีกเมนูที่อยากให้ลองกัน
แกงชะมวงปลากะพง ซีพี
ส่วนผสม
| ปลากะพง ซีพี แล่เนื้อหั่นชิ้น |
400 กรัม |
| ใบชะมวงฉีกก้านกลางออกฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ |
150 กรัม |
| น้ำปลา |
1 1/2 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำตาลทราย |
2 1/2 ช้อนโต๊ะ |
| เกลือป่นหยาบ |
1/2 ช้อนชา |
| น้ำเปล่า |
3 ถ้วยตวง |
| น้ำมันพืชสำหรับผัดพริกแกง |
2 ช้อนโต๊ะ |
| น้ำมันพืชสำหรับทอด |
|
ส่วนผสมน้ำพริกแกง
| พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำพอนิ่ม |
5 เม็ด |
| กระเทียมไทยปอกเปลือก |
60 กรัม |
| หอมแดงหั่นหยาบ |
50 กรัม |
| ตะไคร้ซอย |
50 กรัม |
| ข่าซอย |
30 กรัม |
| พริกไทยเม็ด |
1/2 ช้อนชา |
วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสมน้ำพริกแกงรวมกันให้ละเอียด
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน นำ ปลากะพง ซีพี ลงทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงลงผัดจนสุกหอม ใส่น้ำเปล่า พอเดือด ใส่ใบชะมวง ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลทราย เกลือป่น
4. เบาไฟเคี่ยวจนรสชาติกลมกล่อม ใส่ ปลากะพง ซีพี เคี่ยวต่อสักครู่ ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
