อาหารต้องห้ามยามท้องว่าง

หน้าแรก      สาระน่ารู้
ถูกใจ
0    5,980    2    10 ส.ค. 2559 : น.   
แบ่งปัน

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าเรารับประทานไม่ถูกเวลาอาจส่งผลเสียกับสุขภาพร่างกายของเราได้ ยิ่งในช่วงเช้าที่ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลาจึงทำให้เราเห็นอะไรที่เข้าปากได้ ก็รีบๆ ตามใจปากเลยทีเดียว แต่รู้หรือไม่อาหารบางชนิดก็ไม่เหมาะแก่การรับประทานยามท้องว่าง เนื่องจากอาหารต่อไปนี้จะไปสร้างปฏิกิริยากับน้ำย่อยในกระเพาะจนเกิดอาการผิดปกติในร่างกายได้ งั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
 
เริ่มต้นที่ ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว อย่างสับปะรด ส้ม มะนาว ผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวเหล่านี้เมื่อรับประทานตอนท้องว่างอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร ไม่เพียงเท่านี้ผลไม้อย่างมะละกอก็ไม่ควรรับประทานตอนท้องว่างเช่นกัน เนื่องจากมะละกอเป็นผลไม้ที่มีเอนไซม์มาก และเอนไซม์เหล่านี้จะเข้าไปกัดกระเพาะอาหารขณะที่เรายังไม่ได้รับประทานอะไรลงไป และผลไม้อีกอย่างคือ ลูกพลับ เนื่องจากกระเพาะอาหารจะหลั่งกรดออกมามาก หากไปรวมตัวกับยางและสารแขวนลอยในลูกพลับแล้วจะทำให้คลื่นไส้ และระคายเคืองในกระเพาะอาหารได้ แต่ถ้าจะกินก่อนอาหารสัก 2-3 ชิ้นเล็กๆ ก็ยังพอได้ แต่ทั้งนี้ควรล้างให้สะอาดก่อนทุกครั้งเพื่อเป็นการลดสารเคมีตกค้าง
 
นอกจากนี้ใครที่ชอบเลือกดื่มน้ำหวาน หรือของหวาน เช่น น้ำอัดลม ลูกอม ช็อกโกแลต ในตอนท้องว่างควรจะเลี่ยงด้วย เพราะจะทำให้โปรตีนรวมตัวกับน้ำตาล ซึ่งส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิดและลดการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไตได้ ตลอดจนเครื่องดื่มชาที่ชงแก่ๆ ก็เช่นกันไม่ควรรับประทานตอนท้องว่าง เพราะจะทำให้กรดเกลือในน้ำย่อยที่อยู่ในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้การทำงานของระบบย่อยอาหารลดลง และเกิดอาการใจสั่น เวียนศีรษะ มือเท้าไม่มีแรงได้ และเครื่องดื่มที่มักจะมีในงานสังสรรค์งานปาร์ตี้อย่าง แอลกอฮอล์ก็ไม่ควรดื่มยามท้องว่างเช่นกัน เนื่องจากจะไปกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้

และยังมีอาหารอีกอย่างที่ฮิตนิยมกินกันในตอนเช้ายามท้องว่าง อย่าง นม ซึ่งก็ไม่ควรดื่มนมในขณะที่ท้องว่างเช่นกันหรือถ้าต้องการดื่มก็ควรมีอาหารประเภทแป้งอยู่ด้วย

เพราะฉะนั้นเรื่องอาหารการรับประทานควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพื่อสุขภาพที่ดีของเรานะคะ
 
สาระน่ารู้อื่นๆ