ปัจจุบันการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนดูจะเร่งรีบไปเสียซะทุกอย่าง โดยเฉพาะหนุ่มสาววัยทำงานที่มักกินอาหารเช้ากับอาหารเที่ยงรวบเป็นมื้อเดียวกัน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้ร่างกายรับสารอาหารไม่เพียงพอโดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดโปรตีนที่ถือว่าเป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย และเป็นส่วนประกอบของทุก ๆ เซลล์ในร่างกายตั้งแต่เส้นผมจรดถึงเล็บเท้าของเรา เพราะร่างกายคนเรา 80 % ล้วนประกอบไปด้วยโปรตีน ถ้าหากร่างกายของเรานั้นขาดโปรตีนก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้

โครงสร้างของโปรตีนจะประกอบขึ้นจากโครงสร้างเล็ก ๆ ที่เรียกว่า กรดอะมิโน ซึ่งมีทั้งกรดอะมิโนที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้และกรดอะมิโนที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ดังนั้นร่างกายของเราไม่สามารถสร้างกรดอะมิโนได้ทุกชนิดเราจึงต้องได้รับกรดอะมิโนจำเป็นเหล่านั้นจากอาหาร ฉะนั้นเมื่อเราขาดโปรตีนหรือได้รับกรดอะมิโนจำเป็นไม่ครบถ้วนก็อาจจะทำให้มีอาการเหล่านี้ได้โดยสังเกตได้จากอาการดังนี้ รู้สึกมึน ๆ วิงเวียนศีรษะ สมองไม่ปลอดโปร่ง รู้สึกอยากกินของหวานตลอดเวลา และกินเท่าไรก็ไม่อิ่ม เนื่องจากการขาดโปรตีนจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเสียสมดุลทำให้ร่างกายต้องการน้ำตาลมากขึ้นจึงรู้สึกอยากกินของหวานตลอดเวลา ผิวหยาบกร้านไม่กระชับเต่งตึง เล็บแห้งฉีกขาด เมื่อมีแผลจะหายช้ากว่าปกติ เส้นผมมีเม็ดสีจางทำให้ผมหงอกก่อนวัย หลุดร่วงง่าย และแห้งแตกปลาย นอกจากนี้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอทำให้ติดเชื้อได้ง่ายอีกด้วย

ฉะนั้นเมื่อมีอาการเหล่านี้ควรกินโปรตีนเข้าไปอย่างพอเหมาะ ซึ่งโดยปกติร่างกายคนเราต้องการปริมาณโปรตีนประมาณ 1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ถ้าหากเรามีน้ำหนัก 50 กิโลกรัม เราก็ต้องทานโปรตีน 50 กรัมต่อวัน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับกิจกรรมหรือลักษณะงานที่แต่ละคนทำในแต่ละวันด้วยเช่นกัน ถ้าหากเราใช้พลังงานในปริมาณที่มากในการกินโปรตีนก็ควรมากขึ้นตามไปด้วย เพื่อให้โปรตีนไปช่วยในการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ปกป้องริ้วรอยก่อนวัยทำให้เซลล์ผมและเล็บแข็งแรง และช่วยในการทำงานของเซลล์ประสาทอีกด้วย โดยเลือกกินอาหารที่มีโปรตีนในทุกมื้อ เช่น ไข่ นม ปลา ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืชชนิดต่างๆ ผสมกันให้หลากหลาย ดังนั้นตั้งแต่วันนี้ลองสังเกตตัวเองหากมีอาการเหล่านี้ควรดูแลและใส่ใจสุขภาพให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายกลับมาสมบูรณ์อีกครั้งนะคะ