CPF หนุน 7 คอมเพล็กซ์ไก่ไข่ ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ลดของเสียในกระบวนการผลิต บริหารทรัพยากรคุ้มค่า
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ส่งเสริมหน่วยธุรกิจในองค์กร นำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ดำเนินงาน ชูคอมเพล็กซ์ไก่ไข่ 7 แห่งทั่วประเทศ บริหารจัดการทรัพยากรเกิดประโยชน์สูงสุด และลดของเสียในกระบวนการผลิต โชว์ความสำเร็จระบบผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลไก่หรือไบโอแก๊ส (Biogas) ผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าใช้เอง ลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ 85% และในปี 2563 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 113,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
นายสมคิด วรรณลุกขี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจไก่ไข่ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า คอมเพล็กซ์ไก่ไข่ทั้ง 7 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก นครราชสีมา ร้อยเอ็ด อุดรธานี จันทบุรี และสงขลา นอกจากให้ความสำคัญในเรื่
องกระบวนการผลิตที่
สะอาดและปลอดภัย เพื่อส่งมอบสู่ผู้บริโภคแล้ว ยังนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวี
ยนมาใช้บริหารจัดการทรัพยากรให้
เกิดประโยชน์สูงสุดตลอดห่วงโซ่
การผลิต ลดของเสียในกระบวนการผลิต รวมไปถึงการนำของเสียกลับไปใช้
ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งในกระบวนการเลี้ยงไก่ มีการจัดการของเสีย ด้วยระบบการผลิตก๊าซชีวภาพจากมู
ลไก่ หรือไบโอแก๊ส (Biogas) ช่วยลดกลิ่น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่
ชั้นบรรยากาศ และยังได้พลั
งงานสะอาดจากกระบวนการหมักก๊
าซมีเทนเปลี่ยนน้ำเสียเป็
นไบโอแก๊ส สามารถนำไปผลิตเป็นกระแสไฟฟ้
าสำหรับใช้ภายในคอมเพล็กซ์ ช่วยลดต้นทุนด้านไฟฟ้าถึง 65-85% โดยในปี 2563 คอมเพล็กซ์ไก่ไข่ 7 แห่ง สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้กว่า 103 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้
กว่า 113,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
หลังจากกระบวนการหมักในระบบไบโอแก๊ส จะมีน้ำหลังการบำบัดที่โดยปกติจะไม่มีการปล่อยออกสู่ภายนอก สามารถใช้หมุนเวียนไปผสมกับมูลไก่ในระบบฯได้อีกครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำดิบจากธรรมชาติ ส่วนกากไบโอแก๊ส ที่เกิดจากกระบวนการหมักและบำบัด มีเกษตรกรที่ขอไปใช้ประโยชน์ในการปรับสภาพดินก่อนที่จะปลูกพืช หรือทำนา ส่วนน้ำหลังการบำบัด ซึ่งเป็นน้ำที่มีคุณภาพมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด เป็นน้ำปุ๋ยที่มีแร่ธาตุเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืช เกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงนำไปใช้ในไร่ สวน ช่วยให้ผลผลิตเติบโตได้ดี มีผลผลิตเพิ่มขึ้น และช่วยลดค่าปุ๋ยเคมี
นอกจากนี้ คอมเพล็กซ์ไก่ไข่ทั้ง 7 แห่ง มีโครงการพัฒนาประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ซึ่่งได้ผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยสามารถช่วยลดปริมาณไข่ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาทิ ไข่ร้าว ไข่ซีด ไข่บุบ ฯลฯ รวมไปถึงยังช่วยลดต้นทุนและลดของเสียที่เป็นภาระต้องกำจัดได้
นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในการจัดการของเสีย อาทิ ไข่ที่แตกจากกระบวนการผลิต ทั้งน้ำไข่ผสมเปลือก และน้ำไข่เสื่อมสภาพ มีการบริหารจัดการ โดยจำหน่ายให้แก่เกษตรกรในพื้นที่นำไปใช้ประโยชน์ หรือนำไปทำเป็นอาหารเลี้ยงปลา เป็นต้น เป็นการช่วยลดปริมาณขยะฝังกลบ และขยะที่ต้องกำจัดลงได้
ในส่วนของเปลือกไข่ไก่ที่เกิดจากกระบวนการแปรรูปไข่ โรงงานแปรรูปไข่บ้านนา จังหวัดนครนายก ได้ดำเนินโครงการ “ปุ๋ยอินทรีย์จากเปลือกไข่บด” นำเปลือกไข่ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตปีละประมาณ 1,000 ตัน มาบดเพื่อแบ่งปันให้เกษตรกรใช้เป็นปุ๋ย ช่วยลดต้นทุนทางการเกษตร เป็นการสร้างประโยชน์สูงสุดในการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ตัดวงจรการนำเปลือกไข่ไปทิ้งสู่หลุมฝังกลบ