ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน หากเรารู้จักปรับวิธีคิดและการใช้ชีวิตตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป กล้าที่จะข้ามผ่านความแตกต่างระหว่างวัย เพราะแม้จะต่างวัยก็สามารถแบ่งปันประสบการณ์ความเก่งและเก๋า ที่วัยไหนก็เอาเป็นแบบอย่างได้ ช่วยให้สองวัยเห็นคุณค่าและเข้าใจความต่างของกันและกันมากขึ้น
กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับ
บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และ
CHANGE2561 จัดทำรายการ
“เก่งอย่างเก๋า” รายการที่จะช่วยส่งเสริมความเข้าใจในเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวและการลดช่องว่างระหว่างวัย รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้สูงวัย และสร้างความตระหนักรู้ให้คนทุกรุ่นทุกวัยสามารถใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข
ทำความรู้จักกับ 3 ครอบครัวตัวอย่าง ที่ไม่ใช่เก๋าแค่วัย แต่ยังเก๋าประสบการณ์ รวมทั้งกล้าที่จะลองทำอะไรใหม่ๆ โดยไม่มีเงื่อนไขของเรื่องวัยมาเป็นกำแพง จนจับมือกันประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพ
คุณธรรมชาติ โยธาจุล อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังบนโลก TikTok เจ้าของช่อง “THAMMACHAD” ผู้ผลักดัน
คุณแม่สุดารัตน์ โยธาจุล เป็น Tiktoker วัยเก๋า สร้างคอนเทนต์ตอบโจทย์กลุ่มสูงวัยผ่านช่อง “แม่พี่ธรรมชาติ” โดยใช้ความรู้ด้านการทำคอนเทนต์ บวกกับความชอบและเรื่องราวในชีวิตประจำวันของคุณแม่ มาสร้างคอนเทนต์ลงบน TikTok จนปัจจุบันมีผู้ติดตามกว่าหกแสนคน และมีผู้ชมวิดีโอหลักล้าน คุณธรรมชาติ มองว่า สิ่งที่ต้องมีในการทำงานร่วมกันของสองวัย คือ ความยืดหยุ่นและรู้จักปรับตัวเข้าหากัน
“พอเราเห็นว่าการเป็นอินฟลูเอนเซอร์สามารถทำเป็นอาชีพได้ จึงชักชวนคุณแม่ทำช่อง TikTok ของคุณแม่เอง ให้คุณแม่เป็นคนเสนอไอเดีย ส่วนเราช่วยคิดคอนเทนต์ ตัดต่อ และกำกับการแสดง การทำงานด้วยกันทำให้เราสนิทกันมาก เข้าใจและรับฟังกัน เราได้เห็นโลกของอีกฝ่ายมากขึ้น ช่วยให้ยอมรับความแตกต่างของกันและกันได้ เรื่องวัยไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ถ้ายังไม่ได้ลอง คนวัยคุณแม่มักจะพูดกันว่าทำไม่ได้หรอก จริงๆ ทุกวัยสามารถทำได้เหมือนกัน อยู่ที่ว่าเราพร้อมจะเปิดใจและเรียนรู้หรือไม่ ก่อนหน้านี้คุณแม่ก็ไม่เข้าใจ ไม่เห็นความมั่นคงของการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ แต่ตอนนี้คุณแม่เข้าใจแล้วว่า ปัจจุบันโซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญ สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้”
คุณบรรดิษฐ์ แก้วคำ ทายาทรุ่นที่ 2 ผู้สานต่อธุรกิจ ร้านหอยทอดเจ๊ฮวย ชื่อดังแห่ง จ.นครสวรรค์ ของ
คุณแม่กิมฮวย แก้วคำ ด้วยการพลิกโฉมร้านให้เป็นจุดเช็คอินถ่ายรูป ปรับรูปแบบของอาหารให้ทันสมัย จนปัจจุบันมีลูกค้าเยอะมากขึ้น และกลายเป็นร้านหอยทอดเจ้าดังของนครสวรรค์ จากอดีตที่ไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว เนื่องจากเป็น LGBTQ คุณดิษฐ์ได้ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าไม่ว่าเป็นเพศไหนก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต
“ตอนที่ตัดสินใจมาช่วยแม่ดูแลร้านต่อ เราลงมือเปลี่ยนร้านจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตอนแรกแม่โกรธมาก แต่พอลูกค้ามาเยอะขึ้น ชมว่าร้านสวย ถ่ายรูปลงโซเชียลกัน แม่ก็หายโกรธ เราจะพาแม่ไปทานร้านอาหารสวยๆ ข้างนอกบ่อยๆ หรือเปิด Youtube ให้แม่ดู เพราะเดี๋ยวนี้ผู้บริโภคเขาเปลี่ยนแนว เราก็ต้องปรับตัวตามยุคสมัย เพิ่มทางเลือกให้กับร้านเรา แต่ยังคงคุณภาพความอร่อยตามสูตรของแม่ไว้ เราต้องปรับความเข้าใจ ฟังกันให้มากขึ้น ลองทำเป็นตัวอย่างให้แม่เขาเห็นผลลัพธ์แล้วเขาก็จะเข้าใจเอง ที่ผ่านมาเราพยายามพิสูจน์ตัวเองจนถึงวันที่แม่เข้าใจและยอมรับในตัวเรา ฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเป็น LGBTQ ขอให้เปิดใจยอมรับเขาให้ได้ ดูแลเขาให้ดีที่สุด ให้โอกาสและอิสระในการค้นหาตัวตนและสิ่งที่เขาอยากทำ”
ลุงเดช รังษี เจ้าของไร่ชาลุงเดช ไร่ชาสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่บนดอยม่อนเงาะ จ.เชียงใหม่ สถานที่เชื่อมความรัก กระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว รวมถึงลูกสาว
คุณน้อย วิภา อารีย์ ที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาช่วย ลุงเดช ดูแลร้านอาหาร คาเฟ่ ของไร่ชาลุงเดช เพื่อช่วยพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์และช่วยกันทำให้ไร่ชาลุงเดชกลายเป็นจุดเช็คอินชื่อดังของนักท่องเที่ยว ที่ต้องไม่พลาดเมื่อมาเที่ยวเชียงใหม่
“ลุงเกิดและโตที่นี่ จนตอนนี้เหลือแค่ลุงทำไร่ชาอยู่คนเดียว เพราะการทำไร่ชาค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่ลุงไม่ย่อท้อ เดินหน้าทำมาจนถึงทุกวันนี้ จนช่วงหลังมีนักท่องเที่ยวมาเยอะขึ้น ลุงเลยชวนลูกๆ หลานๆ มาช่วยเรื่องการลงโซเชียลต่างๆ การโปรโมตที่พัก อาหารและเครื่องดื่ม พอได้มาอยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกัน เจอกันทุกวันก็ได้เรียนรู้ความรู้สึกนึกคิดของเขา ทำให้เรามีความสุขมากกว่าเดิม ได้อยู่ใกล้ชิดครอบครัว ลุงอยากทำแบบพออยู่ได้ไม่ขาดทุน แต่เราก็ต้องว่าไปตามกระแสของโลก คอยบอกลูกเสมอว่าทำงานอย่าไปเอาเงินเป็นตัวตั้ง เอาความสุขเป็นตัวตั้งดีกว่า เราจะได้มีความสุขกับมัน”
ติดตามเรื่องราวของการเดินทางข้ามผ่านเส้นความต่างระหว่างวัย ของคนรุ่นใหม่และคนวัยเก๋าในรายการ “เก่งอย่างเก๋า” ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 19.00 น. ผ่านทาง Facebook และ YouTube: CHANGE2561 สามารถอัพเดททุกความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/change2561
