1. ใช้กระเป๋าน้ำร้อน...โดยต้มน้ำร้อนใส่ลงในกระเป๋าน้ำร้อน แล้วนำมาวางบริเวณท้องน้อย แล้วนอนพักสักครู่ อาการปวดท้องจะดีขึ้น เพราะความร้อนจะช่วยให้กล้ามเนื้อที่ตึงผ่อนคลายลง หรือจะดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ เช่น น้ำขิงร้อน หรือน้ำมะนาวอุ่น ก็ได้
2. นวดท้อง...โดยให้นวดเป็นวงกลมอย่างแผ่วเบา และกด บริเวณท้องเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อตรงบริเวณท้องผ่อนคลายลง คลายความเจ็บปวด และความตึงเครียดที่ทำให้เจ็บปวดได้
3. ดื่มน้ำ การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ตับทำงานได้ดีขึ้น เพราะตับจะช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจน และช่วยลดอาการปวดท้องได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเกลือ หรือคาเฟอีน เพราะจะทำให้ท้องอืด และปวดท้องมากกว่าเดิม
4. ออกกำลังกาย...การออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายแข็งแรง จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดที่บริเวณอุ้งเชิงกราน ทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (สารแห่งความสุข) และยังช่วยลดความเจ็บปวดของร่างกายได้ด้วย
5. การรับประทานอาหาร...ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินในกลุ่มแอนตี้ออกซิแดนต์ (A, B, C, D, E ) และกลุ่ม B (B1, B6, B12) รวมถึง แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม เพราะจะไปช่วยคลายกล้ามเนื้อมดลูก ทำให้อาการปวดลดน้อยลง ซึ่งจะพบได้ในผักโขม, ผักปวยเล้ง, ข้าวกล้อง, ข้าวโอ๊ต, ถั่ว, เต้าหู้สด, ถั่วอัลมอนด์, มะม่วงหิมพานต์, ถั่วลิสง, ถั่วต้ม, กล้วย, นม และโยเกิร์ต
6. รับประทานยาสำหรับบรรเทาอาการปวดประจำเดือน...ซึ่งมีให้เลือกหลายยี่ห้อ แล้วนอนพักจะช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้