ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จับมือ “วันเดอร์ฟู้ด อินเตอร์เนชันแนล” โดยเชฟมิชลินสตาร์ “แอนดี้ ยัง” เปิดตัว “วันเดอร์ฟู้ด” บุกธุรกิจอาหารมุ่งขยายโอกาสไปยังธุรกิจใหม่ๆ คาดสร้างผลกำไรปีละกว่า 10% ของกำไรรวมบริษัท และตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 40% ใน 5 ปี

1    1,875    9    4 ธ.ค. 2563 15:08 น.   
แบ่งปัน

ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จับมือ “วันเดอร์ฟู้ด อินเตอร์เนชันแนล” โดยเชฟมิชลินสตาร์  “แอนดี้ ยัง” เปิดตัว “วันเดอร์ฟู้ด” บุกธุรกิจอาหารมุ่งขยายโอกาสไปยังธุรกิจใหม่ๆ คาดสร้างผลกำไรปีละกว่า 10% ของกำไรรวมบริษัท และตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 40% ใน 5 ปี

   บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภายใต้แบรนด์เวิลด์แก๊ส จับมือ “วันเดอร์ฟู้ด อินเตอร์เนชันแนล” ซึ่งก่อตั้งโดยเชฟมิชลินสตาร์ “แอนดี้ ยังเอกสกุล” ลุยธุรกิจอาหารเต็มตัวภายใต้แบรนด์ “วันเดอร์ฟู้ด” ขยายโอกาสทางธุรกิจและสร้างรายได้จากช่องทางใหม่ มุ่งนำเมนูอาหารสตรีทฟู้ดไทยแบบใส่ใจสุขภาพมาเพิ่มมูลค่าให้ก้าวไกลระดับโลก เริ่มต้นจากธุรกิจร้านอาหารใจกลางเมือง 4 แบรนด์ ได้แก่ ผัดไทยไฟทะลุ, ข้าวซอย Hungry Rabbit, ร้านอาหาร Hyper Fine Dining ระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาวในชื่อ Table 38 และPi Kun (ปีกุน) แบรนด์ร้านอาหารอีสานฟิวชั่นแนวทาปาส พร้อมเตรียมต่อยอดสู่การเปิดแฟรนไชส์ รวมถึงการผลิตและจำหน่ายเครื่องปรุงรส และอาหารกึ่งสำเร็จรูป และธุรกิจอื่น ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับอาหารในอนาคต คาดธุรกิจอาหารจะสามารถสร้างผลกำไรปีละกว่า 10% ของกำไรรวมของบริษัทฯ และตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกำไรขึ้นเป็น 40% ของกำไรรวมของบริษัทฯ ภายใน 5 ปี
 

คุณชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลอด 40 ปีในการดำเนินธุรกิจ เวิลด์แก๊สไม่เคยหยุดนิ่งในการส่งมอบพลังงานสะอาดที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ด้วยการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้พลังของการคิดบวก พร้อมมุ่งเน้นการพัฒนาด้านการบริการ ผ่านความรู้และประสบการณ์อันยาวนาน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เรายังคงมองหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ทั้งด้านสินค้า บริการ รวมถึงรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาพัฒนาและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น นี่จึงเป็นที่มาให้เราต่อยอดจากธุรกิจก๊าซแอลพีจีซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเราในปัจจุบัน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซแอลพีจี ขยายโอกาสมาสู่การทำธุรกิจอื่นๆ อย่างธุรกิจอาหารซึ่งเป็นการสร้างรายได้จากช่องทางใหม่ ๆ และกระจายความเสี่ยง ด้วยความเชื่อมั่นในประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำอาหารและการบริหารธุรกิจอาหารของพันธมิตรทางธุรกิจของเราอย่างบริษัท วันเดอร์ฟู้ด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ “เชฟแอนดี้” ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในเรื่องสร้างสรรค์และบริหารงานธุรกิจอาหารหลากหลายรูปแบบที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง รวมถึงชื่อเสียงของเชฟในการสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยจนได้ดาวมิชลินมาแล้วทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ทำให้ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ เชื่อมั่นว่าวันเดอร์ฟู้ดจะสามารถสร้างผลกำไรได้ปีละ กว่า 10% ของกำไรรวมของบริษัทฯ และสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ได้ในด้วยสัดส่วนของกำไร 40% ของบริษัท ภายใน 5 ปีได้อย่างแน่นอน”
 

คุณนพวงศ์ โอมาธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนธุรกิจของแบรนด์ “วันเดอร์ฟู้ด” ว่า “วันเดอร์ฟู้ด มุ่งสร้างสรรค์ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารแบบครบวงจร ด้วยระบบการทำงานมาตรฐานอุตสาหกรรม มีการใช้ระบบ value chain มีครัวกลางและระบบโลจิสติกส์ เพื่อรักษาคุณภาพอาหาร บริหารต้นทุน และใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2563 บริษัทฯ ได้ลงทุนเบื้องต้นประมาณ 40 ล้านบาท เพื่อสร้าง 4 แบรนด์ร้านอาหารในเครือวันเดอร์ฟู้ด ได้แก่ แบรนด์ระดับมิชลินสตาร์อย่าง “Table38”  ที่นำเสนอประสบการณ์สุดล้ำของเมนูสตรีทฟู้ดไทยสไตล์เชฟแอนดี้ เปิดดำเนินการที่ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่แล้ววันนี้ ควบคู่กับแบรนด์ร้านอาหารอีสานสไตล์ฟิวชั่นน้องใหม่ล่าสุดอย่าง “Pi Kun (ปีกุน)” นำเสนอเมนูอาหารอีสานทานง่ายในรูปแบบของทาปาสพอดีคำในสไตล์สแปนิช รวมถึงคาราวานอาหารสตรีทฟู้ด 2 แบรนด์ที่เน้นความเชี่ยวชาญเฉพาะ ได้แก่ “ผัดไทยไฟทะลุ” ผัดไทยรสชาติจัดจ้านทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส และ “Hungry Rabbit” ข้าวซอยเพื่อสุขภาพกับรสชาติอร่อยแบบเข้มข้น โดยจะมีการเปิดร้านแฟล็กชิพใจกลางเมืองแห่งแรกที่สยามสแควร์ในเดือนมกราคมนี้ หลังได้รับการตอบรับที่ดีจากการเปิดร้านผัดไทยไฟทะลุ ในเครือวันเดอร์ฟู้ดแห่งแรกที่ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ โดยวันเดอร์ฟู้ด จะมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ระดับกลางขึ้นไปที่มีความสนใจและชื่นชอบในการเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ปรุงด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่และกรรมวิธี ที่มีคุณภาพ จากฝีมือของเชฟมิชลินสตาร์ ในราคาที่สมเหตุสมผล”

“นอกจากนี้วันเดอร์ฟู้ดยังวางแผนรองรับธุรกิจดิลิเวอรี่ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน โดยจะมีการเปิดสาขาเพื่อรองรับธุรกิจดิลิเวอรี่โดยเฉพาะ ซึ่งบริษัทฯ ยังได้เตรียมงบประมาณไว้ราว 50 ล้านบาท สำหรับแผนการต่อยอดธุรกิจไปยังธุรกิจอื่น ๆ หลังจากแบรนด์ติดตลาดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการรับจัดเลี้ยง ธุรกิจการผลิตและส่งวัตถุดิบ รวมถึงอาหารสำเร็จรูปให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กร เช่น โรงแรมและสายการบิน รวมถึงการเปิดแฟรนไชส์ของธุรกิจแต่ละแบรนด์ในเครือไปยังต่างจังหวัด และต่างประเทศ ฯลฯ ” คุณนพวงศ์กล่าวเสริม
 

เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล หรือ “เชฟแอนดี้ ยัง” กล่าวว่า “วันเดอร์ฟู้ดคือบริษัทด้านอาหารที่เกิดขึ้นจากการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญระหว่างบริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารธุรกิจและเงินทุน กับบริษัท วันเดอร์ฟู้ด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการประกอบธุรกิจในด้านอาหารทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศตั้งแต่ไฮเปอร์ ไฟน์ไดนิ่งระดับมิชลินสตาร์จนถึงสตรีทฟู้ดมาใช้ในการรังสรรค์เมนูที่แปลกใหม่ และวางระบบในการดำเนินธุรกิจร้านอาหารให้มีประสิทธิภาพ โดย “วันเดอร์ฟู้ด” จะเน้นนำเสนอประสบการณ์ด้านอาหารที่แปลกใหม่ในรูปแบบคาราวานอาหารที่คัดสรรเมนูสตรีทฟู้ดในเมนูที่คนไทยมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีภายใต้แบรนด์ใหญ่ของวันเดอร์ฟู้ด โดดเด่นด้วยกรรมวิธีในการคัดสรรวัตถุดิบ และกรรมวิธีในการประกอบอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ด้วยฝีมือของเชฟชาวไทยระดับมิชลินสตาร์ เพื่อคนไทยทุกคนว่าจะเป็นเพศ วัย หรืออาชีพไหน ก็สามารถรับประทานอาหารสะอาด ดีต่อสุขภาพ และรสชาติจัดจ้านได้อย่างเท่าเทียมกันภายใต้ปณิธาน  “อาหารมาตรฐานระดับเชฟมิชลินสตาร์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับคนไทยทุกคน”
 

“ซึ่งในทุกเมนูและทุกขั้นตอนการผลิตของคาราวานแบรนด์อาหารต่างๆ จากวันเดอร์ฟู้ดจะเน้นการรังสรรค์อาหารที่มีรสชาติจัดจ้านและไม่ใส่ผงชูรส รวมถึงมีการนำนวัตกรรมด้านอาหารมาใช้อย่างการใช้คลื่นเสียงในการปรุงอาหารเพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการเป็นต้น นอกจากนี้ซอสที่ใช้ในการปรุงเมนูต่างๆ ยังถูกคิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะจากวิธีการทางธรรมชาติ เพื่อให้ได้รสชาติที่แปลกใหม่ และดีต่อสุขภาพ โดยเราเชื่อมั่นว่า “วันเดอร์ฟู้ด” เป็นอีกหนึ่งช่องทางให้คนไทยได้เห็นคุณค่าของวัตถุดิบและความเป็นไทย พร้อมทั้งทำให้อาหารสตรีทฟู้ดของไทยเป็นที่รู้จักในฐานะแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาลิ้มลอง กระตุ้นธุรกิจอาหารและการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืนในอนาคตหากสถานการณ์การเดินทางระหว่างประเทศกลับมาเป็นปกติ”เชฟแอนดี้กล่าวสรุป
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ
‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย เผยรายชื่อ 20 ร้านใหม่ จากทั้งหมด 156 ร้าน ที่ได้รับรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ ประจำปี 2568   สำนักพิมพ์แม่บ้าน
‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย เผยรายชื่อ 20 ร้านใหม่ จากทั้งหมด 156 ร้าน ที่ได้รับรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ ประจำปี 2568
เพื่อจุดกระแสความสนใจต่องานประกาศผลรางวัลดาวมิชลินซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน ศกนี้ มิชลินได้เผยรายชื่อร้านอาหารคุณภาพดีราคาย่อมเยาที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ (Bib Gourmand) ประจำปี 2568 รวมทั้งสิ้น 156 ร้าน ในจำนวนนี้เป็นร้านที่ติดอันดับในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ครั้งแรก 20 ร้าน โดย 5 ร้านอยู่ในจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ ที่คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2565 (The MICHELIN Guide Thailand 2025) ขยายขอบเขตเข้าดำเนินการสำรวจและจัดอันดับเป็นปีแรก
ปลายปีนี้เติมเต็มความสุขในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ริมชายหาดอันเงียบสงบ ณ ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ในยาง บีช สำนักพิมพ์แม่บ้าน
ปลายปีนี้เติมเต็มความสุขในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ริมชายหาดอันเงียบสงบ ณ ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ในยาง บีช
ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขปลายปี ท่ามกลางบรรยากาศริมทะเลอันเงียบสงบ ณ ภูเก็ต แมริออท รีสอรืท แอนด์ สปา, ในยาง บีช รีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาวที่ได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย เชิญคุณและครอบครัวร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขตลอดเดือนธันวาคมนี้ ด้วยกิจกรรมพิเศษมากมายในบรรยากาศริมทะเล ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำริมชายหาด กิจกรรมวันคริสต์มาสสำหรับครอบครัว หรือ บีชปาร์ตี้ในธีมนีออน ท่ามกลางวิวงดงามของทะเลอันดามัน