อาหารเรียบง่าย วิถีพื้นบ้าน มากไปด้วยเสน่ห์

แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
แเสดงความคิดเห็น
ถูกใจ
7,306    56    -4    6 ก.ย. 2561 13:13 น.
แบ่งปัน

   เมื่อครั้งยังเป็นเด็กเคยคิดว่าอยากเกิดเป็นฝรั่งจัง เพราะบ้านเมืองเขาดูสวยงามอย่างที่เราไม่เคยเห็น มีอะไรใหม่ ๆ ให้ดูตลอดเวลา รวมถึงวิวัฒนาการที่ล้ำสมัยเกินหน้าเกินตา แต่พอเริ่มโตขึ้นก็ได้รู้ว่าโชคดีเหลือเกินที่เกิดเป็นคนไทย เพราะเป็นประเทศที่อัดแน่นไปด้วยวัฒนธรรมที่น่าลุ่มหลง และมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่สวยไม่แพ้เมืองนอก ที่สำคัญคืออาหารการกินอุดมสมบูรณ์มาก ๆ จนได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของนักกินเลยก็ว่าได้
 

ปลาดูสมุนไพร

   ปลาดู เป็นอาหารพื้นบ้านคนไทยพวน จังหวัดนครนายก ลักษณะคล้ายกับปลาร้าในภาคอีสาน เพียงแต่ชาวบ้านไทยพวนจะนำปลาดุก ปลาช่อน ปลานิล ปลาตัวสด ๆ มาหมักประมาณ 20-30 วัน แล้วนำปลาดูที่ได้มาทอดหรือย่าง รสเปรี้ยวนำเค็ม กินกับผักพื้นบ้าน ส่วนชื่อนั้นมาจากคำว่า “ดูแล” เนื่องจากในขณะที่หมักปลาจะต้องคอยดูไม่ให้เปรี้ยวจนเกินไปนั่นเอง สำหรับของหวานอีกชนิดหนึ่งก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
 
ส่วนผสม  
ปลาดุก 1 กิโลกรัม 
เกลือป่นหยาบ 300 กรัม
ข้าวคั่ว 200 กรัม 
กระเทียมสับละเอียด 30 กรัม
พริกไทยป่น 10 กรัม 
น้ำมันพืชสำหรับทอด   
สมุนไพรทอดกรอบ เช่น หอมแดงเจียว กระชายซอยเจียว  
ใบมะกรูดทอด  
พริกขี้หนูแห้งทอด  

วิธีทำ
1. ตัดหัวปลาดุกนำไส้ออก ล้างให้สะอาดบั้งทั้ง 2 ด้านใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ
2. โรยเกลือป่นลงบนปลาดุก คลุกเคล้าให้เข้ากันหมักไว้ 6-8 ชั่วโมง
3. ล้างปลาดุกที่หมักไว้ให้สะอาด ใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ
4. ใส่ข้าวคั่ว กระเทียม พริกไทยป่น ลงในปลาดุกคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 15-20 วัน
5. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่ปลาดุกที่หมักไว้ลงทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดเสิร์ฟพร้อมสมุนไพรทอดกรอบ

สูตรจาก : ครูหลอด โทร. 08-1440-6113

ข้าวกระยาคู
 
   เป็นขนมที่มีประวัติยาวนาน ในสมัยโบราณจะมีเฉพาะช่วงก่อนฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบมีความเกี่ยวพันกับความเชื่อตามวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนไทย ในเรื่องการนับถือ “แม่โพสพ” จึงทำให้ขนมชนิดนี้มีความพิเศษ ในสมัยพุทธกาล พระอานนท์ก็เคยปรุงข้าวกล้อง ถั่วเขียว และงาทำเป็นข้าวเหลว ๆ ถวายพระพุทธเจ้า ตอนที่ท่านตถาคตประชวรด้วยโรคลมในท้อง ดังนั้น ข้าวกระยาคู จึงเหมาะสำหรับโรคเกี่ยวกับท้อง แก้หิวกระหาย ชูกำลัง และแก้อาการอ่อนเพลีย บ้างก็ว่าเป็นข้าวที่มีคุณสมบัติเป็นยาอายุวัฒนะอีกด้วย
 
ส่วนผสม  
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง 
แป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำใบเตย 6 ถ้วยตวง 
กะทิเข้มข้นปานกลาง 4 ถ้วยตวง 
น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง 
เกลือป่นหยาบ 1 ช้อนชา 
รวงข้าวเจ้าที่กำลังมีน้ำนม (ข้าวที่เกสรร่วงแล้ว รวงข้าวจะก้มลง)   
มะพร้าวอ่อนขูดเป็นเส้น สำหรับตกแต่ง   
งาดำคั่วสำหรับโรย  
 
วิธีทำ
1. เลือกใบข้าวออก ล้างให้สะอาด ใช้กรรไกรตัดเอาแต่เมล็ดข้าวตวงให้ได้ 1 ถ้วยตวง แล้วนำไปโขลกให้ละเอียด
2. ใส่น้ำใบเตยผสมกับข้าวที่โขลกไว้ คนให้เข้ากัน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
3. ผสมเกลือป่น น้ำตาลทราย กะทิ แป้งข้าวเจ้า แป้งเท้ายายม่อมคนให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมข้อที่ 2 คนให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบางอีกครั้ง
4. ใส่ส่วนผสมลงในกระทะทอง ยกขึ้นไฟอ่อน กวนไปเรื่อย ๆจนข้นเหนียว ตักใส่ภาชนะ พักไว้ให้เย็น ตกแต่งด้วยมะพร้าวอ่อนโรยงาดำคั่ว จัดเสิร์ฟ
 
สูตรจาก : กลุ่มอนุรักษ์ขนมไทยโบราณ โทร. 0-3739-8186

เส้นหมี่หน้าหมู
 
   เป็นการนำบั๋นหอยหรือเส้นหมี่ของเวียดนามมาลวกพอสุก กินคู่กับหมูสามชั้นลวกจนนุ่ม ราดด้วยน้ำจิ้มรสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม แกล้มด้วยผักสด
 
ส่วนผสม  
บั๋นหอย (เส้นหมี่เวียดนาม) 5 แผ่น 
หมูสามชั้นต้มสุกหั่นชิ้น 300 กรัม 
น้ำเปล่า   
น้ำเย็น   
ต้นหอมลวกสุก   
ขิงดอง   
ผักสด เช่น ใบโหระพา ผักแพว ผักกาดหอม ผักชี ใบสะระแหน่ ผักชีฝรั่ง  

วิธีทำ
1. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่บั๋นหอยลงต้ม จับเวลา 1 นาที 15 วินาที ตักขึ้นแช่น้ำเย็นสักครู่ ใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ
2. ม้วนบั๋นหอยเป็นก้อนกลม พันด้วยต้นหอมลวก จัดเสิร์ฟพร้อมหมูสามชั้นต้ม ผักสด ขิงดอง และน้ำจิ้ม
 
ส่วนผสมน้ำจิ้ม  
พริกขี้หนูสีแดง 10 เม็ด 
กระเทียม 3 กลีบ 
รากผักชี 2 ราก 
น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง 
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 
น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
โขลกพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชีให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย เติมน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย คนให้ละลายเตรียมไว้
 
Tips :
หมูสามชั้นเมื่อต้มสุกแล้วควรแช่น้ำเปล่าไว้ เวลาจะเสิร์ฟค่อยนำขึ้นมาหั่น เนื้อจะได้นุ่มไม่แข็ง
 
สูตรจาก : ร้านยายเต็มอาหารเวียดนาม โทร. 08-0880-0090

บัวลอยญวน
 
   เป็นบัวลอยลูกโต ไส้ด้านในเป็นถั่วเขียวกวนกับน้ำตาล เวลากินราดด้วยกะทิเล็กน้อย โรยด้วยถั่วทอง รสชาติโดยรวมหวานปนเค็ม โดยส่วนใหญ่จะได้กินเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น ตรุษจีน และปีใหม่
 
ส่วนผสมตัวแป้ง  
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง 
น้ำใบเตย 1/3 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า   
งาขาวและงาดำคั่วบุบพอแตก  

วิธีทำ
1. เทแป้งข้าวเหนียวใส่ภาชนะ ทำเป็นบ่อตรงกลางค่อย ๆ ใส่น้ำใบเตย นวดจนแป้งเนียนนุ่มไม่ติดมือ(ถ้าแป้งแห้งเติมน้ำใบเตยเพิ่ม)
2. ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมแผ่ให้บางเล็กน้อย ใส่ไส้ปั้นเป็นก้อนกลมอีกครั้ง
3. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่บัวลอยลงต้มพอสุก ตักขึ้นจัดเสิร์ฟพร้อมน้ำกะทิ งาขาว และงาดำคั่ว
 
ส่วนผสมไส้  
ถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุกบดละเอียด 1 ถ้วยตวง
หอมแดงซอย 1/4 ถ้วยตวง 
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง 
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา 
เกลือป่นหยาบ 1 ช้อนชา 
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่หอมแดงลงเจียวพอเหลือง ใส่ถั่วเขียวเลาะเปลือก ผัดให้เข้ากัน
2. ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น พริกไทยป่น ผัดให้แห้งยกลงพักไว้ให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง1 เซนติเมตร
 
ส่วนผสมน้ำกะทิ  
หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
หางกะทิ 1 1/2 ถ้วยตวง 
เกลือป่นหยาบ 1/4 ช้อนชา 
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง 
กลิ่นมะลิ 2-3 หยด

วิธีทำ
ผสมหางกะทิ เกลือป่น และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันยกขึ้นตั้งไฟพอเดือด ใส่หัวกะทิ กลิ่นมะลิ คนให้เข้ากัน ยกลง
 
สูตรจาก : ร้านยายต๊าม โทร. 08-1559-8664

ข้าวคลุกพริกเกลือ

   นับเป็นเมนูของชาวไทยตั้งแต่เดิม คนไทยในสมัยโบราณใช้พริกกับเกลือคลุกรวมกันให้เกิดรสชาติและเก็บไว้กินได้ แต่ชาวจันทบุรีนำมาดัดแปลงโดยการเพิ่มอาหารทะเลเข้าไป สะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดจันทบุรีได้เป็นอย่างดี
 
ส่วนผสม  
กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออกลวกสุก 10 ตัว 
ปลาหมึกสดขนาดกลางหั่นชิ้นลวกสุก 1 ตัว 
เนื้อหมูสันนอกหั่นชิ้นลวกสุก 100 กรัม
ไข่เป็ดต้มยางมะตูม 1 ฟอง 
กระเทียมไทยกลีบเล็ก 15 กลีบ 
พริกขี้หนูสวนสีเขียว สีแดง 20 เม็ด 
น้ำมะนาว  3 ช้อนโต๊ะ 
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 
เกลือป่นหยาบ 1/4 ช้อนชา
รากผักชี 3 ราก 
น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ 
ข้าวสวย 3 ถ้วยตวง 
แตงกวา  ผักชี  

วิธีทำ
1.โขลกรากผักชี เกลือป่น กระเทียม พริกขี้หนูสวนพอหยาบปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันชิมรสตามชอบ
2. ผสมข้าวสวยและน้ำจิ้มข้อที่ 1 ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะคลุกเคล้าให้เข้ากัน แบ่งใส่จาน 2 จาน เรียงเนื้อสัตว์ที่ลวกแล้ว อย่างละ 2-3 ชิ้น
3. วางไข่ต้ม แตงกวา โรยผักชี จัดเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มที่เหลือ
 
สูตรจาก : ร้านขลุกขลิก - เจ้าเก่า ริมน้ำจันทบูรณ์ โทร. 09-8994-6090

ขนมควยลิง
 
   ทำจากแป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อน รูปร่างเป็นแท่งสีชมพูอมม่วงอ่อน ๆ  ต้มจนสุก แล้วคลุกน้ำตาล งาดำ และมะพร้าวขูด สำหรับที่มาของชื่อขนมเกิดจากสมัยก่อนในชุมชนบ้านหนองบัวจะเป็นป่าชายเลน มีต้นแสมและมีลิงแสมอาศัยอยู่เยอะ และมักจะชอบมานั่งเฝ้าเวลาทำขนม ทำให้มองเห็นอวัยวะเพศโผล่มาให้เห็น เมื่อคนทำขนมเห็นจึงนำมาตั้งชื่อขนมจนถึงปัจจุบัน
 
ส่วนผสม  
แป้งข้าวเหนียวดำ 1 ถ้วยตวง 
แป้งข้าวเหนียวขาว 2 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง 
มะพร้าวขูดขาวนึ่งประมาณ 5 นาที  500 กรัม 
งาขาวคั่ว 1/2 ถ้วยตวง 
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
เกลือป่นหยาบ 2 ช้อนชา 
น้ำเปล่าสำหรับต้ม  
   
วิธีทำ
1. ผสมแป้งข้าวเหนียวดำ แป้งข้าวเหนียวขาว คนให้เข้ากันค่อย ๆ ใส่น้ำเปล่า นวดจนแป้งเนียนนุ่มไม่ติดมือ (ถ้าแป้งแห้งเติมน้ำเปล่าเพิ่ม)
2. ปั้นแป้งเป็นก้อนยาวรี ใส่ลงต้มในน้ำเดือด พอสุกแป้งลอยตักขึ้นสะบัดให้สะเด็ดน้ำ ใส่ลงในมะพร้าวขูดขาว คลุกให้ติดทั่ว
3. ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น งาขาว ลงในครก ใช้ไม้ตีพริกคลึงเบา ๆ จนงาแตก ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้
4. จัดขนมใส่ภาชนะ โรยส่วนผสมข้อที่ 3 จัดเสิร์ฟ
 
สูตรจาก : ร้านยายลิ ชุมชนขนมแปลก ริมคลองหนองบัว โทร. 08-1983-5893

ลอมาจู (สะลอมาจู)
 
   ซึ่งในภาษาเขมรคำว่า สะลอ หมายถึงแกง ส่วนคำว่า จู หมายถึงรสเปรี้ยว ดังนั้นสะลอมาจูจึงหมายถึง แกงที่มีรสเปรี้ยว โดยรสเปรี้ยวที่ได้มาจากมะเขือเทศ และสับปะรด เมื่อซดน้ำร้อน ๆ จะทำให้สดชื่น ส่วนเนื้อสัตว์สามารถใส่ได้ทั้งเนื้อปลาและเนื้อกุ้ง
 
ส่วนผสม  
เนื้อปลากะพงหั่นชิ้น 200 กรัม 
สับปะรดตราดสีทองหั่นชิ้น 200 กรัม 
มะเขือเทศหั่นชิ้น 70 กรัม 
หอมหัวใหญ่หั่นชิ้น 140 กรัม 
หอมแดงหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ 
พริกขี้หนูสวน 25 เม็ด 
กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ 
ไข่ไก่ 1 ฟอง 
น้ำเปล่า 5 ถ้วยตวง 
น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ 
ผักชีฝรั่งซอย 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. โขลกกะปิ พริกขี้หนูสวน หอมแดง รวมกันพอหยาบ
2. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่ส่วนผสมที่โขลกไว้ คนให้เข้ากันใส่สับปะรด หอมหัวใหญ่ และมะเขือเทศ เดือดอีกครั้งใส่ปลากะพง ปรุงรสด้วยน้ำปลา
3. ตีไข่ไก่จนฟู ใส่ลงในหม้อขณะน้ำเดือดพล่าน โรยผักชีฝรั่งคนให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
 
สูตรจาก : ร้านโฟล์คเวย์  โทร. 06-4146-1496, 039-510-246, 09-4416-9899

ขนมบันดุ๊ก
 
   มีลักษณะคล้ายกับขนมเปียกปูน แต่วิธีการกินจะต่างกัน เนื่องจากขนมบันดุ๊กจะกินพร้อมกับน้ำเชื่อม แล้วโรยด้วยถั่วลิสงด้านบน และด้วยชื่อที่ค่อนข้างแปลกออกไปจากขนมไทยทั่วไปจึงสันนิษฐานว่าเป็นขนมจากต่างเมือง
 
ส่วนผสมแป้ง  
แป้งข้าวเจ้าโม่สด 2 ถ้วยตวง 
แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วยตวง
น้ำใบเตยคั้นเข้ม ๆ 1 ถ้วยตวง 
น้ำเปล่า 4 1/2 ถ้วยตวง 
ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ  
   
วิธีทำ
1. ผสมแป้งข้าวเจ้าโม่สดและแป้งมันสำปะหลังให้เข้ากัน ค่อย ๆใส่น้ำเปล่า คนให้เข้ากัน
2. ใส่น้ำใบเตย คนให้เข้ากันอีกครั้ง เทใส่กระทะทอง ยกขึ้นตั้งไฟกวนจนข้นเหนียว เทใส่ถาด พักให้เซ็ตตัว
3. ตัดขนมเป็นชิ้น ราดน้ำเชื่อม น้ำกะทิ โรยถั่วลิสง จัดเสิร์ฟ
 
ส่วนผสมน้ำเชื่อม  
น้ำตาลทรายแดง 3 ถ้วยตวง 
น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ
ผสมน้ำตาลทรายแดงและน้ำเปล่า ยกขึ้นตั้งไฟพอเดือดเบาไฟเคี่ยวพอข้นเหนียว ยกลง
 
ส่วนผสมน้ำกะทิ  
หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง 
แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ช้อนชา 
เกลือป่นหยาบ 1 ช้อนชา

วิธีทำ
ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟ คนจนแป้งสุกมีลักษณะข้นเล็กน้อย ยกลง
 
สูตรจาก : ร้านป้าหนอม ขนมไทยโบราณเมืองตราด โทร. 09-4235-3242

ยำกระเฉดชะลูดน้ำ
 
   ที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี จะเกิดน้ำท่วมเกือบทุกปี เกษตรกรส่วนใหญ่ทำการเกษตรและปลูกผักกระเฉดไว้ขาย เมื่อเกิดน้ำท่วมผักกระเฉดที่ปลูกไว้จะจมน้ำเสียหาย และมีผักกระเฉดบางส่วนชะลูดน้ำขึ้นมา เกษตรกรจึงเก็บผักกระเฉดชะลูดน้ำไปขายในตลาด พบว่าจำหน่ายได้ราคาดี จึงหันมาปลูกผักกระเฉดชะลูดน้ำกันอย่างแพร่หลาย
 
ส่วนผสมตัวแป้ง  
ผักกระเฉดชะลูดน้ำหั่นท่อน 50 กรัม 
กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก 3 ตัว
ปลาหมึกหั่นแว่น 3 ชิ้น 
หอยแมลงภู่ต้มแกะเนื้อ 5 ตัว 
หอมแขกหั่นชิ้น 1/2 หัว 
พริกขี้หนูสวนโขลกหยาบ 5 เม็ด
น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ 
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ 
น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 
มะเขือเทศราชินีผ่าครึ่งลูก 5 ลูก
ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 1/4 ถ้วยตวง 
น้ำเปล่าสำหรับลวก  

วิธีทำ
1. ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย น้ำพริกเผา คนให้ละลาย ใส่พริกขี้หนูสวน คนให้เข้ากัน
2. ลวกกุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ ผักกระเฉดชะลูดน้ำลงในน้ำเดือด สะบัดให้แห้ง ใส่ลงในน้ำยำ
3. ใส่มะเขือเทศ ขึ้นฉ่าย หอมแขก คลุกเคล้าเบา ๆ ให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
 
สูตรจาก : ร้านบ้านเนินน้ำ โทร. 09-8338-2536,08-1921-5643

ขนมเขียวมรกต

   เป็นขนมขึ้นชื่อของอำเภอนาดี เกิดจากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นโดยแท้ ตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบ และกรรมวิธีทำให้สุก โดยอาศัยฝีมือของผู้ทำเป็นประการสำคัญ วัตถุดิบที่นำมาทำแยกเป็น 2 ส่วน คือ  ตัวแป้ง และไส้ ลักษณะคล้ายกับข้าวเกรียบปากหม้อของภาคกลาง แต่ตัวแป้งจะเป็นสีเขียวสวย ส่วนไส้ด้านใน ประกอบด้วย มะพร้าวขูด ถั่วเขียวผ่าซีก นึ่งจนสุกผสมกันกับเกลือให้มีรสชาติเค็มปนมัน
 
ส่วนผสมแป้ง  
แป้งข้าวเจ้า 1 1/2 ถ้วยตวง
แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วยตวง 
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
น้ำปูนใส 2 ถ้วยตวง 
น้ำใบเตยคั้นเข้ม ๆ 1/4 ถ้วยตวง 
น้ำเปล่า  
หัวกะทิ  

วิธีทำ
1. ขึงผ้าโทเรลงบนหม้อข้าวเกรียบปากหม้อมัดด้วยหนังยางให้ตึง เจาะรูบนผ้าเติมน้ำเปล่าปิดฝา ต้มจนเดือด
2. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลังน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ค่อย ๆ ใส่น้ำปูนใส คนให้ละลาย ใส่น้ำใบเตยคนให้เข้ากัน
3. ตักแป้งละเลงบนผ้าให้เป็นแผ่นกลมปิดฝาประมาณ 10 วินาที พอแป้งสุกแซะขึ้นวางบนถาดที่ทาด้วยหัวกะทิใส่ไส้พับครึ่ง จัดเสิร์ฟ
 
ส่วนผสมไส้  
ถั่วเขียวเลาะเปลือก 250 กรัม
มะพร้าวทึนทึกขูดเป็นเส้น 150 กรัม 
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง 
เกลือป่นหยาบ 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ล้างถั่วเขียวเลาะเปลือกให้สะอาด แช่น้ำอุ่น1-2 ชั่วโมง ล้างให้สะอาดอีกครั้ง เทใส่ลังถึงที่ปูด้วยผ้าขาวบาง ยกขึ้นนึ่งบนน้ำเดือดไฟปานกลางประมาณ 20 นาที หรือจนสุก
2. นำถั่วเขียวเลาะเปลือกขึ้นจากลังถึงใส่มะพร้าวทึนทึกลงนึ่งต่อประมาณ 5 นาที
3. ผสมถั่วเขียวเลาะเปลือก มะพร้าวทึนทึก น้ำตาลทราย เกลือป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน เตรียมไว้

สูตรจาก : ร้านแม่ปุก โทร. 08-1865-8042, 08-7987-4877
บทความแนะนำอื่นๆ
สูตรอาหารน่าสนใจ
แสดงความคิดเห็น

* จำเป็นต้องกรอก

คะแนนสำหรับบทความนี้ *
รายละเอียด *
ความคิดเห็น 4 รายการ
Sirikul
อาหารเรียบง่าย วิถีพื้นบ้าน มากไปด้วยเสน่ห์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน tfvgqkym http://www.gw4nkghzm08151j7cp492tw497g6x04ls.org/ <a href="http://www.gw4nkghzm08151j7cp492tw497g6x04ls.org/">atfvgqkym</a> [url=http://www.gw4nkghzm08151j7cp492tw497g6x04ls.org/]utfvgqkym[/url]
8 ม.ค. 2566 22:30 น. 0
อาหารเรียบง่าย วิถีพื้นบ้าน มากไปด้วยเสน่ห์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน tfvgqkym http://www.gw4nkghzm08151j7cp492tw497g6x04ls.org/ <a href="http://www.gw4nkghzm08151j7cp492tw497g6x04ls.org/">atfvgqkym</a> [url=http://www.gw4nkghzm08151j7cp492tw497g6x04ls.org/]utfvgqkym[/url]
8 ม.ค. 2566 22:30 น. 0
Sirikul
อาหารเรียบง่าย วิถีพื้นบ้าน มากไปด้วยเสน่ห์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน <a href="http://www.gr6y365ti03n0a6h5e7b73gylf3n3j67s.org/">ajpzihpeqw</a> [url=http://www.gr6y365ti03n0a6h5e7b73gylf3n3j67s.org/]ujpzihpeqw[/url] jpzihpeqw http://www.gr6y365ti03n0a6h5e7b73gylf3n3j67s.org/
28 พ.ย. 2565 21:30 น. 0
อาหารเรียบง่าย วิถีพื้นบ้าน มากไปด้วยเสน่ห์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน <a href="http://www.gr6y365ti03n0a6h5e7b73gylf3n3j67s.org/">ajpzihpeqw</a> [url=http://www.gr6y365ti03n0a6h5e7b73gylf3n3j67s.org/]ujpzihpeqw[/url] jpzihpeqw http://www.gr6y365ti03n0a6h5e7b73gylf3n3j67s.org/
28 พ.ย. 2565 21:30 น. 0
Sirikul
อาหารเรียบง่าย วิถีพื้นบ้าน มากไปด้วยเสน่ห์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน [url=http://www.g87nh8902c30q6l74sbiw6k6qqi49nl5s.org/]uifzcnnwezp[/url] <a href="http://www.g87nh8902c30q6l74sbiw6k6qqi49nl5s.org/">aifzcnnwezp</a> ifzcnnwezp http://www.g87nh8902c30q6l74sbiw6k6qqi49nl5s.org/
25 พ.ย. 2565 11:55 น. 0
อาหารเรียบง่าย วิถีพื้นบ้าน มากไปด้วยเสน่ห์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน [url=http://www.g87nh8902c30q6l74sbiw6k6qqi49nl5s.org/]uifzcnnwezp[/url] <a href="http://www.g87nh8902c30q6l74sbiw6k6qqi49nl5s.org/">aifzcnnwezp</a> ifzcnnwezp http://www.g87nh8902c30q6l74sbiw6k6qqi49nl5s.org/
25 พ.ย. 2565 11:55 น. 0
Sirikul
อาหารเรียบง่าย วิถีพื้นบ้าน มากไปด้วยเสน่ห์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน <a href="http://www.gs5k3g344xue087o1c1v5wxkxnc04708s.org/">alfnvdnjebb</a> lfnvdnjebb http://www.gs5k3g344xue087o1c1v5wxkxnc04708s.org/ [url=http://www.gs5k3g344xue087o1c1v5wxkxnc04708s.org/]ulfnvdnjebb[/url]
6 ก.ค. 2565 19:31 น. 0
อาหารเรียบง่าย วิถีพื้นบ้าน มากไปด้วยเสน่ห์ สำนักพิมพ์แม่บ้าน <a href="http://www.gs5k3g344xue087o1c1v5wxkxnc04708s.org/">alfnvdnjebb</a> lfnvdnjebb http://www.gs5k3g344xue087o1c1v5wxkxnc04708s.org/ [url=http://www.gs5k3g344xue087o1c1v5wxkxnc04708s.org/]ulfnvdnjebb[/url]
6 ก.ค. 2565 19:31 น. 0
บทความใกล้เคียงดูบทความทั้งหมด