เจาะลึกการตั้งค่าโปรแกรมการซักผ้า เพื่อผ้าสะอาดหมดจดและใช้ได้นาน
สำหรับการซักผ้าด้วยเครื่อง คนส่วนใหญ่มักเลือกใช้โปรแกรมซั
กผ้าเพียงไม่กี่ฟังก์ชั่น เช่น โปรแกรมซักผ้าแบบทั่วไป โปรแกรมซักผ้าฝ้าย และไม่ใช้โปรแกรมเสริมที่มาพร้
อมกับเครื่องซักผ้าบางชนิด เนื่องจากไม่แน่ใจว่าโปรแกรมซั
กผ้าเสริมต่าง ๆ เหล่านี้มีประโยชน์อย่างไร ที่จริงแล้ว การเลือกใช้โปรแกรมซักผ้าเสริม เช่น การเลือกอุณหภูมิของน้ำและรอบปั่
นหมาด ช่วยตั้งค่าการทำงานของเครื่
องซักผ้าให้ตอบโจทย์กับความต้
องการได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น และยังส่งเสริมประสิทธิ
ภาพในการทำความสะอาดผ้ามากขึ้น แอลจี ซึ่งมีความมุ่งมั่นในการพั
ฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่
อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริ
โภค ตามสโลแกน “Life’s Good” ตระหนักถึงความสำคัญของการส่
งเสริมสุขภาวะที่ดี
และความปลอดภัยจากการสวมใส่เสื้
อผ้าที่สะอาดหมดจด จึงรวบรวมเคล็ดลับการตั้งค่
าโปรแกรมการซักผ้าแบบเจาะลึก เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้
งานเครื่องซักผ้าให้กับผู้บริ
โภค
อุณหภูมิของน้ำ
เรามักได้ยินว่าการซักผ้าด้วยน้ำ
ร้อนเป็นการทำความสะอาดที่ดีที่
สุด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ผ้าแต่ละชนิดมีข้อจำกัดในการซั
กที่แตกต่างกันออกไป ผ้าบางชนิดไม่สามารถซักด้วยน้ำ
ร้อนได้ การขจัดคราบเปื้อนแต่ละชนิ
ดบนเสื้อผ้ายังต้องการการดู
แลและซักด้วยน้ำในอุณหภูมิที่
แตกต่างกัน โดยแอลจีมีเคล็ดลับในการเลือกซั
กผ้าด้วยน้ำร้อนและน้ำเย็น ดังนี้
- น้ำร้อน ช่วยให้ผงซักฟอกละลายและทำความสะอาดคราบสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความร้อนที่อุณหภูมิสูงตั้งแต่ 60 องศาเซลเซียสขึ้นไปยังช่วยฆ่าเชื้อโรค ไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ในเนื้อผ้า จึงเหมาะกับการซักผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว และผ้านวม รวมถึงการขจัดคราบหมึกปากกา คราบช็อคโกแลต คราบกาแฟ และคราบน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนกับผ้าบอบบางและผ้าย้อมสี เพราะอาจทำลายเนื้อผ้าให้เสียหายได้
- น้ำเย็น สำหรับผ้าที่มีเนื้อละเอียดอ่อนควรซักด้วยน้ำเย็นเท่านั้น รวมถึงเสื้อขนสัตว์ ชุดผ้าไหม ยีนส์ย้อมสี และเสื้อผ้ามัดย้อม โดยแนะนำให้ใช้น้ำเย็นในอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสขึ้นไป เพื่อป้องกันปัญหาผงซักฟอกละลายไม่หมด และจับตัวเป็นก้อนซึ่งทำให้เกิดคราบขาวบนเสื้อผ้า น้ำเย็นยังมีประสิทธิภาพในการกำจัดคราบโปรตีนบนเนื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นคราบนม คราบไอศกรีม และคราบไข่ เป็นต้น
รอบปั่นหมาด คือจำนวนรอบการหมุนต่อนาที
ในการปั่นผ้าให้แห้ง ยิ่งจำนวนรอบมากเท่าไร ยิ่งทำให้ผ้าแห้งเร็วเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เราจำเป็นต้องคำนึงถึงลั
กษณะของเนื้อผ้าแต่ละชนิ
ดในการเลือกรอบปั่นหมาด เนื่องจากรอบปั่นหมาดที่
มากจนเกินไปสำหรับผ้
าบางอาจทำให้เกิดการฉีกขาดได้ เคล็ดลับในการเลือกรอบปั่
นหมาดตามชนิดของผ้า มีดังนี้
- รอบปั่นหมาดที่ 1,000 รอบต่อนาที เหมาะกับผ้าฝ้าย ผ้าขนสัตว์ และผ้าที่ซักด้วยมือที่ต้องการให้ผ้าแห้งมากขึ้นก่อนนำไปตาก ข้อดีของการใช้รอบปั่นหมาดในจำนวนที่สูงจะช่วยลดระยะเวลาในการตากผ้า ประหยัดเวลาและค่าไฟเมื่อนำผ้าไปอบในเครื่องอบผ้าต่อ หากเป็นผ้าที่มีความหนาเป็นพิเศษ เช่น ผ้ายีนส์ ควรใช้รอบปั่นหมาดมากกว่า 1,000 รอบต่อนาทีขึ้นไป
- รอบปั่นหมาดที่ต่ำกว่า 800 รอบต่อนาที เหมาะกับผ้าเนื้อบาง ผ้าไหม ผ้านวม และผ้าที่ต้องการให้รีดง่าย เนื่องจากการใช้รอบปั่นหมาดในจำนวนที่ลดลง จะช่วยให้เสื้อผ้ามีรอยยับน้อยลง โดยเสื้อผ้าบางชนิดอาจไม่จำเป็นต้องนำมารีดหลังการปั่นหมาดเลยก็ได้
นอกจากเคล็ดลับในการตั้งค่
าโปรแกรมซักผ้าเสริมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิ
ภาพในการทำความสะอาดเสื้อผ้าแล้
ว แอลจียังนำเสนออีกทางเลือกหนึ่
งด้วย
เครื่องซักผ้าแอลจี AI DDTM[1] ที่สามารถทำความสะอาดผ้าได้ล้ำ
ลึกและอ่อนโยน ด้วยความล้ำหน้าของเทคโนโลยี
AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลด้านพฤติ
กรรมการใช้งานผ่านบิ๊กดาต้า เพื่อนำเสนอรูปแบบการซักผ้าที่
เหมาะสมที่สุดกับน้ำหนักและเนื้
อผ้าแต่ละชนิด เมื่อเลือกใช้โปรแกรมซักผ้าฝ้าย (Cotton) ซักผ้าทั่วไป (Mixed Fabric) หรือ ผ้าที่ไม่ต้องรีด (Easy Care) เพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดแก่ผู้
บริโภคยุคดิจิทัล
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2878-5757