ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาน่าน และจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่มาแน่นอน คำจำกัดความของเมืองนี้ไม่มีอะไรจะมากไปกว่า “น่ารัก” จนต้องตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งอีก “น่าน” เป็นเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวันวาน วัฒนธรรม ธรรมชาติอันงดงาม และเสียงเพลงเสียงดนตรีที่มักจะได้ยินอยู่เสมอ ๆ ไม่ว่าจะไปเยือนที่ไหน ความน่ารักนี้ไม่ได้จำกัดอยู่กับแค่สถานที่ แต่ยังรวมถึงหัวใจน่ารักของคนน่านด้วย รอยยิ้ม ความเป็นมิตร ทำให้อบอุ่นเสมอเมื่อมาเยือน
 
อ่างเก็บน้ำห้วยฮิ หรืออ่างน้ำฮิ อ่างเก็บน้ำชื่อตะมุตะมินี้เป็นอ่างเก็บน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำหรับใช้กักเก็บน้ำเพื่อการเกษตรของชาวบ้านในอำเภอเวียงสา วิวทิวทัศน์กว้าง ๆ ในยามเช้าที่ไร้ผู้คน มีเพียงไออุ่นจากดวงอาทิตย์และแสงสีส้มอ่อนจางกระทบกับผืนน้ำ ทำให้เกิดภาพความสวยงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ได้ไม่ยาก
 
จากอ่างน้ำฮิก็ตรงเข้าตัวเมืองน่านเพื่อมา วัดภูมินทร์ วัดทรงจตุรมุขคู่บ้านคู่เมืองน่านอายุ 400 กว่าปี สร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2138 เรียกว่าหากใครพลาดมาวัดนี้ก็เหมือนมาไม่ถึงเมืองน่าน เสน่ห์ของวัดนี้นอกจากความงดงามตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมสุโขทัยแล้วก็คือภาพจิตรกรรมบนฝาผนังวัดภูมินทร์หรือฮูบแต้ม เกี่ยวกับชาดกในพุทธศาสนากับวิถีชีวิตของคนเมืองในสมัยก่อนทั้ง 4 ด้าน ซึ่งภาพที่โด่งดังและสมบูรณ์ท้าทายกาลเวลาที่สุดก็คือ ภาพปู่ม่านย่าม่าน กระซิบรักบันลือโลก และตัววัดดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาค 2 ตัว  
ดอยตีดู้ว์ จุดชมวิวสุดอันซีนแห่งใหม่ของเมืองน่าน ถ้าวัดระยะห่างระหว่างดอยตีดู้ว์กับใจกลางเมืองน่านก็ถือว่าใกล้มาก ห่างกันแค่ 29 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็ถึงจุดหมาย แม้ตีดู้ว์จะไม่ใช่ดอยที่มีเส้นทางให้เราออกแรงพิชิต แต่ตีดู้ว์ทอดตัวขนานไปกับขุนเขาสูงใหญ่ ด้านหน้าเป็นทะเลขุนเขา ด้านหลังเป็นเส้นทางสัญจรหลักของชาวบ้านตำบลสะเนียน
 
โฮงเจ้าฟองคำ บ้านเจ้าล้านนาไทยโบราณอายุกว่า 100 ปี เพื่อเรียนรู้การทอผ้าพื้นเมือง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเรือนอาศัยของเจ้าเมืองนครน่านในอดีต ในบ้านไม้สักสไตล์ล้านนาหลังนี้จึงกลายเป็นที่เก็บสะสมเครื่องเรือนเครื่องใช้และวัตถุโบราณในสมัยก่อนไว้จัดแสดงวิถีชีวิตของชาวน่านในอดีตให้ผู้มาเยือนได้ชม ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องพระ และห้องครัว ด้วยความเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยอดีตในวันวานโฮงเจ้าฟองคำจึงได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่นในปี พ.ศ. 2555 ด้วย
ผละจากโฮงเจ้าฟองคำเราก็เดินซอกแซกไปตามตรอกซอกซอยของเมืองน่าน ต้องบอกเลยว่าน่านเป็นเมืองที่มีวัดเยอะมาก ไม่ใช่แค่ 1 หรือ 2 วัดที่เราเดินผ่าน แต่มากกว่า 5 วัดที่เราได้เห็น ซึ่งแต่ละวัดก็มีความงดงามแตกต่างกัน หลังจากเข้าวัดนั้นออกวัดนี้เราก็มาโผล่อีกทีที่ ศูนย์โอทอปเมืองน่าน หรือตลาดไนท์บาซาร์ มิ่งเมืองดีเบส ย่านเดินเล่น นั่งชิลล์ ช้อปสินค้าพื้นเมืองแถววัดภูมินทร์ เหมาะอย่างยิ่งจะเป็นที่ปักหลักจิบน้ำชาชิลล์ ๆ รอเที่ยวรถกลับกรุงเทพฯ
 
กลับจากเมืองน่านได้ของติดมือมา 1 อย่าง เป็นสมุนไพรขึ้นชื่อนามว่า “มะแข่น” มีลักษณะเป็นเม็ดกลมดำคล้ายกับพริกไทย แต่มีกลิ่นหอมแรงเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังมีรสซ่าเวลาที่ได้ชิม เมืองน่านนิยมนำมะแข่นมาประกอบอาหารหลายอย่าง แต่ที่เห็นมากสุดคือเมนูทอดทั้งหลาย อาทิ ไก่ทอด หมูทอด กลับถึงบ้านอยากลองทำเมนูใหม่ ๆ บ้าง “ปลาทับทิมทอดมะแข่น” เลยบอกให้คนที่บ้านไปหาซื้อปลาทับทิม ซีพี ที่แม็คโครสาขาใกล้บ้านมาจัดเตรียมไว้  ปลาทับทิม ซีพี ที่ได้มานั้น ตัวอวบอ้วนกำลังดี สดใหม่ตาใสกิ๊ก เนื้อแน่นตึงสวย สาเหตุที่เลือกซื้อเฉพาะปลาทับทิม ซีพี เท่านั้น  เพราะปลาทับทิม ซีพี ผ่านการเลี้ยงอย่างพิถีพิถันจากระบบฟาร์มมาตรฐาน ซีพีเอฟ ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายทุกชนิด สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอนการเลี้ยง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยและเรื่องกลิ่น เพราะปลาทับทิม ซีพี สด สะอาด ปลอดภัย ไร้กลิ่นอย่างแน่นอน ครั้งนี้ขอแล่เนื้อปลาเป็นชิ้น ๆ นำมาคลุกกับเครื่องสมุนไพร คือกระเทียมและมะแข่นที่โขลกรวมกัน จากนั้นปรุงรสให้กลมกล่อม ก่อนนำมาทอดจนกรอบ รับประทานพร้อมกับสมุนไพรทอด ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งบ้าน
 
ส่วนผสม

ปลาทับทิม ซีพี แล่เนื้อหั่นชิ้น	500 กรัม
กระเทียมไทย	1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยทุบพอแตก	1/4 ถ้วยตวง
มะแข่น	1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา	1 ช้อนโต๊ะ
ผงปรุงรสไก่	1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย	1/2 ช้อนชา
แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป	1/4 ถ้วยตวง
ใบมะกรูด	1/4 ถ้วยตวง
พริกขี้หนูแห้ง	10 เม็ด
เกลือป่นหยาบสำหรับล้างปลา	1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ
1. โรยเกลือป่นลงบนปลาทับทิม ซีพี เคล้าให้เข้ากัน ล้างให้สะอาด ใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ
2. โขลกกระเทียมกับมะแข่นให้ละเอียด ใส่ลงในปลาทับทิม ซีพี ปรุงรสด้วยน้ำปลา ผงปรุงรสไก่ น้ำตาลทราย ใส่แป้งทอดกรอบ คลุกเคล้าให้เข้ากัน  หมักไว้สักครู่
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่ปลาทับทิม ซีพี ลงทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
4. ใส่กระเทียมทุบลงในน้ำแป้งที่เหลือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ลงทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
5. ใส่ใบมะกรูด และพริกขี้หนูลงทอดต่อจนกรอบ ตักขึ้น
6. จัดปลาทับทิม ซีพี ใส่ภาชนะ โรยกระเทียม ใบมะกรูด พริกขี้หนู จัดเสิร์ฟ