มะลิ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์นมข้นหวานในไทย การันตีด้วยยอดขายอันดับหนึ่ง โดยการทุ่มงบประมาณกว่า 140 ล้านบาท เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “มะลิ อีซี่ สควีซ” (Mali Easy Squeeze) ชูจุดเด่นนมข้นหวานแบบหลอดบีบ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย เอาใจคนรุ่นใหม่ เพิ่มความสะดวกต่อการใช้งาน พกพาได้ จัดเก็บง่าย พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์ พระเอกสุดฮอต เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี และภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุด มั่นใจ “มะลิ อีซี่ สควีซ” จะสามารถสร้างยอดขายให้บริษัทเติบโตขึ้นได้ มากกว่า 10% ภายในสิ้นปี 2560
นายพินิจ พัวพันธ์ กรรมการ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด กล่าวว่า “มะลิ” เป็นผู้ผลิตนมข้นหวานรายแรกของประเทศไทย ซึ่งยังคงได้รับความนิยมและครองใจผู้บริโภค มาอย่างยาวนาน ปัจจุบันมะลิเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดผลิตภัณฑ์นมข้นหวานในไทย ซึ่งการันตีด้วยยอดขายอันดับหนึ่ง จากส่วนแบ่งการตลาดที่มากถึง 90% และมียอดการผลิตกว่า 300,000 ตันต่อปี พร้อมกันนี้ยังได้ขยายตลาดไปอีกกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทุ่มงบประมาณการตลาดกว่า 140 ล้านบาท เขย่าตลาดนมข้นหวานในไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “มะลิ อีซี่ สควีซ” (Mali Easy Squeeze) นมข้นหวานในรูปแบบหลอดบีบ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่ ตั้งแต่วัยเรียนจนถึงวัยทำงาน ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ มีเวลาจำกัด ชื่นชอบการทำอาหารเองแบบง่ายๆ ต้องการความสนุก ในการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ เพื่อความเพลิดเพลินในการรับประทานอาหารมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ มะลิจึงได้ออกแบบแพ็คเกจจิ้งใหม่ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการออกแบบ ให้มีรูปทรงจับกระชับพอดีมือ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน พกพาได้ จัดเก็บง่าย เมื่อเปิดใช้แล้ว สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้โดยไม่ต้องถ่ายใส่ภาชนะ นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์ใหม่ เป็นพระเอกสุดฮอต เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี พร้อมภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุด “มะลิ อีซี่ สควีซ” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บีบสนุก ทุกความอร่อย” เพื่อสื่อถึงการใช้งาน ที่ง่าย และสนุก ใช้ได้กับเมนูที่หลากหลาย
บริษัทฯ มั่นใจว่าด้วยความโดดเด่นและจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ “มะลิ อีซี่ สควีซ” ผนวกกับกลยุทธ์การตลาด ทั้งแผนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ กิจกรรมส่งเสริมการขาย และช่องทางการจัดจำหน่าย ที่ครอบคลุมทั้งในร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ จะสามารถสร้างยอดขายให้บริษัทเติบโตขึ้นได้ มากกว่า 10% ภายในสิ้นปี 2560 และจะช่วยขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมตอกย้ำความแข็งแกร่งของการเป็นแบรนด์ยอดขายอันดับหนึ่งได้อย่างแน่นอน”