ไอศกรีม ไม่ต้องหวานก็อร่อย “Jinta Homemade Icecream”

แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
3,471    6    -4    5 ต.ค. 2562 13:00 น.
แบ่งปัน
       เราเป็นคนเกิดในยุคที่พอมีเสียงกริ๊ง ๆ ของรถไอศกรีม ก็ต้องวิ่งไปกรูกันอยู่หน้าบ้าน สมัยก่อนขนมหวานของเด็ก ๆ ไม่ได้มมากมายเหมือนเดี๋ยวนี้ พวกขนมขบเคี้ยวหรือขนมปังแทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ ทำให้รถไอศกรีมกลายเป็นจุดรวมพลของเด็กทั้งหมู่บ้าน ทุกคนจะเขย่งตัวให้สูงที่สุด แล้วมุดหัวลงไปเลือกรสที่ชอบ ก่อนส่งให้คนขายตัดเป็นชิ้น ๆ เสียบไม้แล้วกินกันอย่างเอร็ดอร่อย
 

รสหวาน ๆ เย็น ๆ กินแล้วช่วยทำให้ผ่อนคลายได้ แต่ถ้าเปลี่ยนจากหวานเป็น “ขม” ล่ะ จะยังมีคนชื่นชอบอยู่มั้ย ครั้งนี้เราจึงขอเป็นผู้กล้าลองรสไอศกรีมแบบขม ๆ พร้อมกับเรื่องเล่าของ คุณหนุ่ม-เมธวัจน์ เกียรติกีรติสกุล เจ้าของร้าน Jinta Homemade Icecream ที่ถือกำเนิดมาได้กว่า 7 ปีแล้ว

Jinta หรือ จินตา คือชื่อลูกสาวของคุณหนุ่ม ผู้ที่คิดอยากทำไอศกรีม ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่เคยเกี่ยวข้องกับการทำอาหารหรือเครื่องดื่มเลย “เมื่อก่อนผมทำงานประจำ เป็น Sale Logistics พอรู้ว่ามีน้องเราก็อยากหารายได้เสริม เลยลองคิดว่าอยากทำอะไรดี ตอนแรกเราก็มองว่าพวกเบอเกอรี่ หรือกาแฟ คนก็ทำเยอะแล้ว แล้วอีกอย่างพอดีเราชอบกินไอศกรีมด้วย เราก็เลยลองทำดู คิดว่าคู่แข่งคงไม่เยอะ พอเข้ามาจริง ๆ ก็เยอะเหมือนกัน ส่วนงานประจำก็ทำมาเรื่อย ๆ ครับ แต่เพิ่งจะมาหยุดทำเมื่อตอนต้นปี เพราะเห็นว่าเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว”
 

ก่อนหน้านี้ Jinta Homemade Icecream ก็มีรสชาติเหมือนกับไอศกรีมทั่วไป จนกระทั่งได้ออกบูธจำหน่ายในงานออร์แกนิคมากขึ้น จึงทำให้อยากลองที่จะทำรสชาติใหม่ ๆ ดู “เราได้รู้จักกับผู้ขายซึ่งเป็นเกษตรกรเอง ได้ความรู้ใหม่ว่าถ้าเรากินของที่มันผ่านการแปรรูปมาเยอะมันทำให้เราป่วยนะ กินสิ่งที่ใส่ของประดิษฐ์ลงไปเยอะ แต่งสี เติมกลิ่น พอระยะยาวคนเราป่วยเพราะสิ่งเหล่านี้ เราก็เลยมองว่าถ้าเราเอาวัตถุดิบที่มีอยู่ในตลาดออร์แกนิคมาลองทำมันจะดีกว่ามั้ย ก็เลยเริ่มลองมาทำดู แรก ๆ ก็ทำรสผลไม้ง่าย ๆ อย่างเสาวรส หรือผลไม้ตามฤดูกาลพวกน้อยหน่า กระท้อน อะไรอย่างงี้ แต่มันก็เป็นอะไรที่ควบคุมยากมากนะ เพราะผลไม้แต่ละฤดูรสชาติไม่เหมือนกัน แต่ละต้น แต่ละลูก รสชาติยังต่างกันเลย แต่เราโชคดีตรงที่เราขายอยู่ในตลาดออร์แกนิค ดังนั้นลูกค้าที่มาซื้อเขาก็จะยอมรับได้กับเรื่องรสชาติที่ไม่นิ่งเหมือนกับไอศกรีมที่ผ่านการแปรรูปมาแล้ว” 

เริ่มต้นด้วยรสเปรี้ยวอย่างเสาวรส ก่อนจะต่อยอดไปยังผักและผลไม้อื่น ๆ ตามฤดูกาล “ที่เริ่มจากเสาวรสเพราะวัตถุดิบหาง่าย มีรสเปรี้ยวนำ ซึ่งเป็นรสที่คนชอบกันอยู่แล้ว พอปรุงอีกหน่อยก็เข้าที่เลย พอเริ่มอยู่ตัวเราก็ลองรสใหม่ ๆ เลย อย่าง ทุเรียน มะม่วง มะยม พอพี่ ๆ ที่เป็นเกษตรกรมาเห็นว่าเราทำได้เขาก็แนะนำผลไม้อื่นให้ อย่าง มะแป่ม (มะดันแดง) จะคล้าย ๆ มังคุด แต่เป็นลูกเล็ก และตรงเปลือกจะเป็นสีแดง กินได้ทั้งลูก เหมือนมะยมลูกโตหน่อย รสชาติจะคล้ายกับมะยมผสมมังคุด เปรี้ยวหน่อย แต่ให้วิตามิน C มาก  อีกอย่างที่แปลกคือ มะเกี๋ยง เป็นเหมือนเชอร์รีของทางเชียงราย มีรสเปรี้ยวอมหวาน อีกอย่างที่ชอบคือ ชบาเมเปิล อันนี้เราจะใช้ใบมาทำเป็นแยม แล้วจึงนำมาปั่นเป็นไอศกรีมอีกที ที่แปลกคือตอนเป็นแยมรสเขาจะคล้ายกับกระเจี๊ยบแดง แต่พอนำมาทำเป็นไอศกรีมรสเขาจะคล้ายกับบ๊วยครับ”  
 

วัตถุดิบมีมาให้ลองเรื่อย ๆ ทั้งแปลกและใหม่ แต่บางรสชาติคุณหนุ่มก็ท้อใจจนไม่อยากสานต่อ “ตอนนี้คิดได้รสเดียวครับคือ ถั่วเหลืองกับมัทฉะ ไม่เข้ากันอย่างแรง (หัวเราะ) เลยคิดว่าเราน่าจะไปทางผลไม้ดีกว่า ส่วนที่ลูกค้าชอบมาก ๆ คือ สับปะรดออร์แกนิคพริกขี้หนูสด ในเนื้อไอศกรีมจะมีชิ้นเนื้อสับปะรดเชื่อมด้วย รสจะเปรี้ยว หวาน เผ็ด และจากที่เรามองว่าไอศกรีมมันไม่ได้จำกัดแค่รสหวานนะ ก็เป็นเหตุผลที่อยากนำผักมาลองทำบ้าง โดยเริ่มจากผักง่าย ๆ มาทำก่อน อย่าง ผักโขมทำคู่กับฟักทอง อย่างแรกคือได้เรื่องสีที่สวย อย่างที่สองคือเรากลัวความเขียวของผัก เลยใช้ฟักทองมา Balance แต่กลายเป็นว่าพอทำออกมาแล้วมันไม่เขียวมาก แล้วก็มันมีรสของฟักทอง แล้วมันก็เข้ากันดีมมาก ๆ ด้วย”

คะน้ากับสะระแหน่ เป็นลิสต์รายการตัวต่อมาของ Jinta Homemade Icecream “เราอยากได้ความมินต์ในแบบของบ้านเรา เราก็ใช้สะระแหน่ แต่ก็อยากได้ทูโทนเหมือนกัน จึงใช้สีเขียวเข้มของคะน้ามาช่วย ที่สำคัญคือวัตถุดิบทั้ง 2 อย่าง หาได้ง่ายในตลาดออร์แกนิค รสชาติที่ได้จะออกมินต์เบา ๆ และเป็นกลิ่นที่เราคุ้ยเคยกันมากด้วย ต่อจากตรงนี้เราก็ลองของยากเลยครับ มะระชีสเค้ก ซึ่งผมได้เห็นมาจากรายการแข่งขันทำอาหารครับ แต่ในรายการเขาไม่ได้ถ่ายขั้นตอนการทำให้ดูนะ เห็นตอนเสร็จแล้ว ผมก็เลยเราก็น่าจะลองทำได้ ก็ลองเอามาทำดู กลายเป็นว่ากลายเป็นรสที่ลูกค้าชอบมาก เพราะมันมีรสของชีสเค้ก บวกกับรสขมปลาย ๆ ไม่ได้ขมจัดมากจนกินไม่ได้ และอีกสิ่งที่ผมมั่นใจมากคงเป็นเพราะวัตถุดิบทุกอย่างของเราเป็นออร์แกนิค 100% ด้วย รสชาติทุกอย่างมันจึงมาจากธรรมชาติจริง ๆ”

เมนูต่อไปน่าจะเป็นของชอบของสาว ๆ แต่กลับเป็นโจทย์ยากของคุณหนุ่ม “เราอยากทำสตรอว์เบอร์รีนะ แต่ส่วนใหญ่เขาจะใส่สีลงไป เพราะถ้านำสตรอว์เบอร์รีสดมาปั่นกับนม สีมันจะหม่น ออกสีเทา เลยต้องลองนำมาปรับว่าจะใช้อะไรช่วยเพิ่มสีแดงดี ตอนนี้คิดได้อย่างหนึ่งแล้วคือ บีตรูต โดยจะนำมาเชื่อมก่อน แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปในไอศกรีมด้วย”
 

จะให้ลูกค้ายอมรับตั้งแต่ครั้งแรกไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเท่ากับเราเปลี่ยนรสไอศกรีมที่คุ้นเคยใหม่เกือบทั้งหมด “เราเจออะไรใหม่ ๆ ก็อยากลองนะ อยากให้ลูกค้าได้รู้ว่ามันกินได้และดีด้วย เมื่อก่อนไม่มีใครรู้จักเรา คนจะมากินก็ถามว่า มันจะกินได้เหรอ มันจะเหม็นเขียวมั้ย มันจะขมมั้ย อะไรอย่างงี้ แต่เราก็จะให้ลูกค้าได้ลองชิมก่อนตัดสินใจซื้อ เราจะถาม Feedback ตลอด ยอมรับว่าช่วงแรกรสมันก็ไม่ได้พอดีเป๊ะ เราก็ใช้คำติเตียนของลูกค้านี่ล่ะปรับปรุงมาเรื่อย ๆ จนลงตัว ลูกค้าติด ชอบ บอกต่อ และทำให้เราเป็นที่รู้จักมากขึ้นครับ”

Jinta Homemade Icecream ไม่ได้มีดีแค่ไอศกรีม เพราะถ้วยใส่ของเขาก็เก๋ไม่แพ้ใคร โดยไอศกรีมจะใส่ลงบนถ้วยใบตองแห้ง รองอีกชั้นด้วยเข่งใบจิ๋ว เมื่อบวกกับรสชาติที่มาจากธรรมชาติ 100% จึงทำให้อยากลองชิมถ้วยแล้วถ้วยเล่า ส่วนถ้าใครอยากลองชิมไอศกรีมรสขม ลองติดตามได้ที่  Facebook กับ Ig ของ Jinta Homemade Icecream เพราะเขาไม่ได้มีเปิดขายทั่วไป แต่จะขายเฉพาะงานออร์แกนิคเท่านั้น

Facebook : Jinta Homemade Icecream


เรื่อง / ภาพ : TONGTA
บทความแนะนำอื่นๆ
สูตรอาหารน่าสนใจ
แสดงความคิดเห็น

* จำเป็นต้องกรอก

คะแนนสำหรับบทความนี้ *
รายละเอียด *
ยังไม่มีรีวิว
บทความใกล้เคียงดูบทความทั้งหมด